บ้านพักตากอากาศ

     เราใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่าทุกนาที วันหยุดยาวหากมีโอกาสและมีเงินโบนัสสักหน่อยการได้ไปต่างจังหวัดรับอากาศดีๆ ทางเลือกหนึ่งการหาที่พักง่ายๆโดยการจองที่พักผ่านเว็บไซต์ ตัวแทน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีโดยส่วนมากเราจะได้ที่พักที่ดีสมราคา แต่เราจะไม่ทราบประวัติความเป็นมาของบ้านนั้นสักเท่าไหร่ ซึ่งบางครั้งสิ่งได้มาเป็นของแถมสำหรับประสบการณ์พักผ่อนนั้น จะมีเรื่องหลอนๆกับบ้านพักตากอากาศมาด้วย เรื่องจริงที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ลองไปฟังกันเลยครับ

     สวัสดีค่ะ วันนี้มีประสบการณ์หลอนๆ จากการไปเที่ยวปีใหม่มาเล่าให้ฟังค่ะ
หยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมาครอบครัวเราได้เดินทางไปเที่ยวสวนผึ้งราชบุรี และหัวหินคะ
2 วันแรกที่ไปเที่ยวสวนผึ้งเหตุการณ์ทุกอย่างปกติคะ
จนมาเข้าวันที่ 3 4 พวกเราได้มาพักที่บ้านพักหัวหินหลังนึง
ซึ่งบ้านพักหลังนี้เราได้ทำการจองผ่านเว็บไซต์ ตัวแทนแห่งนึง เราจองไว้ตั้งแต่เดือน ตุลาคมค่ะ
เมื่อมาถึงที่พัก บอกรายละเอียดบ้านพักก่อนนะคะ เป็นบ้านเดี่ยว มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีสระว่ายน้ำในตัว
มีบริเวณบ้าน มีที่จอดรถสำหรับจอดรถ 3 คัน ของใช้อุปกรณ์ภายในบ้านครบครัน
เหมือนเป็นบ้านที่มีคนอยู่จริงๆ ไม่ได้มีไว้แค่ให้เช่า ราคาอยู่ที่ คืนละ 12000 บาท
ซึ่งสะดวกมากๆ สำหรับ ครอบครัวใหญ่แบบเรา เราไปกันถึง 14 คนค่ะ 4 ครอบครัว
ครอบครัวที่ 1 ครอบครัวของพี่สาว มีพี่สาว พี่เขย ลูกชาย และลูกสาว
ครอบครัวที่ 2 ครอบครัวของน้า มีคุณน้า น้าเขย ลูกสาว 2 คน
ครอบครัวที่ 3 ครอบครัวของเรา มีดิฉันและคุณแฟน
ครอบครัวที่ 4 น้องชาย แฟนน้องชาย และเพื่อนของน้องชายอีก 2 คน


วันแรกที่เข้าพัก...หลังจากเดินทางมาถึงเจอเจ้าของบ้านรับกุญแจจากเจ้าของบ้านพร้อมบอกรายละเอียดต่างๆ
เจ้าของบ้านเป็นผู้หญิงค่ะ ผิวคล้ำตัวเล็ก ท่าทางระเบียบจัด อายุประมาณ 40 -45 ปี
เค้าบอกว่าเป็นบ้านของเค้ากับสามีฝรั่ง แต่ตอนนี้สามีเค้ากลับไปประเทศเค้าเลยปล่อยให้เช่า
ตัวเค้าไปอยู่กับลูกสาวในตัวเมือง

ความรู้สึกแรกที่เข้ามาในบ้าน มันรู้สึกแปลกๆ ค่ะ แปลก แบบบอกไม่ถูก รู้สึกหดหู่ วังเวง ชอบกล
ส่วนตัวต้องบอกก่อนนิดนึงว่าเป็นคนค่อนข้างมีเซ้นส์ กับสิ่งแปลกๆ พวกนี้
หน้าบ้านมีหิ้งพระเราก็ยกมือไหว้ บอกกล่าวว่าจะมาเข้าพัก (เป็นความเชื่อส่วนตัวคะว่าไปพักที่ไหนต้องขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง)
แล้วเราก็สบายใจขึ้น แต่ในใจ ยังเหวงๆ ชอบกล แต่คิดไปว่า คงเพราะเดินทางมาเหนื่อยๆ เลยเกิดอาการแบบนี้
เมื่อจัดของ แยกย้ายสัมภาระเข้าห้องใครห้องมัน ก็ถึงเวลาสนุก
ทุกคนก็เล่นน้ำในสระว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน พวกหนุ่มๆ ก็ตั้งวงดื่มเบียร์ริมสระว่ายน้ำ
4 ทุ่ม ส่งเด็กๆ เข้านอนกันหมด เหลือก็แต่หนุ่มๆ 5 คน นั่งดื่มเบียร์ตอนนี้ย้ายเข้ามาดื่มในบ้านแล้วคะ
พวกเรา สาวๆ 3 คน มีพี่สาว ตัวเรา และแฟนน้องชาย ก็ มานั่งคุยเล่นใกล้ๆ วงเบียร์ สักพัก พี่สาวพูดขึ้นว่า
" เห้ย แกว่าบ้านหลังนี้เป็นไงวะ " ตอนนั้นเราตงิดๆใจแล้วนะคะ แต่พยายามเบี่ยงเบนพูดว่าก็สวยดีนะ
พี่สาวเราบอกว่า เออ สวยดี แต่แปลกๆ วะ พี่เขยเราตะโกนมาจากวงเบียร์ว่า แปลกไงวะ คิดมาก
ไปนอนได้แล้ว แฟนน้องชายเราก็ หันมามองหน้าเราแล้วพูดว่า เจ๊ว่าไง บอกนิดนึงคะว่าเราสนิทกะแฟนน้องชายมาก
น้องเค้ารู้ด้วยว่าเราเป็นคนมีเซ้นส์ เราก็บอกว่าไม่มีไรหรอก พี่ไหว้เจ้าที่แล้ว ไปนอนกัน
แฟนน้องชายก็เข้าไปนอนในห้อง เราก็เข้านอน เหลือแต่พี่สาวยังนั่ง จัดกับแกล้มให้บรรดาหนุ่มๆ

