ล่าอวัยวะเด็กมาทำไสยศาสตร์
ฟอสติน เอ็นดูกูลิเล (Faustine Ndugulile) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขของแทนซาเนีย ให้สัมภาษณ์ว่า เด็ก 10 คน ซึ่งถูกลักพาตัวในแทนซาเนีย ถูกพบเป็นศพและชิ้นส่วนศพของถูกตัดออกไป หลังจากเด็กทั้ง 10 คนอายุระหว่าง 2-9 ขวบ หายตัวไปตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ในเขตเมืองเอ็นจอมเบ (Njombe) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแทนซาเนีย
เอ็นดูกูลิเล กล่าวว่า ศพของเด็กบางคนถูกตัดแขนตัดขาและถอนฟันไปด้วย ซึ่งเชื่อว่า อวัยวะเหล่านี้ จะถูกนำไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ตามความเชื่องมงายที่หลายคนก็เชื่อว่า จะช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากเวทมนตร์คาถา หรือสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ โดยเหตุฆาตกรรมในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำลังสอบสวน
ศพทั้งหมดถูกพบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากตำรวจปฏิบัติการค้นหาในพื้นที่ และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้รายหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดของเด็ก 3 คน ที่มาจากครอบครัวเดียวกัน โดยเด็กทั้งหมดถูกนำตัวออกจากบ้านในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ของเด็กขายอาหารอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่ง
นักข่าวบอกว่า หมอผีบางคนในภูมิภาค บอกประชาชนว่า ชิ้นส่วนศพมนุษย์มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถบันดาลความร่ำรวยและความโชคดีให้พวกเขาได้ แต่รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขของแทนซาเนีย กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า การเข่นฆ่าเหล่านี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการฆาตกรรมคนผิวเผือก ที่อวัยวะของคนผิวเผือกได้รับความนิยมแพร่หลายในการนำไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมักเกิดขึ้นในแทนซาเนียและหลายพื้นที่ของแอฟริกาตะวันออก แต่มันก็น่าเศร้ามาก เพราะพวกเขายังเป็นเด็ก และชิ้นส่วนอวัยวะ ไม่มีคุณสมบัติที่จะนำไปใช้ประกอบพิธีกรรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่เรียกร้องให้พ่อแม่และผู้ปกครองของเด็ก เพิ่มความระมัดระวัง และสอนลูกหลานอย่าหลงเชื่อการชักจูงจากใครง่าย ๆ แม้แต่คนรอบข้าง
จากการเปิดเผยขององค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดัง ระบุว่า แทนซาเนีย เป็นประเทศหนึ่งที่มีอัตราส่วนของคนผิวเผือกสูงที่สุดในโลก คิดเป็น 1 ต่อ 1,500 คน แต่เนื่องจากขาดการศึกษา คนผิวเผือกมักถูกฆ่าเพื่อเอากระดูกและอวัยวะ ไปขายให้บรรดาหมอผี เพื่อทำเสน่ห์ยาแฝด และไสยศาสตร์อื่น ๆ ตามความเชื่อของคนในพื้นที่
Post a Comment