เก็บของดีจนโดนดี


     เชื่อกันว่าข้าวของของคนตายนั้นเป็นสิ่งอัปมงคล เช่นไม่ควรเก็บสิ่งของจากบ้านที่โดนไฟไหม หรือไม่ควรเอาของคนตายมาใช้ต่อ ถือไม่เรื่องไม่ดี หลายความเชื่อว่ากันว่าวิญญาณที่ยังคงสิงสถิตอยู่ยังคงมีแรงอาฆาตอันรุนแรง ส่งผลไม่ดีต่อบุคคลที่เก็บของมาอาจจะเจอเรื่องร้ายๆ อุบัติเหตุหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต จากดวงวิญญาณที่ชั่วร้าย ประสบการณ์จริงที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นจริงและบุคคลที่มีอยู่จริง ลองไปฟังกันเลยครับ

     ย้อนกลับไปเมื่อสมัยผมอยู่ ม.1 โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนวัดครับ สมัยนั้นร้านเกมอะไรก็ไม่ค่อยจะมี เด็กๆ ก็จะเล่นกันอยู่แถวโรงเรียน ผมก็จะชอบเตะฟุตบอลครับ และสนามฟุตบอลของโรงเรียน ก็จะอยู่ติดกับเมรุของวัดเลย แต่ด้วยความคุ้นชิน ก็เลยไม่ได้กลัวอะไร..

มีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นช่วงหน้าหนาวครับ ผมกับเพื่อนๆ หลังจากเตะบอลกันเสร็จ ก็เล่นซ่อนหากันต่อ พอโอน้อยออกกัน ผมเป็นคนซ่อนครับ ผมก็วิ่งหาที่ซ่อน และไอ้เต๋อเพื่อนผม ก็วิ่งตามผมมาจะไปซ่อนกับผม ผมก็รีบวิ่งหนี ข้ามรั้วสุสานเข้าไปในวัด ไปซ่อนในเมรุเผาศพเลยครับ ขณะที่ผมกำลังจะปิดประตู ไอ้เต๋อก็วิ่งตามมา และก็ขอเข้ามาด้วย ผมเลยต้องให้เข้ามา และก็ปิดประตูเมรุ ความรู้สึกในนั้นคือยังอุ่นๆ อยู่เลยครับ.. ในระหว่างที่ซ่อนอยู่ ผ่านไปสัก 5 นาที ผมรู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูกครับ เหมือนข้างในนี้ ไม่ได้มีเพียงผม กับไอ้เต๋อแค่ 2 คน เป็นครั้งแรกเลย ที่ผมเสียวสันหลังวาบ ผมหันไปมองไอ้เต๋อ ผมเห็นมันกำลังเอามือไปคุ้ยเขี่ยพื้น ขี้เถ้า ขี้ผง เหมือนหาอะไรสักอย่าง และมันก็ไปคุ้ยเจอลูกกลมๆ เงาๆ คืออะไรก็ไม่รู้ มันเห็นว่าแปลกดี เลยเก็บใส่กระเป๋าไป.. จากนั้นผมก็เริ่มรู้สึกอึดอัด เหมือนมีคนนั่งเบียดอยู่ และก็ได้ยินเสียงร้อง ‘แฮ่..’ เป็นเสียงแหบๆ มาจากด้านหลัง เหมือนมีคนมาพูดข้างๆ หู เท่านั้นแหละ ทั้งผม และไอ้เต๋อ เปิดประตูวิ่งหนีกันออกมา ตัวเลอะเถ้าถ่านเต็มไปหมดเลยครับ.. พอออกมา เพื่อนๆ ก็ไม่อยู่กันแล้ว สงสัยว่าจะหาพวกผมไม่เจอ เลยเลิกเล่นกันไปหมดแล้ว ผมเลยกลับบ้าน

วันนั้น ไอ้เต๋อก็ตามมานอนที่บ้านผม (ปกติไอ้เต๋อจะชอบมานอนบ้านผมอยู่บ่อยๆ) คืนนั้น ไอ้เต๋อมันดูแปลกๆ ครับ แทบไม่ได้นอนเลย มันนั่งกอดเข่า มองผมอยู่ทั้งคืน ไม่พูดไม่จา.. พอเช้ามา แม่ไอ้เต๋อก็มารับกลับบ้านไป ผ่านไปวัน สองวัน ผมก็ไม่ได้เจอไอ้เต๋อมันเลย จนวันไปโรงเรียน แม่ไอ้เต๋อมาส่งที่โรงเรียน ผมก็สังเกตุว่ามันไม่พูดไม่จา ตาลอยๆ เวลาเดินเข้าโรงเรียน มือมันละรั้วกำแพง ที่รั้วจะปลูกพืชผักสวนครัวอยู่ ผมเห็นมันหยิบพริก หยิบแตงได้ มันหยิบใส่ปากหมด เคี้ยวหน้าตาเฉย ไม่รู้สึกอะไร.. ตอนเรียน มันก็ไม่พูดไม่จากับใคร มองหน้าเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน ตอนเย็นชวนเตะบอล มันก็ไม่ไป ซึ่งดูผิดปกติมากๆ ทั้งที่ปกติ ไอ้เต๋อจะเป็นคนเฮฮาที่สุดในห้องก็ว่าได้.. ผมก็คิดแค่ว่า มันคงมีปัญหากับที่บ้าน