เที่ยงคืน..
เราก็ยังนอนไม่หลับ อาจจะเพราะผิดที่ ก็เลยนั่งเล่นมือถือเรื่อยๆ จนถึง ตี 1 หนุ่มๆ ก็แยกย้ายเข้าห้องนอน
มีเพื่อนของน้องชายที่มาด้วย 2 คน นอนห้องรับแขก
แฟนเราก็ถาม ทำไมยังไม่นอน เราก็บอกว่า ผิดที่อ่ะ เดี๋ยวก็จะหลับแล้วละเริ่มง่วงละ
ตี2..
แฟนหลับแล้วคะ กรึ่มๆ เราก็ยังไม่หลับ เดินลุกมาเข้าห้องน้ำห้องรับแขก
ห้องดิฉันไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ มีเฉพาะห้องพี่สาวกับน้าเพราะมีเด็กเล็กมาด้วย
เราเดินมาเข้าห้องน้ำ ไมได้เปิดไฟนะ เกรงใจเพื่อนน้องชายนอนอยู่โซฟาห้องรับแขก
ตาเราเหลือบไปมองที่สระว่ายน้ำ รู้ไหมเจออะไร
หลานสาวเรา ลูกของน้า อายุราวๆ 8 ขวบ นั่งอยู่ริมสระ
เรารีบเดินออกไป หาหลาน หลานเรานั่งหันหลังอยู่ริมสระ ขาห้อยในน้ำ
คิดภาพตามนะคะ เราเรียกชื่อ น้องแบม มาทำอะไรลูก ทำไมไม่นอน
เงียบคะ ไม่เสียงตอบ แล้วหลานเราก็หัวเราะ เอามือตีน้ำเหมือนกำลังเล่นอยู่
ตอนนั้นเราใจไม่ดีแล้วคะ รีบเปิดไฟแล้วเปิดประตูหลังที่ทะลุไปสระว่ายน้ำ
เพื่อนน้องชาย 2 คนก็ตื่นมาตกใจเสียงเราด้วยมั่ง เราเรียกหลานเสียงดังมาก
พอเราเดินไปถึงตัวหลานเรา ตกใจกว่าเก่าอีกคะ
หลานเรานั่งหลับตา หัวเราะ เล่นน้ำ เรารีบดึงตัวหลานเขย่าๆๆ ไม่ตื่นคะ ยังหัวเราะต่อ
เพื่อนน้องชายก็มาช่วยอุ้มหลานเข้ามาในบ้าน เราไปปลุกน้าสาวเราให้มาดูหลาน
น้าเราตกใจมากคะ บอกว่าไม่รู้เลยว่าหลานเราลุกไปตอนไหน ตอนนี้หลานเรายังไม่ตื่นนะคะ
ยังหลับตาอยู่ น้าสาวก็เปลี่ยนชุดให้ เรียกน้าเขยเรามาดู ใจเราไม่ดีแล้วคะ
เราเดินไปที่หิ้งพระหน้าบ้าน แล้วพูดว่า อย่าแกล้งหลานเราเลย พวกเรามาเที่ยวไม่ได้มีเจตนาไม่ดี
เดินกลับมาหลานเราก็ตื่นแล้วคะ ตอนนี้ตื่นกันหมดบ้าน ตี 2 ใกล้จะตี 3
น้าเราถามว่า ออกมาได้ไง หลานบอกว่ามีคนชวนมา บอกให้ไปเล่นน้ำ ทุกคนมองหน้ากันหมดคะ
แต่ไม่มีใครพูดอะไร น้าเขยเราบอกว่าสงสัยเล่นน้ำตอนเย็นแล้วเอาไปฝัน นอนๆๆ ไม่มีอะไรหรอก

ทุกคนก็แยกย้ายไปนอนคะ คิดในแง่ดี หลานเราคนนี้ชอบนอนละเมอคะ อาจจะละเมอจริงๆ ก็ได้
แต่น้าเราบอกว่า ละเมอยังไงก็ไม่น่าจะ ขนาดนี้ ตอนนั้น เราไม่ได้บอกนะคะ ว่าเราไปหิ้งพระหน้าบ้านมา
ตี3.30 ทุกคนเข้านอนตัวเรานอนไม่หลับคะ แฟนเลยเอายาเม็ดสีเหลืองที่ไว้ทานเวลาเมารถมาให้ทาน
เราก็หลับตื่นมาอีกทีตอน 7 โมงเช้า
พวกเราก็ออกไปหาอะไรกินกัน ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืน เพราะคิดว่าหลานเราละเมอจริงๆ
วันนั้นทั้งวันที่ไปเที่ยวที่ต่างๆ ใจเราไม่ดีเลยค่ะ ไม่อยากพักที่บ้านนี้ต่อแล้ว
เราบอกแฟนว่า อย่าว่าเราคิดมากนะ แต่เราว่าบ้านหลังนี้แปลกๆ แฟนเราบอกว่า เห้ยไม่มีอะไรหรอก
ว่าเราว่า ตกใจเรื่องหลาน แล้วเอามาคิดมาก เราก็เลยไม่อยากพูดอะไร
แฟนน้องชายบอกเราว่า เมื่อคืนฝันว่า มีผู้ชายฝรั่งมานั่งกินเบียร์ในวงพวกผู้ชาย
แฟนน้องชายเลยพูดติดตลกว่า สงสัยอยากได้ผัวฝรั่ง เอาไปฝัน ทุกคนก็ขำกัน
เราก็ขำด้วยนะ แต่ในใจเรานี่ ไม่ขำเลย

