ผี?ปีศาจ?
ภูติผีหรือปีศาจบางครั้งเราก็เจอทั้งสองอยางเรื่องของคุณตุ้ย เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง แถวย่านท่าพระ เมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมา บ้านหลังเดิมของคุณตุ้ย จะเป็นตึกแถว ด้านบนจะเป็นดาดฟ้า สมัยเด็กๆ คุณตุ้ยจะชอบขึ้นไปนอนเล่นดูดาวอยู่บนดาดฟ้า
บ้านหลังนี้ จะอยู่หลังที่สองถัดจากหลังแรก ที่อยู่ติดกับทางสามแพร่ง ตรงทางสามแพร่งจะมีศาลพระภูมิ ที่มีไว้ให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้ วันนึงช่วงเวลาประมาณหกโมงเย็น คุณตุ้ยก็ขึ้นไปนอนเล่นอยู่บนดาดฟ้าตามปกติ
ก็เห็นดวงไฟอยู่บนฟ้า ประมาณหกดวง ลักษณะเหมือนส่องไฟขึ้นไป แต่ไม่มีลำแสง วนไปวนมา คุณตุ้ยเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ จึงได้เรียกคุณแม่ขึ้นมาดู พอคุณแม่เห็นก็ตกใจกลัว จึงรีบเรียกคุณตุ้ยเข้าบ้านทันที
จนผ่านไป คุณตุ้ยก็ยังเห็นอยู่บ้างเป็นบางวัน และเหตุการณ์หนึ่งก็เกิดขึ้น วันนั้นเป็นวันที่จะมีฝนดาวตกเกิดขึ้นในเมืองไทย คุณตุ้ยจึงได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีสาม เพื่อที่จะได้ลุกขึ้นมาดู
มีคุณแม่กับคุณอา ที่ขึ้นมาดูอยู่ด้วย ในระหว่างที่ดูกันอยู่ ด้วยความที่อยู่ในกรุงเทพ จึงไม่ค่อยเห็นแสงของดาวตก ทุกคนจึงนั่งรอดู ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็สังเกตเห็นเหมือนผ้าปูทีนอน ค่อยๆลอยอยู่ตรงทางสามแพร่ง
คุณตุ้ยจึงชี้ไปที่สิ่งนั้นแล้วพูดขึ้นมาว่า "อะไรอ่ะ" ด้วยความที่คุณแม่จะกลัวเรื่องเกี่ยวกับพวกนี้ จึงรีบพาคุณตุ้ยเข้าบ้าน แล้วเรื่องก็ผ่านมา จนถึงช่วงที่คุณตุ้ยเรียนอยู่มอปลาย
หลังเลิกเรียน คุณตุ้ยกับเพื่อนๆก็ได้มานั่งเล่าเรื่องผีกัน โดยคุณตุ้ย ก็ได้ยกเรื่องที่เคยเจอบนดาดฟ้ามาเล่า แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และโดนเพื่อนบางคนล้อ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น คุณตุ้ยก็มาเรียนปกติ แต่เพื่อนคนที่ล้อคุณตุ้ยเมื่อวานกลับไม่มาเรียน ตกอีกวันนึง เพื่อนคนนี้ก็ยังไม่มา จนผ่านไปประมาณอาทิตย์นึง เพื่อนคนนี้ก็กลับมาเรียน แต่ผมบนหัวไม่เหลืออยู่เลยแม้แต่เส้นเดียว
เพื่อนก็เข้ามาเล่าให้คุณตุ้ยฟัง ด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆว่า วันนั้น หลังจากที่เล่าเรื่องผีกันเสร็จแล้ว ก็ได้กลับบ้าน แล้วเป็นวันที่น้องชายมาเที่ยวหาที่บ้าน จึงตัดสินใจจะนอนชั้นล่างกับน้องชาย ปกติจะนอนที่ห้องชั้นสอง
คืนนั้น น้องชายนอนฝั่งขวา ส่วนเพื่อนของคุณตุ้ยนอนอยู่ฝั่งซ้าย แต่รู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เอาแต่นอนพลิกตัวไปมา จนเวลาประมาณตีหนึ่ง ก็ยังนอนไม่หลับ แต่รู้สึกได้กลิ่นอะไรบางอย่าง บอกไม่ถูกว่ามันคือกลิ่นอะไร ลักษณะเหม็นๆสาบๆ
ตอนนั้นกำลังนอนหันหน้าไปทางน้องชาย จึงก็ได้พลิกตัวหันมาอีกทาง ปรากฏว่าเห็นเป็นผู้หญิงแก่ๆ หน้าเหี่ยวๆตอบๆ ผมสีขาว ยาวมากจนคลุมมิดทั้งร่างกาย นอนหันหน้ามาประชิดกับเพื่อนของคุณตุ้ย ห่างกันแค่ไม่ถึงคืบ แล้วก็พูดออกมาว่า "เอ็งเรียกข้าหรอ" ซ้ำไปซ้ำมา
เพื่อนของคุณตุ้ยสติหลุดทันทีที่เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ร้องกรี๊ดออกมาลั่นบ้าน แล้วผู้หญิงแก่ๆ ก็ทำตาโต ยิงฟันใส่ พยายามเลื่อนหน้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ปากก็พูดอยู่ตลอดว่า "เอ็งเรียกข้าหรอ" จนเพื่อนทนไม่ไหวจึงได้หมดสติ หลังจากนั้นก็ได้แต่นอนจับไข้หัวโกร๋นอยู่บนเตียง และพูดคุยไม่เป็นภาษา ทางคุณพ่อคุณแม่จึงต้องพาไปที่วัด
หลวงพ่อท่านจึงบอกว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่สัมภเวสีอย่างเดียว ภูติผีปีศาจก็มี หลวงพ่อก็ยังสรุปให้ไม่ได้ ว่าผู้หญิงแก่คนนั้นเป็นอะไร เป็นภูติ เป็นผี หรือปีศาจ เค้าสามารถเข้าบ้านใครก็ได้ เพราะบางครั้ง เจ้าที่ก็ไม่สามารถป้องกันสิ่งเหล่านี้ได้ตลอด และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment