เลี้ยวผิดซอยสยอง


    เคยไหมที่ไปผิดซอยเคยคิดไหมว่าซอยนั้นไม่มีอะไรคุณมอสเจอกับเรื่องสยองของซอยหนึ่ง ที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อสามปีที่ผ่านมา คุณมอสย้ายมาเรียนต่อมัธยมปลายที่จังหวัดสุพรรณบุรีกับคุณแม่ แต่ช่วงนั้น เวลาว่างค่อนข้างเยอะ จึงได้ไปสมัครทำงานที่ร้านหมูกระทะ เลิกงานประมาณห้าทุ่ม ถึงเที่ยงคืน

    วันนึง หลังจากที่คุณมอสล้างของเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อนก็ได้เดินมาบอกว่า "วันนี้ไปแทงสนุ๊กกันดีกว่า ไม่ได้ไปนานละ" คุณมอสก็ตกลง และมีเพื่อนอีกคนไปด้วย จึงได้เอารถไปสองคัน คุณมอสจะซ้อนท้ายเพื่อน ส่วนเพื่อนอีกคนจะขี่รถตามหลัง

    แต่วันนั้น ร้านที่คุณมอสเล่นกันประจำปิด แต่คุณมอสเคยได้ยินมาจากรุ่นพี่ที่ทำงานว่ายังมีอยู่อีกที่หนึ่ง จึงได้ขี่ลึกเข้าไปในซอย เป็นซอยเล็กๆ สองข้างทางจะเป็นป่า และไม่มีไฟทาง ลึกเข้าไปหน่อยจะมีวัดอยู่แห่งหนึ่ง ท้ายซอยจะเป็นที่ทิ้งขยะ

    คุณมอสและเพื่อนขี่รถมาจนถึงที่ทิ้งขยะ เป็นที่โล่งๆ มีกองขยะสูงท่วมหัวหลายกอง คุณมอสจึงหันไปบอกเพื่อนว่า "ไม่ใช่ละๆ กลับเลยๆ" เพื่อนเลี้ยวรถกลับ ขี่มาทางเดิม คุณมอสเหลียวหลังไปมองเพื่อนที่ขี่รถคนเดียว ก็เห็นเพื่อนคุยโทรศัพท์ แล้วหันซ้ายหันขวาตลอด คุณมอสก็ไม่ได้สนใจอะไร

    จนขี่รถมาถึงหลังวัด ลักษณะกำแพงหลังวัดจะเป็นแค่บล็อกก่อสูงขึ้นมาประมาณหัวไหล่ อีกฝั่งเป็นป่า ถนนจะไม่ค่อยดีและมืดมาก คุณมอสเลยต้องช่วยเพื่อนมองทางข้างหน้า เห็นเป็นเงาขาวๆ นั่งอยู่บนกำแพงวัดข้างหน้าไกลๆ

    คุณมอสพยายามจ้องดู จนรถใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ห่างกันแค่ไม่กี่เมตร ปรากฏว่าเป็นผู้หญิงผมยาว นั่งแกว่งขาอยู่บนกำแพงวัด คุณมอสรู้สึกเย็นวาบจนขนลุกไปทั้งตัว พอเพื่อนขี่รถผ่านไป คุณมอสก็หันกลับมามองอีกครั้ง ก็ยังเห็นเป็นผู้หญิงนั่งอยู่บนกำแพงวัด

    คุณมอสเสียวสันหลังจนต้องพยายามขยับตัวเข้าไปให้ชิดเพื่อนยิ่งกว่าเดิม แล้วบอกเพื่อนว่า "ลองหันไปดูกำแพงข้างหลังดิ เจอไรเปล่า" เพื่อนที่ขับรถอยู่ก็หันกลับไปมอง แล้วบอกว่า "ไม่เห็นมีไรเลย" คุณมอสจึงหันกลับไปมอง แต่ก็ยังเห็นอยู่เหมือนเดิม