คืนที่2....
3 ทุ่ม กว่าๆ หลังจากไปตลาดโต้รุ่งกลับมา ซื้อของมาปิ้งย่างริมสระ
เราอาสานอนเป็นเพื่อนหลานๆ ให้ พี่สาวและน้าสาวเราได้ ปาร์ตี้ให้เต็มที่
ห้องใหญ่ ที่หลานเรานอน เราก็ชวนหลานเล่นนั่นนี่ไปตามประสา แล้วอยู่ๆ น้องแบมก็พูดว่า
อี๋คะ เมื่อคืนแบมไม่ได้ละเมอนะคะ มีน้าฝรั่งมาอุ้มแบมไปเล่นน้ำคะ
สนุกมากเลย ร้องเพลงภาษาอังกฤษให้แบมฟังด้วย

...เอิ่มใจเรานี่แบบ ...
เห้ย ตอนพิมพ์นี่เราขนลุกเลยนะคะ คือเด็กอะคะ เค้าเล่ามาแบบเราเชื่อว่าเค้าพูดจริง
เราถามต่อ แล้วแบมรู้จักเค้าหรอลูก ถึงไปเล่นกับเค้า
แบมบอกว่า ไม่รู้คะ แต่เค้ามากับป้าผู้หญิงที่เอากุญแจมาให้เราไงคะ แบมจำได้
เรายังมีสติคะถามต่อ แบมเห็นเค้าตอนไหนคะลูก
แบมบอกว่าเค้ายืนอยู่ตรงระเบียงคะ ตอนอี๋ คุยกับคุณป้าผู้หญิง
สติไปแล้วคะ เราบอกว่า อ่อคะ อี๋ไม่ทันมอง งั้นแบม นอนนะลูก พรุ่งนี้เช้าจะไปสวนน้ำกัน
เด็กๆ ก็หลับ 5 ทุ่ม เราไมได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนะคะ กลัวจะกลัวกัน
ใจนี่กระวนกระวายมากคะ แล้วเราก็อาบน้ำ เข้านอน
หนุ่มๆ ยังนั่งดื่มกันต่อ

เที่ยงคืน.. ยังไม่หลับค่ะนอนกระสับกระส่ายไปมา
ก็เลยตัดสินใจเก็บของค่ะ ฆ่าเวลา พรุ่งนี้จะ กลับบ้านแล้วนี่ อย่าคิดมากๆๆๆ

เที่ยงคืนครึ่ง...จัดของเสร็จสรรพ เราก็ออกมาเข้าห้องน้ำ หนุ่มๆ ยังคงดื่มต่อ
เข้าห้องน้ำเสร็จเราก็เข้าห้องนอนต่อ ในห้องมีเตียงที่มีชั้นเก็บของ
ยังนอนไม่หลับ เราก็เลยไปเปิดลิ้นชักดู เผื่อจะมีหนังสืออะไรให้อ่าน


รู้ไหมคะเจออะไร ???

รูปถ่ายแต่งงานเป็นพี่เจ้าของบ้านกับฝรั่งสามีเค้า
ประมาณ 2 อัลบั้ม เราก็เปิดดูเรื่อยๆ อัลบั้มที่ 2 รูปหลังๆ เป็นรูปงานศพคะ
รูปงานศพฝรั่งสามีของเจ้าของบ้าน
ช๊อค!! ค่ะ มือเย็น หน้าชา แต่ด้วยสติคะ เราตั้งสติได้
เราก็เดินออกมาจากห้องแล้วบอกทุกคนว่า นอนได้แล้วละ พรุ่งนี้เช้าจะได้รีบกลับ
แฟนเราบอกว่า รีบกลับทำไม ออกบ่ายๆ พาเด็กๆ ไปสวนน้ำ
เราบอกว่า เรารู้สึกจะป่วย อยากกลับบ้าน แฟนเราก้มาจับตัวเรา
แล้วบอก เออตัวรุมๆ งั้นตอนเช้าจะพาไปหาหมอ แล้วก็แยกมานอนกับเรา
ในใจเราอยากเล่าให้สามีฟังมากค่ะ แต่เราคิดว่าค่อยกลับไปคุยตอนกลับบ้านดีกว่า
อีกอย่างคือเรา อยากเอารูปแต่งงานไปให้ น้องแบมดูด้วยว่าฝรั่งที่อุ้มเค้าไปเล่นน้ำอะ ใช่คนในรูปไหม
แล้วจะถามแฟนน้องชายด้วยว่าฝรั่งที่ฝันถึง ใช่คนนี้หรือเปล่า
เพราะลักษณะที่แฟนน้องชายเล่า ฝรั่งมีอายุ สูงๆ มันใกล้เคียงเลย
ทั้งๆที่ในใจตอบว่าใช่นะคะ แต่แอบจิต อยากตอกย้ำว่าใช่ไหม

