ลูกจ้างต่างด้าว ภาค1


      ย้อนกลับไปในสมัยที่คุณบอยยังทำอยู่ที่บริษัทกำจัดแมลง ทางตัวบริษัทเริ่มเติบโตขึ้น ลูกค้าก็ยิ่งเพื่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณบอยและเพื่อน จึงได้จ้างลูกน้องเข้ามาประมาณสองคน แต่เมื่อทำไปได้สักระยะ คุณบอยก็คิดว่าคงต้องจ้างเพื่มอีกหนึ่งคน

     จึงได้บอกให้ลูกน้องหาใครก็ได้ เข้ามาทำอีกหนึ่งคน เอาเป็นคนที่รู้จักกันก็ได้ ลูกน้องจึงพาผู้ชายมาคนหนึ่ง ร่างท้วมๆ เป็นคนต่างด้าว ชื่อว่าชอ คุณชอจะเป็นคนเงียบๆ คุยไม่เก่ง แต่จะเป็นคนที่ขยันขันแข็งมาก

     เวลาไปบ้านลูกค้า คุณชอจะพูดภาษาไทยไม่ชัด แต่จะพยายามพูดเพื่อให้เป็น ลูกค้าจะชอบคุณชอกันแทบทุกคน แต่คุณชอจะมีนิสัยแปลกๆอยู่อย่างหนึ่ง ตรงที่ว่า มักจะชอบพูดอยู่คนเดียว

     เวลาทำงานหรือทำอะไร จะชอบพูดพึมพำอยู่คนเดียว แต่เป็นภาษาทางบ้านของคุณชอ คุณบอยก็เคยถามคุณชอหลายครั้ง ว่าบ่นเรื่องอะไร แต่คุณชอก็ตอบแค่ว่า ไม่มีอะไร แค่พูดไปเรื่อย แต่คุณชอหลุดพูดออกมาคำหนึ่งว่า "เค้าก็พูดตอบโต้ผมมานะ" ซึ่งมันทำให้คุณบอยรู้สึกสะกิดใจมาก

     คุณบอยรีบถามกลับว่า "ใครพูดตอบโต้ด้วย คุยอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ" คุณชอก็นิ่ง แล้วหันหน้าหนี พร้อมกับพูดเป็นภาษาบ้านเกิด แล้วก็เดินหนีไปทางอื่น จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง

     เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพื่อนของคุณบอยที่เป็นหุ้นส่วนกัน ก็ได้เรียกตัวคุณชอไปบอกว่า "เวลาไปทำงานเนี่ย เข้าใจนะ พฤติกรรมของคนจะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป แต่ลูกค้าเค้าไม่เข้าใจหรอก ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เดี๋ยวจะพาให้ลูกค้ากลัว เพราะงั้นแล้วเวลาทำงาน ทำเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร" คุณชอก็รับปาก

     หลังจากนั้น เริ่มมีนิสัยประหลาดอีกอย่างนึงโผล่ออกมา ซึ่งทำให้คุณบอยและเพื่อนเริ่มแคลงใจ ว่าคุณชอเป็นอะไรกันแน่ ในเวลาที่คุณชอขับรถ วันดีคืนดีก็จะจอดอยู่กลางถนน แล้วก็พยักหัว เหมือนเป็นสัญญาณบอกให้คนข้ามถนน แต่คุณบอยลองมองดูทั้งซ้ายและขวา แต่ก็ไม่พบใครเลยที่อยู่บนถนน

     และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่คุณชอเหยียบเบรคจนหัวทิ่ม คุณบอยตกใจมาก รีบถามออกมาทันทีว่า "ชอ จะเบรคทำไม" คุณชอหันมาตอบว่า "ผมให้เขาข้าม" ซึ่งบนถนนมันไม่มีใคร คุณบอยจึงถามกลับว่า "ใครข้าม" คุณชอก็ไม่พูด แล้วก็ขับรถต่อ พร้อมๆกับพูดภาษาบ้านเกิดเบาๆ

      เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก บางครั้งคุณชอหยุดรถอยู่กลางทางโค้ง แล้วพยักหน้าให้กับความว่างเปล่า สักพักเหมือนคุณชอกำลังมองอะไรบางอย่าง ที่ผ่านหน้ารถ แล้วพูดภาษาที่คุณบอยฟังไม่เข้าใจ

