เบญจเพสสยอง
เว็บเเทงบอลออนไลน์
บางคนเปรียบ เบญจเพส เหมือนฟันคุดเมื่อถึงเวลาก็ต้องเจ็บ แต่ถ้าว่า เบญจเพส มีกำหนดการที่ชัดเจนเมื่ออายุครบ 25ปี วัยเบญจเพส จะต้องเจอกับเหตุอาเพศ เคราะห์ร้ายที่เข้ามาในชีวิต ต้องเจอกับสิ่งลี้ลับ หรือบางคนอาจจะเสียชีวิตเลยก็ได้ วัยที่อยู่ในช่วงคะนองมันช่างหอมหวานที่ผีร้ายจ้องทำร้ายหรือมีประสงค์อื่นใดก็เป็นได้ แต่ถ้าเบญจเพสให้คุณชีวิตก็จะดีอย่างน่าทึ่ง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวเราค่ะ เกิดขึ้นเมื่อตอนน้องสาวเราอายุ 25 ปี เข้าเบญจเพส ช่วงนั้นมีคุณยายที่รู้จักทักน้องเราว่าอย่าไปงานศพ ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยง ทำบุญให้เยอะ ซึ่งน้องก็ทำตามมาตลอด จนผ่านไป 3-4 เดือน มีวันหนึ่งพ่อของ น้องเอ ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานด้วยกันเสีย ด้วยความที่สนิทกัน ยังไงน้องเราก็ต้องไปงานศพค่ะ ก็รอเลิกงานไปพร้อมกับเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆ
พอไปถึงงานศพ เจอน้องเอก็เข้าไปปลอบกันตามปกติ ตอนนั้นพระใกล้สวดแล้ว แต่ในงานมีคนไม่กี่คน เข้าใจว่าน่าจะมีแค่ญาติๆ เอพาน้องสาวเรากับเพื่อนๆ ที่ทำงานไปจุดธูปไหว้พ่อ น้องเล่าว่าตอนไหว้อยู่ได้กลิ่นเหมือนอับๆ ชื้นๆ แตะจมูกอย่างชัดเจน แต่เหมือนทุกคนจะไม่ได้กลิ่น ก็เลยไม่ได้พูดอะไร.. แต่มาเห็นก็ตอนพระเริ่มสวดนี่ล่ะค่ะ น้องเรามองไปที่ที่เอนั่งแถวหน้าสุด ก็ต้องตกใจ เพราะเห็นพ่อของเอยืนก้มหน้าอยู่ตรงข้างหน้าเอ ตัวของพ่อเอเปียกน้ำชุ่มแบบมีน้ำหยดเลย พ่อเอก้มหน้ามาเหมือนพยายามจะพูดบางอย่างกับเอ แต่ไม่มีเสียงออกมา และเอก็เหมือนจะไม่เห็น
ตอนนั้นเอง เหมือนพ่อเอจะรู้ว่าน้องเรามองเห็นเขา พ่อเอเงยหน้ามามองน้องเรา น้องบอกว่าหน้าพ่อเอแบบซีดมากๆ พ่อเอพยายามจะพูดบางอย่าง แต่มันไม่มีเสียง น้องสาวเราเริ่มกลัวเลยก้มหน้าหลบ สักพัก มีความรู้สึกว่าพ่อของเอมานั่งตรงที่ว่างข้างๆ น้องเรา เพราะเห็นเป็นขาที่เปียกชุ่มน้ำกับตาเลย แต่ก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าไปมอง น้องเราเลยคิดในใจว่า ‘หนูไม่รู้ว่าลุงต้องการอะไร หนูอยากช่วยนะ แต่หนูไม่ได้ยินเสียงลุงเลยค่ะ..’ พอน้องเรามองอีกที ก็ไม่เห็นพ่อของเอแล้ว น้องเราไม่กล้าเล่าให้เอฟัง เพราะเห็นว่ากำลังเสียใจอยู่
ในคืนนั้น พอน้องสาวเรากลับมานอน ช่วงกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็ฝันว่าพ่อของเอมาหา พยายามพูดแต่ก็ไม่มีเสียงเหมือนเดิม ในฝันพ่อเอพาน้องเราไปที่บ้านเอ แล้วเดินไปที่ห้องนอน ก่อนจะนั่งลงแล้วทำท่าเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างที่ตู้ข้างเตียง และลุกขึ้นแล้วทำท่าชี้ไปที่หัวเตียง แล้วพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง..