เช้า ตัวเราร้อนค่ะ ป่วยจริงๆ แฟนน้องชายเรา เขามาหาในห้องบอกว่าเจ๊ๆ ฝันอีกแล้ว
คราวนี้ฝันว่ามานอนด้วยเลย แล้วหน้าตาน้องสาวเราแบบดูออกเลยว่ากลัวละ ไม่ตลกแล้ว
เราเลยหยิบรูปถ่ายในลิ้นชักออกมา
อัลบั้มแรก ที่มีแต่รูปแต่งงาน ใช่ฝรั่งคนนี้ไหม
เห้ยย มันพูดเสียงดังเลย ใช่เลย เจ๊คนนี้เลย
เราเลยไปให้แฟนน้องไปตามน้องแบมมา
แบมมาเราก็เอารูปให้แบมดู แบมบอกใช่คะ น้าคนนี้แหละ เมื่อคืนก็มานะคะ
มากวักมือให้แบมไปเล่นน้ำด้วย แต่แบมไมไปคะ กลัวมะม๊าดุอีก

คราวนี้ ทุกอย่างชัดเจนคะ เราไมได้ให้ แฟนน้องและหลานดูรูปงานศพนะคะ กลัวเค้าจะกลัว
แฟนน้องก็พยายามถาม เจ๊ทำไมอ่ะ อะไรยังไง เราไม่ตอบค่ะ กดดันมาก
พอแฟนเรากลับมา จากซื้อยา ให้เรา เราก็ บอกว่าเราอยากกลับบ้าน ตอนนั้น 10 โมงเช้าค่ะ
ทุกคนก็เตรียมของจะกลับแล้วค่ะ

เราโทรหาพี่เจ้าของบ้านว่าเราจะกลับแล้ว ให้มารับกุญแจด้วย
เค้าบอกว่ากลับได้เลยคะ เดี๋ยวพี่เค้าไปให้น้องวางกุญแจไว้ ตรงชั้นวางของหน้าบ้าน ด้านบน

หนุ่มๆ จัดกระเป๋าขึ้นรถ น้าสาวและพี่สาวก็จัดการเเต่งตัวเด็กๆ ให้ขึ้นรถ
เหลือเรากับแฟนน้องชาย เราบอกให้แฟนน้องเราเอากุญแจวางไว้ด้านบนชั้นวางของ
แฟนน้องเราเอาเก้าอี้มาปีนขึ้นไปเก็บกุญแจ แล้วมันทำหน้า เหวออออออ

เราถามมีไรมันบอกเจ๊ดูเอง เราปีนขึ้นไป สิ่งที่เจอคือ ด้านบนชั้นวางของที่เป็นที่ตั้งของหิ้งพระ
ซึ้งสูงมากนะคะ ต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไป มีรูปฝรั่งแฟนเจ้าของบ้าน วางอยู่


ตอนเราไหว้ครั้งแรกที่มาบ้านเราไหว้จากด้านล่างมองไม่เห็นรูปนึกออกไหมคะ เราเลยคิดว่าเป็นหิ้งพระ
สรุปคือหิ้งไหว้รูปเจ้าของบ้าน


แฟนน้องเราช๊อคไปเลย รีบขึ้นรถ แล้วพวกเราก็ออกจากบ้านหลังนั้นมา
ปกติเราเป็นคนพูดมาก แต่ระหว่างทางมาเราเงียบตลอด
แฟนเราคิดว่าเราป่วยเลยซึมๆ

ตอนเที่ยงเราแวะทานข้าวร้านอาหารข้างทาง แฟนน้องเราคงอึดอัด แล้วพูดว่า
ใครเจออะไรไหมที่บ้านหลังนั้น เราเงียบ ทุกคนเงียบ

น้าสาวเราบอกว่าหลานเราเพ้อหัวเราะ เหมือนเล่นกับใครกลางดึก
พี่เขยเราพูดว่า เข็ดแล้วไม่มาแล้ว ที่นี่
แล้วก็เล่าว่า ไม่อยากจะอะไรตอนอยู่ในบ้าน กลัวเด็กๆ จะกลัว ตอนนั่งดื่มเบียร์
หันไปทางสระว่ายน้ำ เจอฝรั่งนั่งริมสระ แล้วยกแก้ว เหมือนจะขอชนด้วย
แต่พี่เขยเรา ทำเป็นไม่สนใจ เพราะรู้แล้วว่าไม่ใช่คนแน่ๆ
อีกเรื่องคือเพื่อนน้องชาย 2 คนที่นอนโซฟา บอกว่า ได้ยินเหมือนเสียงคนคุยกันเป็นภาษาอังกฤษตอนนอน
แต่คิดว่า ใครเปิดทีวีในห้องเลยไม่ได้สนใจ แต่คืนที่ 2 นี่ ตอนนอน หันไปสระว่ายน้ำ เห็นคนเดินมาเดินไป
สะกิดกันให้ดู แล้วก็นอนต่อ ไม่กล้าทัก

เฮ้อ..ไม่รู้ว่าหลอนหรือเปล่านะคะ สำหรับคนอื่นๆ แต่ถ้าพวกคุณเจอเองจะรู้ ว่าพูดไม่ออก อึ้ง เป็นไง

แต่ที่เรานั่งซึมในรถ ไม่ใช่เราป่วยหรอกนะ
แต่เราได้ยินเสียงเพลงในหู ซึ่งเราไม่รู้ว่าคือเพลงอะไร
แต่มันทำนองคล้ายๆ กะเพลงที่ฝรั่งคนนั้นร้องไห้น้องแบมฟัง
เพราะน้องแบมทำเสียงให้ฟังตอนเล่า

ใจเราได้แต่บอกว่า ขอให้พวกเราเดินทางปลอดภัยกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
แล้วเสียงนั่นก็หายไป ..

จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ กลับมากจากหัวหิน พวกเราไปทำบุญกัน นึกถึงฝรั่งที่หัวหินด้วย
อุทิศส่วนบุญให้เค้า เราคิดว่า เค้าคงเหงา ...


แก้คำผิดนะคะ อยากเล่าให้จบในครั้งเดียว
เรื่องนี้ประสบการณ์จริงคะ ไม่เชื่อไม่เป็นไรคะ ไม่ว่ากัน
ของแบบนี้ต้องเจอกับตัวเองคะ เพื่อนน้องชาย เฮ้วๆ นี่
เจอทริปนี้ นิ่งสนิทเลยคะ

     น้าเราถึงกับเอาน้องแบมไปวัดให้อาบน้ำมนต์
แกคิดมาก ว่า คืนนั้นถ้าเราไม่ไปเห็นกลัวเค้าจะเอาหลานไปอยู่ด้วย
เพราะน้ำในสระ นี่ ระดับอกผู้ใหญ่เลยคะ หลานเราว่ายน้ำไม่เป็นด้วย
แต่สำหรับเราเราคิดว่าเค้าคงแค่เหงา ไม่ได้คิดทำร้ายพวกเราคะ