เห็นใครโบกอย่าทัก
เว็บเเทงบอลออนไลน์
คุณเคยรับคนแปลกหน้าที่โบกข้างถนนติดรถมาด้วยกันไหม แล้วถ้าไม่ได้รับเขามาด้วยล่ะ แต่เขามากับเราได้อย่างไง เคยได้ยินมาว่าเวลาคุณเดินทาง ถ้าหากเห็นอะไรก็ตามที่คุณไม่แน่ใจหาคุณทักหรือ เพียงแค่ลองถามคนที่นั่งมาข้างๆด้วยว่าเห็นไหม.........เขาจะตามเราไปด้วย
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ผมไม่เคยเล่าที่ไหนเลยครับ และมันก็เป็นเรื่องที่ผมลืมไม่ลงเลยจริงๆ ย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมจะกลับบ้านที่สงขลา ผมเลยชวนแฟนผมไปด้วย ออกเดินทางช่วงดึกๆ ขับรถไปกันสองคน ผมเป็นคนขับแฟนนั่งข้างๆ พอเข้าเขตสงขลาช่วงถนนสายเอเชียรถจะติดมากๆ ผมเลยวกเข้าทางลัดซึ่งเป็นทางเปลี่ยว มีโค้งเยอะหน่อย คนพื้นที่จะรู้ดีครับ
ผมก็ขับไปเรื่อยๆ ผ่านตามโค้งแล้วโค้งเล่า แฟนผมก็นั่งมองสองข้างทางไปเรื่อยๆ จนจะผ่านโค้งหนึ่งที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ผูกด้วยผ้า 3 สี น้ำแดง ของเล่น ชุดไทยห้อยและวางเรียงราย ผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่บีบแตร แต่จะยกมือขึ้นไหว้แทน ผ่านต้นโพธิ์นั้นไปจนจะถึงโค้ง ก็เห็นหญิงสาวผมยาวก้มหน้าโบกรถอยู่ แฟนผมตะโกนเลยครับ ‘ศิลป์ๆ อย่าจอดนะมึง ขับไปเลย กูชักไม่มั่นใจว่ะกลางคืนแบบนี้..’ ผมก็คิดแบบนั้นครับ เลยขับผ่านเธอไปจนพ้นโค้ง คราวนี้รู้สึกว่าในรถมันชักเย็นๆ แปลกๆ แฟนผมก็ดันปากไวพูดสวนขึ้นมาเลย ‘อย่ามายุ่งกับพวกกู กูไม่กลัวมึงหรอก!’ ผมนี่นั่งเงียบเลยครับ.. จนจะผ่านไปอีกโค้ง ก็เจอผู้หญิงคนเดิมโบกรถอีก! แต่คราวนี้มันหน้ากลัวตรงที่เธอไม่ได้ก้มหน้า แต่กลับมองมาทางพวกผม ตานี่แดงก่ำ ผมถึงกับอึ้ง ขนลุกวาบๆ เลย น่ากลัวมากกก แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผมรีบบอกกับแฟนว่า ‘มึงอย่าหันไปมองนะ แล้วก็อย่าไปพูดท้าทายอะไรเขาอีก..’ แฟนผมก็เลยทำเป็นไม่สนใจเหมือนกัน
ขับเลยไปสักพัก ผมสังเกตเห็นแฟนผมเงียบ เหงื่อแตกเป็นเม็ดๆ เลย ผมถามแฟนว่า ‘เป็นอะไร?’ แฟนผมก็ไม่ตอบ จนผมมองกระจกหลัง เห็นผู้หญิงคนนั้นมาเกาะอยู่ที่กระโปรงท้าย! ลักษณะนั่งยองเอามือทาบกระกระจกหลังอยู่ ผมเห็นแบบนั้นก็เหยียบสิครับ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แต่พอจะถึงอีกโค้ง ก็มีเงาดำๆ คล้ายหมาวิ่งตัดหน้ารถ เสี้ยววินาทีนั้นผมคิดในใจว่า ถ้าเป็นหมาก็ขอให้มันอโหสิกรรมให้ผมด้วยแล้วกัน เพราะผมขับมาไวมาก ถ้าเบรคหรือหักหลบ หมารอด แต่ผมกับแฟนอาจจะตายได้ ผมเลือกที่จะพุ่งชนครับ แต่ปรากฏว่าว่างเปล่า.. ไม่มีอะไรเลย มองดูกระจกหลังก็ไม่เห็นอะไรบนถนนเลย และผู้หญิงที่เกาะท้ายรถก็หายไปแล้วเช่นกัน
