เจาะลึก "ผีกระสือ"


     บทความนี้ขอเสนอ การตีแผ่ถึงเรื่องผีไทย "ผีกระสือ" ถึงประวัติและความเป็นมาตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน เรามาทำความรู้จัก ผีกระสือ อย่างเจาะลึกรวมถึงความเชื่อเรื่อง ผีกระสือ ในต่างประเทศ ดูเหมือนว่าผีกระสือนั้นจะเป็นที่แพร่หลายในอดีตการ อาจจะเกิดการพลัดถิ่นฐาน และแพร่กระจายไปด้วยผ่านน้ำลาย ลองมาดูเรื่องความเชื่อนี้กันเลยครับ


     กระสือเป็นผีไทย มีความเชื่อว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ตอนเป็นมนุษย์มักทำงานหากินในทางสกปรก มีนิสัยโลภ โทสะ ชอบกดขี่ข่มเหงและขูดรีดชาวบ้าน รับสินบน ทำผิดศีลค่อนข้างเยอะ แล้วได้ทำการบูชาไสยศาสตร์มนต์ดำ(เดรัจฉานวิชา) แต่เกิดทำผิดข้อห้าม เพราะด้วยอำนาจแรงกรรมที่ทำผิดข้อห้ามและทำผิดศีล วิญญาณภูต ผี ปีศาจที่ตนเลี้ยงไว้ก็ได้หลุดแล้วเข้าตัวของคนนั้น วิญญาณบรมครูก็เลยลงโทษ จนกลายเป็นกระสือไปในที่สุด บ้างก็กล่าวว่าเกิดจากกรรมชั่วเก่าๆ ที่ทำไว้เมื่อชาติที่แล้ว ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินเวลากลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีแดง แต่ส่วนมากจะเป็นแสงสีเขียวเรืองวามๆ โดยจะเริ่มออกหากินตั้งแต่เวลาหัวค่ำไปจนถึงทั้งคืน และจะกลับเข้าร่างเวลาใกล้รุ่งสาง

เวลากลางวันจะมีลักษณะร่างกายเหมือนคนทั่วไป แต่มีพฤติกรรมหรืออาการแบบแปลกๆ ผิดปกติ เช่น ไม่ชอบสบตาคน เงียบๆ ไม่พูดไม่จากับใคร ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว บ้างก็ไม่ชอบแสงสว่างก็มี

กระสือ ชอบกินของเหม็นเน่า เวลากินก็ต้องเปลี่ยนร่างก่อน มีรูปร่างลักษณะ แบบคนผอมดำๆน่าเกลียด ไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วจึงกินของเน่าของสกปรกด้วยความหิวโซ  พอกินเสร็จแล้วจะมาเช็ดปากกับผ้าของชาวบ้านซึ่งตากทิ้งไว้ค้างคืน มีความเชื่อกันว่าถ้าเอาผ้าที่กระสือเช็ดปากไปตีกับของแข็งต่างๆแรงๆ จะทำให้กระสือปากบวมเจ่อขึ้นมา หรือถ้าเอาผ้าไปต้มปากก็จะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน


นอกจากนี้บางตำนานยังเล่าว่า ผีกระสือจะสิงในร่างของผู้หญิง ตอนกลางวันก็เป็นผู้หญิงทั่วๆไป แต่กลับมีพฤติกรรมคล้ายคนป่วยเจ็บออดๆแอดๆ  แต่พอตกกลางคืน วิญญาณร้ายของกระสือที่สิงอยู่ในร่างกายจะบีบให้ศีรษะและอวัยวะภายในหลุดแยกออกจากร่างกาย สามารถลอยได้ โดยลอยออกไปล่าเหยื่อกินควายรวมทั้งสัตว์เล็ก ๆ เช่น กบ , หนูนา แต่จะชอบไม่ให้คนเห็นและชอบทำตัวแอบๆซ่อนๆพยายามไม่ให้ใครเจอ และไม่ทำร้ายคนก่อนนอกจากจะจนตรอกจริงๆแล้วจึงสู้ ชอบกินเครื่องในมาก

     ปกติแล้วกระสือจะไม่ทำร้ายคน ว่ากันว่าเมื่อกระสือออกหากินเวลากลางคืนแล้วเมื่อพบกับคนก็จะลอยหนีหายไป ถ้าหากคนทำให้กระสือเกิดความไม่พอใจ โกรธ กระสือจะมีความแค้น อาฆาตพยาบาท เมื่อกระสือได้ชำระแค้นกับคนๆ นั้นแล้ว ก็อยู่ที่ว่าจะแค่บาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งไส้สดๆ แดงๆ หวานๆ  จากนั้นก็ลอยไปเช็ดปากตามเสื้อที่ตากไว้ตามบ้านคน

กระสือนั้นเมื่อเจ็บจวนจะตายก็ไม่ตายเด็ดขาด และจะต้องคายน้ำลายของตนถ่ายเข้าปากลูกหลานคนใดคนหนึ่งไว้ให้สืบทายาทเป็นกระสือต่อก่อน ตนจึงจะตายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป

กระสือในกัมพูชาเรียกว่า "เอิบ" (เขมร: អាប อาบ) มีการสันนิษฐานว่ากระสือมีที่มาจากประเทศกัมพูชา โดยเกิดจากผู้ที่บูชาไสยศาสตร์มนต์ดำเขมร แล้วทำผิดข้อห้าม

ในลาวเรียก "กะสือ" (ลาว: ກະສື)

ในเวียดนามเรียก "มาลาย" (เวียดนาม: ma lai)

ในแถบมาเลเซียยังมีเรื่องของผีที่มีลักษณะคล้ายกระสือของไทยด้วย เรียกว่า "ฮันตูปินังกาลัน" หรือ "ปินังกาลัน" (มลายู: Hantu penanggal, Penanggalan)

1 ความคิดเห็น:

  1. ำฟเฟดฟพฟกฟะฟพฟพฟัฟะฟพฟะหดฟะำะหกำะหดำเก้พ้หฟหฟฟฟกฟกฟกฟดฟกหกหหกหด

    ตอบลบ