จนเช้าวันรุ่งขึ้นครับ ผมมาโรงเรียน ก็มีลุงเจ้าของร้านขายของแถวนั้น ที่สนิทกัน มาถามผมว่า ‘เมื่อคืน เจ้าเต๋อมันไปค้างบ้านเองรึเปล่า?’ ผมก็ตอบว่าไม่ได้มาครับ ลุงแกก็เล่าให้ผมฟังว่า ‘เมื่อคืน ประมาณ 4-5 ทุ่ม เห็นเจ้าเต๋อมันมาเดินอยู่แถวๆ โรงเรียน เดินไปรำไป ไม่รู้มันเป็นอะไร?’ ซึ่ง 4-5 ทุ่มในสมัยนั้น คือดึกมากๆ ครับ.. ผมจึงตัดสินใจเล่าให้คุณครูประจำชั้นฟัง ทุกคนก็เริ่มสังเกตุอาการของไอ้เต๋อ บ้างก็บอกว่า ไอ้เต๋อมันแปลกไปมากจริงๆ ชอบออกจากบ้านตอนดึกๆ และก็มีพฤติกรรมรุนแรงขึ้น บ้างก็เห็นว่ามีคนแก่ กำลังจูงไอ้เต๋อเดินอยู่แถวโรงเรียน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นญาติ หรือว่าใครกัน.. จนมีอยู่วันนึง ไอ้เต๋อมันไม่ได้ไปโรงเรียน พอช่วงเย็น แม่ของไอ้เต๋อก็มาหาผมที่บ้านผม ร้องไห้มาเลย บอกว่า เต๋อออกจากบ้านไปไหนไม่รู้ วันนึงแล้ว และก่อนออกมา ก็ฆ่าแมวที่บ้านตายหมดเลย โดยจับแมวแขวนคอกับราวตากผ้า..

พออีกวัน ผมเตะบอลกับเพื่อนๆ อยู่ที่สนามฟุตบอล อยู่ๆ ไอ้เต๋อก็เดินผ่านมา ตัวสกปรกมอมแมม ผมก็วิ่งไปหาถามว่า แม่ตามหา ทำไมไม่กลับบ้าน ไอ้เต๋อก็ตอบมาว่า ‘บ้านกูไม่ได้อยู่ที่นั่น บ้านกูอยู่ที่นี่..’ แล้วมันก็เดินเข้าวัดไป และเข้าไปนอนในเมรุ ผมกับเพื่อน รีบช่วยก็ลากมันออกมา จะพาไปหาพระ แต่มันกลับสะบัดมือวิ่งหนีไปอย่างเร็ว ไม่มีใครตามทันเลย สุดท้ายผมก็กลับบ้านไป

คืนนั้น ผมนอนอยู่ที่บ้าน อยู่ๆ ไอ้เต๋อก็มาหาที่บ้านผม ผมเลยให้เข้ามา ให้ข้าวปลากิน และมันก็นอนกับผมด้วย.. คืนนั้น ผมนอนหันหลังให้ไอ้เต๋อ อยู่ๆ ก็ต้องตื่น เพราะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ในห้อง ลงเท้าหนักมากครับ ‘ตึงๆๆ’ ผมรีบหันมามอง แต่ก็ไม่มีใคร ส่วนไอ้เต๋อก็นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมก็รู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ สักพักยังไม่ทันหลับต่อ ก็มีเสียงเดินกลับมาอีกครั้ง ผมเลยแอบหันไปมองช้าๆ สิ่งที่เห็นคือ เป็นชายแก่ เดินเข้ามา ‘ตึงๆๆ’ แล้วมานั่งคล่อมไอ้เต๋อ เอามือจับหน้ามันไว้ แล้วก็มีเสียงร้อง ‘แฮ่..’ เป็นเสียงเดียวกัน กับตอนที่ได้ยินในเมรุเลยครับ ผมนี่ขนลุกซู่ แบบกลัวสุดๆ แล้ว.. ผมหลับตาวิ่งออกมาๆ ไปหาคุณตาผม สุดท้ายผมก็ต้องเล่าเรื่อง ที่ไปซ่อนแอบในเมรุให้ผู้ใหญ่ฟัง จนโดนดุด่ากันไป

วันต่อมา ผมและคุณตาก็ไปที่บ้านไอ้เต๋อกัน พอเข้าไปก็เจอไอ้เต๋อนอนอยู่ และในมือกำอะไรบางอย่างไว้ ผมก็กล้าๆ กลัวๆ พยายามแงะมือมันออก ปรากฏว่าสิ่งที่อยู่ในมือมันคือ ฟันปลอมสีเงินๆ สมัยโบราณ ที่ทำจากตะกั่ว หรืออะไรสักอย่าง ทุกคนเห็นก็ผวากันหมด ไม่รู้จะทำยังไง เลยคิดว่าจะไปตามหลวงพ่อมาจากวัด.. และจู่ๆ ไอ้เต๋อที่นอนอยู่ก็พูดขึ้นมาว่า ‘ไม่ต้องไปตามหรอก เดี๋ยวกูก็กินมันจนหมดแล้ว..’ พอคุณลุงเห็นแบบนั้น ก็รีบจับมือผม และพาผมออกมาจากห้อง เหมือนไม่อยากให้ไปยุ่งแล้ว

     จากนั้นพวกเราก็ไปตามหลวงพ่อมา พอหลวงพ่อเข้าไปในห้อง หลวงพ่อก็บอกว่า ‘ไม่ทันแล้ว..’ ซึ่งพอทุกคนเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเต๋อนอนเสียชีวิตในสภาพ ตาค้าง อ้าปากค้าง คางชิดติดกับหน้าอก ลักษณะคล้ายถูกจับฉีกปาก! ..ว่ากันว่า เป็นวิญญาณของชายแก่มาเข้าสิง และกัดกินร่างของเต๋อจนหมด..

ไม่มีความคิดเห็น