ขึงลวดหัวขาดสอง
เว็บเเทงบอลออนไลน์
วิญญาณที่ตายโหงนั้นว่ากันว่าความเฮี้ยนของมันหลอนมาก บนท้องถนนย่อมล้วนแต่มีวิญญาณตายโหงจากอุบัติเหตุ เรื่องต่อไปนี้เป็นวิญญาณที่โหยหวนจากการตายที่ไม่ใช่การตายจากอุบัติเหตุมีคนตั้งใจให้มันเกิดขึ้น และไม่ได้เจาะจงด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นเหยื่อ อีกหนึ่งที่มาจากเรื่องจริงครับลองไปฟังกันเลยครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านของผมไปประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อปี 2546 มีหญิงสาววัยรุ่น 2 คนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง โดยสองคนนี้เป็นเด็กนักเรียน ซึ่งตอนนั้นยังเรียนอยู่ ม.3 พวกเธอได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนกันเพื่อไปรับเพื่อนที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งตอน 3 ทุ่ม แต่โชคร้ายถูกลวดสลิงตัดคอ คนขี่คอขาดทันที ส่วนคนซ้อนโดนลวดปาดคอห้อยต่องแต่งเกือบขาดเช่นกัน คาดว่าน่าจะขี่มาเร็ว เพราะรถคันดังกล่าวเป็นรถของพี่ชายคนขี่ รุ่น KRR 150cc. สาเหตุเกิดจากวัยรุ่นในหมู่บ้านขึงเอาไว้ดักคู่อริ ที่มีเรื่องกันในงานวัดตอนหัวค่ำ แต่สองสาวนี้ดันผ่านมาก่อนเลยซวย ที่สำคัญคือไม่สามารถจับคนร้ายได้อีกต่างหาก แล้วหลังจากนั้นเรื่องหลอนๆ ก็เกิดขึ้นครับ..
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำรถของกลางไปเก็บไว้ที่โรงพัก แต่ผ่านไปแค่ 2 วัน ตำรวจก็ต้องเอารถคันดังกล่าวมาคืนให้พ่อของคนตาย เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ ตอนนั้นพ่อคนตายยังคงยุ่งๆ เรื่องงานศพอยู่ จึงให้คนเอารถไปไว้ที่วัดก่อน โดยเอาไปจอดไว้ใต้ต้นไทร.. ตั้งแต่นั้นมา ตอนกลางคืนชาวบ้านที่บ้านอยู่ใกล้ๆ วัด จะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้บ้าง เสียงคนทะเลาะกันบ้าง แต่ที่หลอนสุดๆ คือได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งในวัดตอนดึกๆ พร้อมกับมีเสียงผู้หญิงสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พอถึงตอนเช้าก็จะมีรอยล้อรถวิ่งรอบบริเวณวัด พระ เณรที่วัดก็ไม่เป็นอันทำอะไร เพราะกลัวผีสองสาว ตกเย็นก็รีบเข้ากุฏิจำวัดทันที
จนมีลุงคนหนึ่งชื่อ ลุงหนอม แกอยากลองดี จึงมารออยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ วัด ถึงตอนดึกแกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงทะเลาะกันจริงๆ แกจึงไปแอบดูที่ประตูทางเข้าวัด ภาพที่แกเห็นคือ ผู้หญิง 2 คนยืนเถียงกันอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์ คนหนึ่งหัวขาดอุ้มหัวตัวเองเอาไว้ อีกคนหนึ่งกำลังเอามือดันหัวที่กำลังจะขาดไว้ไม่ให้หล่นลงมา.. พอแกได้เห็นแบบนั้นถึงกับตัวชา ก้าวขาไม่ออก จน 2 สาวหันมาทางแกแล้วพูดว่า ‘เห็นไหม มึงน่ะเสียงดัง ลุงเขาเลยมาแอบมอง..’ พวกเธอพูดแล้วก็หัวเราะ พร้อมกับกับทำท่าจะเดินมาหาแก พอลุงตั้งสติได้ แกแหกปากร้องสุดเสียงแล้ววิ่งแบบไม่เหลียวหลังทันที..
