บ้านเช่าผีเฮี้ยน
เมื่อประมาณหกปีที่ผ่านมาคุณเต้ ต้องไปติดตั้งระบบเสียงและภาพให้ลูกค้า ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เขาให้ขับรถไป-กลับชลบุรีทุกวัน จึงเช่าบ้านอยู่แถวๆบางแสน ลองมาฟังเรื่องราวของเขาเลยครับว่าเรื่องราวหลอนๆของเขาจะเป็นยังๆไงติดตามกันเลยครับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เมื่อประมาณหกปีที่ผ่านมา ปกติคุณเต้ทำงานอยู่ที่ใจกลางเมืองกรุงเทพ แต่ต้องไปติดตั้งระบบเสียงและภาพให้ลูกค้า ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ในทีมมีกันทั้งหมดสามคน คุณเต้จะเป็นหัวหน้าชุด และมีแฟนของลูกน้องขอตามไปด้วยคนนึง รวมเป็นสี่คน จึงเดินทางไปที่หน้างานกัน ที่นั่นมีทีมติดตั้งในส่วนอื่นๆกำลังทำงานกันอยู่ด้วย คุณเต้ก็จึงคิดว่างานตัวนี้ น่าจะไม่เสร็จในเร็วๆนี้แน่
จึงได้คุยกันว่าจะเช่าบ้านอยู่ เพราะให้ขับรถไป-กลับชลบุรีทุกวันคงไม่ไหวแน่ พอตกลงกันทั้งสี่คนแล้ว เวลาประมาณหกโมง ก็ได้ตะเวนหาบ้านเช่าแถวๆบางแสน จนไปเจออยู่หลังนึง ติดป้ายให้เช่า
ลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์สามชั้น อยู่ติดกัน และหลังนี้จะอยู่หัวมุมขวาสุด เป็นหลังเดียวที่ว่าง จึงได้ไปติดต่อผู้ดูแล ผู้ดูแลก็พาคุณเต้และทีมเข้าไปดูภายในบ้าน ชั้นหนึ่งมีเครื่องครัวให้ครบ ส่วนชั้นสองจะมีห้องนอนอยู่หนึ่งห้อง คุณเต้จึงให้ลูกน้องที่มีแฟนมาด้วยนอนที่ชั้นนี้ ส่วนตนเอง จะนอนที่ชั้นสามกับลูกน้องอีกคน
และได้เดินขึ้นไปดูห้องที่ชั้นสาม ห้องจะไม่ใหญ่มาก ขวามือจะเป็นตู้วางทีวี ซ้ายมือจะมีเตียงนอน ผนังฝั่งตรงข้ามกับทางเข้า จะมีประตูอยู่บางนึง คุณเต้ได้เดินไปลองเปิดประตูบานนี้ดู แต่มันฝืดมาก ผู้ดูแลก็ได้เดินตามหลังคุณเต้มาแล้วพูดว่า
ผู้ดูแล : พี่จะทำอะไร
คุณเต้ : อ๋อ ประตูนี้มันไปไหนหรอครับ เปิดไปได้มั้ย
ผู้ดูแล : พี่จะทำอะไรหละ
คุณเต้ : ผมคิดว่า ถ้าเกิดซักผ้าตากผ้าเนี่ย จะได้เอาผ้าขึ้นมาตาก
ผู้ดูแล : เอางี้พี่ พี่อย่าใช้ตรงนี้เลย พี่ไปข้างหลังดีกว่า มันมีที่โล่ง ตากผ้าได้ดีกว่า
คุณเต้ก็รู้สึกตะหงิดขึ้นมานิดๆ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เค้าว่าไงเราก็ว่างั้น เพราะดูรวมๆแล้ว บ้านหลังนี้มันน่าอยู่ จึงได้ตกลงเช่า หลังจากนั้นจึงได้ไปหาซื้อข้าวมานั่งทานด้วยกัน แล้วเตรียมเข้านอน
คุณเต้เปิดทีวีดู แต่ลูกน้องได้หลับไปแล้ว จึงได้ปิดทีวี ปิดไฟนอน จนสักพักนึง รู้สึกว่าเหมือนเตียงกำลังโยก คุณเต้ก็คิดว่าลูกน้องที่นอนข้างๆแกล้งอะไรหรือป่าว จึงได้ผงกหัวขึ้นมาดู แต่ก็เห็นลูกน้องนอนนิ่ง จึงได้นอนต่อ
สักพักนึง ได้ยินเสียงคนหมุนลูกบิดประตูหลังห้อง ที่คุณเต้พยายามเปิดเมื่อตอนเย็น คุณเต้เริ่มใจไม่ดี กลัวว่าจะมีคนปีนขึ้นมา จนสักพักนึง เสียงบิดก็เหมือนจะดันขึ้นกว่าเดิม ก็คิดในใจว่าหรือจะไม่ใช่คน
พอคุณเต้คิดแบบนั้น จากเสียงหมุนลูกบิด กลายเป็นเขย่าแรงๆแทน จนประตูสั่นไปทั้งบาน คุณเต้ลุกขึ้นมานั่งทำสมาธิทันที แล้วพยายามพูดในใจว่า "อะไรที่อยู่ข้างนอกนั่น และอยากจะเข้ามา ไม่จำเป็นต้องเข้ามาหรอก เดี๋ยวแผ่เมตาให้" แล้วเสียงประตูก็เงียบลง
ลูกน้องที่นอนอยู่ข้างๆตื่นขึ้นมา แล้วบอกกับคุณเต้ว่า แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว คุณเต้จึงบอกว่า อย่าให้สองคนข้างล่างรู้ เดี๋ยวจะกลัวกันซะเปล่าๆ จนตอนเช้าก็ได้ออกไปซื้อกับข้าวกันข้างนอก คุณเต้ไม่ได้ไปด้วย เพราะยังมีของเหลือจากเมื่อวาน
คุณเต้ได้ลองเดินสำรวจแถวๆหน้าบ้าน ก็สังเกตเห็นตรงจั่วหน้าบ้าน มีไม้กางเขนแปะอยู่ แต่หลังอื่นๆกลับไม่มี สักพักลูกน้องก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ไปสั่งกับข้าว ลูกจ้างร้านอาหารตามสั่งก็ได้ถามว่า
ร้านตามสั่ง : มาจากไหนกับครับพี่ ผมพึ่งเคยเห็น
ลูกน้องคุณเต้ : มาจากกรุงเทพครับ เช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่ไกล้ๆนี้เอง
ร้านตามสั่ง : อ๋อ งั้นพี่ไม่ต้องรอก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปส่งให้ แล้วพี่อยู่หลังไหนครับ
ลูกน้องคุณเต้ : อยู่หลังแรก ตรงหัวมุมขวา
ร้านตามสั่ง : งั้นเอางี้ดีกว่า พี่รอเอาไปเลยละกัน
คุณเต้จึงได้บอกเรื่องที่เจอมาเมื่อคือกับลูกน้องที่มาคู่กับแฟน ก็เป็นอย่างที่คุณเต้คิด ลูกน้องขอย้ายออกทันที ทุกคนจึงตัดสินใจย้ายออกหมดทุกคน ไปเช่าอยู่บ้านแถวๆละแวกไกล้ๆกัน
และทุกวันนี้ บ้านหลังนั้นก็ยังคงเปิดให้เช่าอยู่
Post a Comment