      จนมีนิสัยอีกอย่างหนึ่ง เริ่มเกิดขึ้นกับคุณชอ ซึ่งคุณบอยกับเพื่อนคิดว่ามันชักจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาที่คุณชอเห็นเครื่องเซ่นไหว้ ที่วางอยู่ตามข้างทาง คุณชอจะวิ่งเข้าไปหยิบขึ้นมากินทันที

      คุณบอยกับเพื่อนเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าไปห้าม เพราะคนไทยจะถือกันว่าห้ามกินของเซ่นไหว้ แต่คุณชอให้เหตุผลว่า "ที่กินเข้าไป มันจะเป็นการสร้างพลังให้กับตัวเอง" เป็นคำตอบที่ทำให้คุณบอยและเพื่อนต้องรู้สึกขนลุกตั้ง

      และนิสัยสุดท้าย ที่คุณบอยคิดว่ามันแปลกประหลาดที่สุดของคุณชอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ช่วงเย็น ในซอยใกล้ๆกับออฟฟิศ มีเหตุไล่ฟันกันเกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิต หลังจากที่ตำรวจเข้ามาเคลียร์พื้นที่เสร็จแล้ว ตกดึกของวันเดียวกัน มีเสียงผู้ชายร้องโวยวายออกมาจากจุดเกิดเหตุ

      คุณบอยและเพื่อนที่นั่งอยู่ในออฟฟิศรีบวิ่งออกไปดู ปรากฏว่าเห็นคุณชอ กำลังยืนเอามีดทำร้ายร่างกายตัวเอง พอคุณชอเห็นพวกคุณบอย คุณชอก็ตะโกนออกมาว่า "พี่ๆ เขาทำแบบเนี่ย เขาแทงแบบเนี่ย" พร้อมๆกับที่เอามีดกดลงไปแถวๆช่วงท้องของตัวเอง จนเลือดสีแดงเข้มไหลอาบลงมาเลาะเต็มกางเกง

     ปากก็พูดอยู่ตลอดเวลาว่า "เขาทำแบบนี่เลยพี่ ผมทำให้ดู" คุณบอยและคนอื่นๆรีบวิ่งเข้าไปหยุดคุณชอ แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อไปเย็บแผล โชคดีที่แผลไม่ลึก และไม่โดนจุดสำคัญ

      คุณบอยเริ่มคิดว่าแบบนี้มันไม่ดีแล้ว ถ้าเกิดไปทำพฤติกรรมแบบนี้ต่อหน้าลูกค้า ต้องกระทบกับบริษัทแน่ หลังจากที่คุณชอออกจากโรงพยาบาล คุณบอยก็คุยกับคุณชอว่า "เดี๋ยววันนี้พี่จะให้เราทำงานเป็นวันสุดท้ายนะ แล้วเราก็พักงานไปก่อน" คุณชอก็ตอบตกลง

     วันนั้นรับงานตอนประมาณตีหนึ่งครึ่ง เป็นอาบอบนวดแห่งหนึ่ง แถวๆลาดพร้าว เข้าไปทำงานกันทั้งหมดสามคน มีคุณบอย คุณชอ และลูกน้องอีกหนึ่งคน เจ้าของสถานที่ให้ทำทั้งหมดห้าชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องแบ่งซอยอยู่หลายๆห้อง

คุณบอยให้คุณชอกับลูกน้องขึ้นไปทำที่ชั้นห้า แล้วไล่ลงมาเรื่อยๆ ส่วนคุณบอยจะทำที่ชั้นหนึ่งขึ้นไป เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง อยู่ดีๆลูกน้องก็วิ่งหน้าตาตื่นลงมาหาคุณบอย แล้วตะโกนโวยวายว่า "พี่บอยๆ ขึ้นมาช่วยหน่อยเร็ว ไอ้ชอมันผูกคอตาย"

คุณบอยได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ ทิ้งข้าวของในมือ แล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นห้า ปรากฏว่าเห็นคุณชอในสภาพที่ดิ้นอยู่กลางอากาศ เหมือนคนที่ใกล้จะขาดใจเต็มที ตาเหลือกขึ้นข้างบน น้ำลายไหลยืดอาบคาง