วันรุ่งขึ้นน้องสาวเราไปหาเอที่บ้านแต่เช้า เล่าเรื่องในงานศพ และเรื่องที่ฝันให้เอฟัง เอก็บอกว่าเมื่อคืนก็ฝันคล้ายๆ กัน ว่าพ่อชี้ไปที่ห้องนอนของพ่อ เอเลยชวนน้องเราเข้าไปในห้องนอนของพ่อเอ น้องเราบอกว่าเมื่อคืนเห็นพ่อเอนั่งตรงนี้ ค้นหาบางอย่างที่ตู้ ก่อนจะชี้ไปที่หัวเตียง ซึ่งเตียงมันจะเป็นเตียงไม้สมัยก่อน ที่หัวเตียงเป็นลิ้นชักไม้เอาไว้เก็บของ น้องเราลองค้นตาม ก็เจอกุญแจอยู่ที่ตู้ข้างเตียง เป็นกุญแจของลิ้นชักหัวเตียงนั่นเอง ในลิ้นชักนั้นมีประกันชีวิตที่พ่อทำไว้ให้เอ กับเงินอีกเกือบสี่แสนบาท พอเอเห็นแบบนั้นถึงกับร้องไห้ออกมาเลย เอเล่าให้น้องเราฟังว่า พ่อไปค้ำประกันให้เพื่อนแล้วเพื่อนหนี เขาเลยจะฟ้องพ่อ พ่อก็คงเครียด เอเองก็เพิ่งรู้ไม่นาน พ่อคงห่วงที่เอยังเรียนไม่จบ และนี่อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อจะให้เอได้.. ส่วนเรื่องที่น้องเราเห็นพ่อเอตัวเปียกชุ่ม ก็เพราะพ่อเอหายจากบ้านไป ก่อนจะเจอเป็นศพลอยน้ำ เอเองก็ไม่แน่ใจว่าพ่อกินเหล้าแล้วเมาตกน้ำ หรือว่าตั้งใจฆ่าตัวตายกันแน่ แต่น้องเราก็บอกกับเอไปว่า สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ พ่อเอรักเอมากนั่นเอง..
บางคนเปรียบ เบญจเพส เหมือนฟันคุดเมื่อถึงเวลาก็ต้องเจ็บ แต่ถ้าว่า เบญจเพส มีกำหนดการที่ชัดเจนเมื่ออายุครบ 25ปี วัยเบญจเพส จะต้องเจอกับเหตุอาเพศ เคราะห์ร้ายที่เข้ามาในชีวิต ต้องเจอกับสิ่งลี้ลับ หรือบางคนอาจจะเสียชีวิตเลยก็ได้ วัยที่อยู่ในช่วงคะนองมันช่างหอมหวานที่ผีร้ายจ้องทำร้ายหรือมีประสงค์อื่นใดก็เป็นได้ แต่ถ้าเบญจเพสให้คุณชีวิตก็จะดีอย่างน่าทึ่ง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวเราค่ะ เกิดขึ้นเมื่อตอนน้องสาวเราอายุ 25 ปี เข้าเบญจเพส ช่วงนั้นมีคุณยายที่รู้จักทักน้องเราว่าอย่าไปงานศพ ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยง ทำบุญให้เยอะ ซึ่งน้องก็ทำตามมาตลอด จนผ่านไป 3-4 เดือน มีวันหนึ่งพ่อของ น้องเอ ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานด้วยกันเสีย ด้วยความที่สนิทกัน ยังไงน้องเราก็ต้องไปงานศพค่ะ ก็รอเลิกงานไปพร้อมกับเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆ
พอไปถึงงานศพ เจอน้องเอก็เข้าไปปลอบกันตามปกติ ตอนนั้นพระใกล้สวดแล้ว แต่ในงานมีคนไม่กี่คน เข้าใจว่าน่าจะมีแค่ญาติๆ เอพาน้องสาวเรากับเพื่อนๆ ที่ทำงานไปจุดธูปไหว้พ่อ น้องเล่าว่าตอนไหว้อยู่ได้กลิ่นเหมือนอับๆ ชื้นๆ แตะจมูกอย่างชัดเจน แต่เหมือนทุกคนจะไม่ได้กลิ่น ก็เลยไม่ได้พูดอะไร.. แต่มาเห็นก็ตอนพระเริ่มสวดนี่ล่ะค่ะ น้องเรามองไปที่ที่เอนั่งแถวหน้าสุด ก็ต้องตกใจ เพราะเห็นพ่อของเอยืนก้มหน้าอยู่ตรงข้างหน้าเอ ตัวของพ่อเอเปียกน้ำชุ่มแบบมีน้ำหยดเลย พ่อเอก้มหน้ามาเหมือนพยายามจะพูดบางอย่างกับเอ แต่ไม่มีเสียงออกมา และเอก็เหมือนจะไม่เห็น