เรื่องราวเริ่มใหญ่โต จนในที่สุดต้องนิมนต์พระอาจารย์มาช่วยทำพิธีส่งวิญญาณ เรื่องนี้จึงค่อยสงบลง หลังจากนั้นก็มีตำรวจที่อยู่ในหมู่ใกล้ๆ กันมาสารภาพความจริงว่า คืนที่ 2 ที่เอารถไปจอดไว้ที่โรงพัก ตำรวจที่เข้าเวรกลางคืนได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วมีเสียงทะเลาะกัน จับใจความได้ว่า ‘เป็นเพราะมึง กูเลยต้องเป็นแบบนี้ กูจะกลับบ้าน!’ แล้วก็มีเสียงเหมือนคนพยายามจะสตาร์ทรถคันนั้นทั้งคืน สลับกับเสียงคนเดินขึ้นลงโรงพัก จนตำรวจเวรดึกทนไม่ไหว ถึงกับต้องเอารถกลับไปคืนให้พ่อของคนตายทันที
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านของผมไปประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อปี 2546 มีหญิงสาววัยรุ่น 2 คนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง โดยสองคนนี้เป็นเด็กนักเรียน ซึ่งตอนนั้นยังเรียนอยู่ ม.3 พวกเธอได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนกันเพื่อไปรับเพื่อนที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งตอน 3 ทุ่ม แต่โชคร้ายถูกลวดสลิงตัดคอ คนขี่คอขาดทันที ส่วนคนซ้อนโดนลวดปาดคอห้อยต่องแต่งเกือบขาดเช่นกัน คาดว่าน่าจะขี่มาเร็ว เพราะรถคันดังกล่าวเป็นรถของพี่ชายคนขี่ รุ่น KRR 150cc. สาเหตุเกิดจากวัยรุ่นในหมู่บ้านขึงเอาไว้ดักคู่อริ ที่มีเรื่องกันในงานวัดตอนหัวค่ำ แต่สองสาวนี้ดันผ่านมาก่อนเลยซวย ที่สำคัญคือไม่สามารถจับคนร้ายได้อีกต่างหาก แล้วหลังจากนั้นเรื่องหลอนๆ ก็เกิดขึ้นครับ..
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำรถของกลางไปเก็บไว้ที่โรงพัก แต่ผ่านไปแค่ 2 วัน ตำรวจก็ต้องเอารถคันดังกล่าวมาคืนให้พ่อของคนตาย เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ ตอนนั้นพ่อคนตายยังคงยุ่งๆ เรื่องงานศพอยู่ จึงให้คนเอารถไปไว้ที่วัดก่อน โดยเอาไปจอดไว้ใต้ต้นไทร.. ตั้งแต่นั้นมา ตอนกลางคืนชาวบ้านที่บ้านอยู่ใกล้ๆ วัด จะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้บ้าง เสียงคนทะเลาะกันบ้าง แต่ที่หลอนสุดๆ คือได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งในวัดตอนดึกๆ พร้อมกับมีเสียงผู้หญิงสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พอถึงตอนเช้าก็จะมีรอยล้อรถวิ่งรอบบริเวณวัด พระ เณรที่วัดก็ไม่เป็นอันทำอะไร เพราะกลัวผีสองสาว ตกเย็นก็รีบเข้ากุฏิจำวัดทันที
จนมีลุงคนหนึ่งชื่อ ลุงหนอม แกอยากลองดี จึงมารออยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ วัด ถึงตอนดึกแกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงทะเลาะกันจริงๆ แกจึงไปแอบดูที่ประตูทางเข้าวัด ภาพที่แกเห็นคือ ผู้หญิง 2 คนยืนเถียงกันอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์ คนหนึ่งหัวขาดอุ้มหัวตัวเองเอาไว้ อีกคนหนึ่งกำลังเอามือดันหัวที่กำลังจะขาดไว้ไม่ให้หล่นลงมา.. พอแกได้เห็นแบบนั้นถึงกับตัวชา ก้าวขาไม่ออก จน 2 สาวหันมาทางแกแล้วพูดว่า ‘เห็นไหม มึงน่ะเสียงดัง ลุงเขาเลยมาแอบมอง..’ พวกเธอพูดแล้วก็หัวเราะ พร้อมกับกับทำท่าจะเดินมาหาแก พอลุงตั้งสติได้ แกแหกปากร้องสุดเสียงแล้ววิ่งแบบไม่เหลียวหลังทันที..
เรื่องราวเริ่มใหญ่โต จนในที่สุดต้องนิมนต์พระอาจารย์มาช่วยทำพิธีส่งวิญญาณ เรื่องนี้จึงค่อยสงบลง หลังจากนั้นก็มีตำรวจที่อยู่ในหมู่ใกล้ๆ กันมาสารภาพความจริงว่า คืนที่ 2 ที่เอารถไปจอดไว้ที่โรงพัก ตำรวจที่เข้าเวรกลางคืนได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วมีเสียงทะเลาะกัน จับใจความได้ว่า ‘เป็นเพราะมึง กูเลยต้องเป็นแบบนี้ กูจะกลับบ้าน!’ แล้วก็มีเสียงเหมือนคนพยายามจะสตาร์ทรถคันนั้นทั้งคืน สลับกับเสียงคนเดินขึ้นลงโรงพัก จนตำรวจเวรดึกทนไม่ไหว ถึงกับต้องเอารถกลับไปคืนให้พ่อของคนตายทันที
Post a Comment