    คุณมอสจึงบอกว่า "ไม่ต้องเล่นสนุ๊กแล้ว กลับบ้านกันเลยดีกว่า" เพื่อนคนที่ขี่รถตามมาข้างหลัง อยู่ๆก็เร่งเครื่องแซง แล้วขี่รถหายไปเลย คุณมอสก็พอจะเดาว่าเพื่อนเป็นอะไร จึงพยายามจะบอกเพื่อนคนที่กำลังขี่รถ ให้รีบตามกันไป

    แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรตามมาจากข้างหลัง จึงเหลียวกลับไปมอง ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่บนกำแพงวัด วิ่งตามหลังรถมอเตอร์ไซค์มาติดๆ ห่างกันแค่ประมาณสี่ถึงห้าเมตร ลักษณะตัวขาวซีด ผมสีดำยาวสยาย มองไม่เห็นลูกกะตา ปากฉีกยิ้มกว้างดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ กวัดไกวมือทั้งสองข้างมาข้างหน้า เหมือนพยายามจะคว้าตัวของคุณมอสให้ได้

    คุณมอสสะดุ้งสุดตัวจนแทบจะหน้ามืดตกจากหลังรถ มือตบไหล่เพื่อนรัวๆ ตะโกนโหวกเหวกเสียงดังว่า "ไปๆๆๆๆๆ!!!" เพื่อนก็ยังทำมึน ไม่ยอมเร่งเครื่อง แล้วหันกลับมาถามว่า "อะไรเล่า เป็นอะไร"

    คุณมอสบีบไหล่เพื่อนแน่น แล้วบอกว่า "ไปก่อนเร็วๆๆๆๆ" เพื่อนจึงเร่งเครื่องจนกลับมาถึงบ้านของคุณมอส คุณมอสรีบกระโดดลงจากหลังรถ วิ่งไปทุบประตูบ้าน "แม่ๆๆๆๆ เปิดๆๆ" พอคุณแม่เดินมาเปิดประตู คุณมอสวิ่งสวนเข้าไปในบ้าน รีบไปนอนคลุมโปงในห้องทันที

    พยายามคุมสติจนสงบลงได้บ้าง สักพักก็ได้ยินเสียงดัง "ปั้ง!!!" คุณมอสสะดุ้งจนตัวโก่ง พนมมือขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ รู้ได้ในทันทีว่าเสียงนั่นคือเสียงของหน้าต่างไม้ไปกระทบกับผนังบ้าน

    ต้องมีใครสักคนยืนอยู่นอกหน้าต่าง แล้วจับบานหน้าต่างเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังอย่างแรง คุณมอสไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหนีไปไหน ได้แต่นอนคลุมโปงตัวสั่น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนเผลอหลับ

    คุณมอสฝันว่า ผู้หญิงผมยาวที่วิ่งตามหลังรถ เดินมาจับที่ข้อเท้า แล้วพยายามลากลงจากเตียง แล้วคุณพ่อของคุณมอส ที่เสียไปแล้ว ยืนขวางหน้า แล้วชี้หน้าผู้หญิง พร้อมกับพูดว่า "เอ็งจะเอาลูกข้าไปไหน ปล่อยลูกข้าเดี๋ยวนี้"

    คุณมอสจับราวหัวเตียงไว้แน่น แล้วพูดว่า "พ่อช่วยด้วยๆๆ" จนมารู้สึกตัวตื่นตอนประมาณบ่ายสองโมง หลังจากนั้น คุณมอสจับไข้ไปประมาณอาทิตย์กว่าๆ พออาการดีขึ้น จึงได้ไปบวช

    หลังจากบวชเสร็จ คุณมอสก็ได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้รุ่นพี่ที่โรงเรียนฟัง แต่ก็มีรุ่นพี่บางคนที่ไม่เชื่อ และอยากไปลองของ ปรากฏว่ารุ่นพี่คนนั้นโดนตบหัวจนรถล้มอยู่หลังวัด และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น