ตอนนั้นเอง เหมือนพ่อเอจะรู้ว่าน้องเรามองเห็นเขา พ่อเอเงยหน้ามามองน้องเรา น้องบอกว่าหน้าพ่อเอแบบซีดมากๆ พ่อเอพยายามจะพูดบางอย่าง แต่มันไม่มีเสียง น้องสาวเราเริ่มกลัวเลยก้มหน้าหลบ สักพัก มีความรู้สึกว่าพ่อของเอมานั่งตรงที่ว่างข้างๆ น้องเรา เพราะเห็นเป็นขาที่เปียกชุ่มน้ำกับตาเลย แต่ก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าไปมอง น้องเราเลยคิดในใจว่า ‘หนูไม่รู้ว่าลุงต้องการอะไร หนูอยากช่วยนะ แต่หนูไม่ได้ยินเสียงลุงเลยค่ะ..’ พอน้องเรามองอีกที ก็ไม่เห็นพ่อของเอแล้ว น้องเราไม่กล้าเล่าให้เอฟัง เพราะเห็นว่ากำลังเสียใจอยู่
ในคืนนั้น พอน้องสาวเรากลับมานอน ช่วงกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็ฝันว่าพ่อของเอมาหา พยายามพูดแต่ก็ไม่มีเสียงเหมือนเดิม ในฝันพ่อเอพาน้องเราไปที่บ้านเอ แล้วเดินไปที่ห้องนอน ก่อนจะนั่งลงแล้วทำท่าเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างที่ตู้ข้างเตียง และลุกขึ้นแล้วทำท่าชี้ไปที่หัวเตียง แล้วพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง..
วันรุ่งขึ้นน้องสาวเราไปหาเอที่บ้านแต่เช้า เล่าเรื่องในงานศพ และเรื่องที่ฝันให้เอฟัง เอก็บอกว่าเมื่อคืนก็ฝันคล้ายๆ กัน ว่าพ่อชี้ไปที่ห้องนอนของพ่อ เอเลยชวนน้องเราเข้าไปในห้องนอนของพ่อเอ น้องเราบอกว่าเมื่อคืนเห็นพ่อเอนั่งตรงนี้ ค้นหาบางอย่างที่ตู้ ก่อนจะชี้ไปที่หัวเตียง ซึ่งเตียงมันจะเป็นเตียงไม้สมัยก่อน ที่หัวเตียงเป็นลิ้นชักไม้เอาไว้เก็บของ น้องเราลองค้นตาม ก็เจอกุญแจอยู่ที่ตู้ข้างเตียง เป็นกุญแจของลิ้นชักหัวเตียงนั่นเอง ในลิ้นชักนั้นมีประกันชีวิตที่พ่อทำไว้ให้เอ กับเงินอีกเกือบสี่แสนบาท พอเอเห็นแบบนั้นถึงกับร้องไห้ออกมาเลย เอเล่าให้น้องเราฟังว่า พ่อไปค้ำประกันให้เพื่อนแล้วเพื่อนหนี เขาเลยจะฟ้องพ่อ พ่อก็คงเครียด เอเองก็เพิ่งรู้ไม่นาน พ่อคงห่วงที่เอยังเรียนไม่จบ และนี่อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อจะให้เอได้.. ส่วนเรื่องที่น้องเราเห็นพ่อเอตัวเปียกชุ่ม ก็เพราะพ่อเอหายจากบ้านไป ก่อนจะเจอเป็นศพลอยน้ำ เอเองก็ไม่แน่ใจว่าพ่อกินเหล้าแล้วเมาตกน้ำ หรือว่าตั้งใจฆ่าตัวตายกันแน่ แต่น้องเราก็บอกกับเอไปว่า สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ พ่อเอรักเอมากนั่นเอง..
Post a Comment