คุณบอยรีบวิ่งเข้าไปอุ้มตัวคุณชอขึ้น แล้วตะโกนให้ลูกน้องเอามีดมาตัดเชื่อ พอเอาตัวคุณชอลงมาได้ ซึ่งอยู่ในสภาพที่เหมือนกับจะหยุดหายใจไปแล้ว คุณบอยรีบโทรแจ้งความทันที แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้าย ก็ช่วยกันไว้ไม่ทัน

คุณบอยได้ถามเรื่องนี้กับลูกน้อง คนที่ทำงานอยู่กับคุณชอ ได้ความว่า ตอนที่กำลังฉีดยาฆ่าแมลง อยู่ดีๆคุณชอก็เดินเข้ามาหา จ้องหน้าเขม็ง แล้วพูดออกมาว่า "เป็นใคร" ลูกน้องก็ตอบว่า "กูก็เป็นเพื่อนไง จำกันไม่ได้เหรอ เป็นอะไรเนี่ย"

สักพักคุณชอก็หันหลัง แล้วเดินหายกลับไป แต่ลูกน้องไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะคิดว่าคุณชอเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่พอหันหลังกลับไปมองอีกครั้งหนึ่ง เห็นเป็นผู้ชายใส่สูทผูกเนคไท เดินถือเชือกหายเข้าไปในห้องที่คุณชออยู่

ลูกน้องก็แปลกใจ เพราะปกติแล้ว ทางเจ้าของสถานที่จะต้องเกณฑ์คนออกไปให้หมด ก่อนที่จะให้ทีมเข้ามาทำงาน จึงเดินตามเข้าไปดู ปรากฏว่าเห็นคุณชอดิ้นทุรนทุรายอยู่กลางอากาศ ใช้สายยางของถังฉีดแมลง ผูกคอตัวเองไว้กับพัดลมเพดานกลางห้อง

สุดท้ายก็มีญาติมารับศพคุณชอ แล้วนำกลับไปที่บ้านเกิด ด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด คุณบอยจึงย้อนกลับไปในที่เกิดเหตุ สอบถามกับพนักงานที่ทำงานอยู่ในที่แห่งนั้น

พนักงานได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีนักธุรกิจคนหนึ่งมาเที่ยวที่นี่ แล้วได้ระบายให้กับผู้หญิงที่เลือกขึ้นไปบนห้องฟังว่า ตอนนี้ธุรกิจของตัวเองล้มละลาย และกำลังจะโดนฟ้อง ซึ่งตอนนี้เครียดมาก

ผู้หญิงก็ปลอบใจ ว่าไม่ต้องเครียด เดี๋ยวคืนนี้จะช่วยดูแลให้เอง แต่หลังจากที่ผู้หญิงเดินออกไปเอาผ้าขนหนู แล้วกลับเข้ามาในห้อง ก็พบว่าผู้ชายได้ผูกคอตายอยู่กลางห้อง ซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับที่คุณชอผูกคอตาย

ในช่วงที่ญาติมารับศพคุณชอ มีบางจังหวะที่คุณบอยได้คุยกันทางญาติ ซึ่งญาติก็บอกกับคุณบอยว่า จริงๆแล้ว คุณชอไม่ได้มีอาการป่วยทางจิตหรืออะไรเลย คุณชอเป็นคนที่ดีมาก ขยันกตัญญูกับพ่อแม่

แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันหรือเปล่า คุณชอได้ไปรับขันธ์มาจากที่แห่งหนึ่ง แล้วนำมาบูชา ลักษณะเป็นแท่งดำๆยาวๆ เหมือนกระดูกนิ้วคน และในแท่งอันนั้น จะมีรอยอักขระของภาษาทางบ้านเกิดติดอยู่ด้วย แต่อยู่ดีๆ คุณชอก็เอาสิ่งนั้นใส่ปากแล้วกลืนลงท้องไป

หลังจากนั้น ทางญาติก็บอกตามตรงว่า คุณชอเริ่มมีพฤติกรรมแบบที่คุณบอยพบเห็นอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็เหมือนไม่ใช่ตัวของคุณชอเอง ดวงตาเลื่อนลอย สลับกับชอบทำตาขวาง แล้วก็กลับไปเป็นปกติ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น