ขับต่อไปได้อีกหน่อย ผมเริ่มไม่ไหวละ เจออะไรมาเยอะมาก ช่วงเวลานั้นคือตี 4 เกือบตี 5 แล้ว ผมเห็นพระรูปหนึ่งยืนกวาดวัดอยู่ ผมเลยเลี้ยวรถเข้าไป ลงจากรถแล้วนมัสการหลวงพ่อ แต่เหมือนท่านรู้ ท่านพูดมาก่อนเลยว่า ‘โยมคงเจออะไรมาเยอะสินะ งั้นก็นอนพักเอาแรงที่นี่ก่อน เช้าแล้วค่อยไปกันต่อ..’ จากนั้นผมกับแฟนก็ลาท่านขึ้นรถกัน เพราะเหนื่อยมาก ในรถผมมีกระติกน้ำร้อนกับมาม่า คือตุนเสบียงไว้เผื่อไม่เจอร้านอาหารจะได้มีของกิน ผมก็กินมาม่ากับแฟนจนอิ่ม เสร็จแล้วก็ปิดไฟรถนอนกัน ก่อนนอนผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 6 โมงเช้า
พอนาฬิกาปลุกดังผมก็สะดุ้งตื่น แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมขนลุกสุดๆ คือสถานที่ที่ผมจอดรถนอนนั้นมีแต่ป่าต้นกก ไม่มีวัด ไม่มีพระ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมรีบปลุกแฟนขึ้นมา แฟนก็งัวเงียพูดว่า ‘หลวงพ่อท่านออกบินฑบาตรแล้วเหรอ?’ ผมเลยบอกแฟน ‘มึงแหกตาดูก่อน!’ พอแฟนผมเบิกตามองเท่านั้นล่ะ มันบอกรีบถอยรถกลับออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ผมก็ไม่รอช้า รีบถอยรถเหยียบสุดแรงเกิด ผ่านป่าต้นกกสูงประมาณเมตรครึ่งจนออกมาสู่ถนน ตอนนั้นฟ้าสว่างแล้ว ผมเลยรีบขับรถไปบ้านทันที ไม่รีรออะไรแล้ว.. จนไปถึงบ้านผม ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบพากันไปวัดใกล้ๆ บ้าน ทำบุญให้ผู้หญิงคนนั้น หมาตัวนั้น และวิญญาณพระตรงป่าต้นกกนั้น ตามด้วยอาบน้ำมนต์ล้างซวยกันยกใหญ่
คุณเคยรับคนแปลกหน้าที่โบกข้างถนนติดรถมาด้วยกันไหม แล้วถ้าไม่ได้รับเขามาด้วยล่ะ แต่เขามากับเราได้อย่างไง เคยได้ยินมาว่าเวลาคุณเดินทาง ถ้าหากเห็นอะไรก็ตามที่คุณไม่แน่ใจหาคุณทักหรือ เพียงแค่ลองถามคนที่นั่งมาข้างๆด้วยว่าเห็นไหม.........เขาจะตามเราไปด้วย
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ผมไม่เคยเล่าที่ไหนเลยครับ และมันก็เป็นเรื่องที่ผมลืมไม่ลงเลยจริงๆ ย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมจะกลับบ้านที่สงขลา ผมเลยชวนแฟนผมไปด้วย ออกเดินทางช่วงดึกๆ ขับรถไปกันสองคน ผมเป็นคนขับแฟนนั่งข้างๆ พอเข้าเขตสงขลาช่วงถนนสายเอเชียรถจะติดมากๆ ผมเลยวกเข้าทางลัดซึ่งเป็นทางเปลี่ยว มีโค้งเยอะหน่อย คนพื้นที่จะรู้ดีครับ
ผมก็ขับไปเรื่อยๆ ผ่านตามโค้งแล้วโค้งเล่า แฟนผมก็นั่งมองสองข้างทางไปเรื่อยๆ จนจะผ่านโค้งหนึ่งที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ผูกด้วยผ้า 3 สี น้ำแดง ของเล่น ชุดไทยห้อยและวางเรียงราย ผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่บีบแตร แต่จะยกมือขึ้นไหว้แทน ผ่านต้นโพธิ์นั้นไปจนจะถึงโค้ง ก็เห็นหญิงสาวผมยาวก้มหน้าโบกรถอยู่ แฟนผมตะโกนเลยครับ ‘ศิลป์ๆ อย่าจอดนะมึง ขับไปเลย กูชักไม่มั่นใจว่ะกลางคืนแบบนี้..’ ผมก็คิดแบบนั้นครับ เลยขับผ่านเธอไปจนพ้นโค้ง คราวนี้รู้สึกว่าในรถมันชักเย็นๆ แปลกๆ แฟนผมก็ดันปากไวพูดสวนขึ้นมาเลย ‘อย่ามายุ่งกับพวกกู กูไม่กลัวมึงหรอก!’ ผมนี่นั่งเงียบเลยครับ.. จนจะผ่านไปอีกโค้ง ก็เจอผู้หญิงคนเดิมโบกรถอีก! แต่คราวนี้มันหน้ากลัวตรงที่เธอไม่ได้ก้มหน้า แต่กลับมองมาทางพวกผม ตานี่แดงก่ำ ผมถึงกับอึ้ง ขนลุกวาบๆ เลย น่ากลัวมากกก แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผมรีบบอกกับแฟนว่า ‘มึงอย่าหันไปมองนะ แล้วก็อย่าไปพูดท้าทายอะไรเขาอีก..’ แฟนผมก็เลยทำเป็นไม่สนใจเหมือนกัน
ขับเลยไปสักพัก ผมสังเกตเห็นแฟนผมเงียบ เหงื่อแตกเป็นเม็ดๆ เลย ผมถามแฟนว่า ‘เป็นอะไร?’ แฟนผมก็ไม่ตอบ จนผมมองกระจกหลัง เห็นผู้หญิงคนนั้นมาเกาะอยู่ที่กระโปรงท้าย! ลักษณะนั่งยองเอามือทาบกระกระจกหลังอยู่ ผมเห็นแบบนั้นก็เหยียบสิครับ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แต่พอจะถึงอีกโค้ง ก็มีเงาดำๆ คล้ายหมาวิ่งตัดหน้ารถ เสี้ยววินาทีนั้นผมคิดในใจว่า ถ้าเป็นหมาก็ขอให้มันอโหสิกรรมให้ผมด้วยแล้วกัน เพราะผมขับมาไวมาก ถ้าเบรคหรือหักหลบ หมารอด แต่ผมกับแฟนอาจจะตายได้ ผมเลือกที่จะพุ่งชนครับ แต่ปรากฏว่าว่างเปล่า.. ไม่มีอะไรเลย มองดูกระจกหลังก็ไม่เห็นอะไรบนถนนเลย และผู้หญิงที่เกาะท้ายรถก็หายไปแล้วเช่นกัน
ขับต่อไปได้อีกหน่อย ผมเริ่มไม่ไหวละ เจออะไรมาเยอะมาก ช่วงเวลานั้นคือตี 4 เกือบตี 5 แล้ว ผมเห็นพระรูปหนึ่งยืนกวาดวัดอยู่ ผมเลยเลี้ยวรถเข้าไป ลงจากรถแล้วนมัสการหลวงพ่อ แต่เหมือนท่านรู้ ท่านพูดมาก่อนเลยว่า ‘โยมคงเจออะไรมาเยอะสินะ งั้นก็นอนพักเอาแรงที่นี่ก่อน เช้าแล้วค่อยไปกันต่อ..’ จากนั้นผมกับแฟนก็ลาท่านขึ้นรถกัน เพราะเหนื่อยมาก ในรถผมมีกระติกน้ำร้อนกับมาม่า คือตุนเสบียงไว้เผื่อไม่เจอร้านอาหารจะได้มีของกิน ผมก็กินมาม่ากับแฟนจนอิ่ม เสร็จแล้วก็ปิดไฟรถนอนกัน ก่อนนอนผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 6 โมงเช้า
พอนาฬิกาปลุกดังผมก็สะดุ้งตื่น แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมขนลุกสุดๆ คือสถานที่ที่ผมจอดรถนอนนั้นมีแต่ป่าต้นกก ไม่มีวัด ไม่มีพระ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมรีบปลุกแฟนขึ้นมา แฟนก็งัวเงียพูดว่า ‘หลวงพ่อท่านออกบินฑบาตรแล้วเหรอ?’ ผมเลยบอกแฟน ‘มึงแหกตาดูก่อน!’ พอแฟนผมเบิกตามองเท่านั้นล่ะ มันบอกรีบถอยรถกลับออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ผมก็ไม่รอช้า รีบถอยรถเหยียบสุดแรงเกิด ผ่านป่าต้นกกสูงประมาณเมตรครึ่งจนออกมาสู่ถนน ตอนนั้นฟ้าสว่างแล้ว ผมเลยรีบขับรถไปบ้านทันที ไม่รีรออะไรแล้ว.. จนไปถึงบ้านผม ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบพากันไปวัดใกล้ๆ บ้าน ทำบุญให้ผู้หญิงคนนั้น หมาตัวนั้น และวิญญาณพระตรงป่าต้นกกนั้น ตามด้วยอาบน้ำมนต์ล้างซวยกันยกใหญ่
Post a Comment