เสาหลักประหารในเรือนจำ


    เรื่องราวหลอนๆของเสาหลักประหารในเรือนจำที่คุณนีพบเจอมา เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี เมื่อประมาณหกปีที่ผ่านมา คุณนีและเพื่อนๆวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด ตั้งใจไว้ว่าจะไปกันอาทิตย์หน้า

    พอใกล้จะถึง มีเพื่อนคนหนึ่ง โทรมาชวนให้คุณนีไปเที่ยวที่รีสอร์ทในจังหวัดสระบุรี เพราะตอนนี้เพื่อนอยู่คนเดียว คุณนีก็โอเค เพราะจะได้ไม่ต้องจองที่ให้ยุ่งยาก ขึ้นไปกันประมาณสี่คน

    รีสอร์ทเห่งนี้ เป็นของคุณพ่อของเพื่อน ซึ่งกำลังสร้างเสร็จใหม่ๆ รอบูรณะรอบๆให้เสร็จก่อน ถึงจะเปิดให้เข้าพัก รีสอร์ทตั้งอยู่บนเขาลูกหนึ่ง ห่างจากชุมชนบ้านเรือนประมาณสองกิโลเมตร มีบ้านพักประมาณเกือบๆสิบหลัง มีทั้งแบบชั้นเดียวและสองชั้น รอบๆรีสอร์ทจะเป็นป่า ด้านหลังรีสอร์ทจะมีคลองเล็กๆ ที่สามารถนั่งตกปลาได้

    คุณนีและเพื่อนๆเดินทางไปถึงช่วงเย็น หลังจากทานอะไรกันอิ่มแล้ว ก็กระจายกันเข้าพักหลังละคน จนวันที่สอง ในช่วงหัวค่ำ หลังจากทานอาหารค่ำกันเสร็จแล้ว เพื่อนคนหนึ่ง ไปเดินเล่นแถวๆหน้ารีสอร์ท แล้วก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมา

    พูดเสียงสั่นปากสั่นว่า "ไปดูนั่นดิ อะไรไม่รู้ตาแดงๆ กูก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร" คุณนีจึงเอาไฟฉายส่องเข้าไปดู แถวๆหน้ารีสอร์ทจะมีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่หลายๆต้น มีหญ้าขึ้นสูงประมาณหัวเข่า แต่คุณนีก็ไม่พบอะไร นอกจากความมืด

    แต่เพื่อนยืนยันเสียงแข็งว่าเห็นจริงๆ เป็นลูกกะตาสีแดงๆ คุณนีก็คิดว่าน่าจะเป็นสัตว์กลางคืน เพราะที่นี่อยู่บนเขา ก็ไม่แปลกที่จะมีสัตว์หลงเข้ามาในเวลากลางคืน ตอนแรกคุณนีและเพื่อนไม่คิดที่จะนอนรวมกัน แต่เพื่อนดันไปเห็นอะไรแปลกๆเข้า จึงย้ายมานอนรวมกันที่ชั้นสองของบ้านหลังหนึ่ง

    คุณนีสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนประมาณตีสอง หูแว่วได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง กำลังเดินขึ้นบันได เหมือนกำลังลากอะไรขึ้นมาด้วยสักอย่าง ลักษณะคล้ายๆโซ่ "แคร้งๆๆๆ" แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู

    คุณนีค่อยๆแหงะมองไปตรงช่องเล็กๆใต้ประตู ภายในห้องปิดไฟจนมืด เหลือเพียงแค่แสงสว่างจากหลอดนีออนที่อยู่เหนือประตู เห็นเป็นเงาของใครสักคน ยืนอยู่ที่หน้าประตู ในใจคิดว่าเป็นคุณพ่อของเพื่อนแวะเข้ามาดู คุณนีจึงไม่สนใจ เงาที่ยืนอยู่หน้าประตู ค่อยๆเดินลงบันไปอย่างช้าๆ

    เช้าวันต่อมา คุณนีจึงมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ว่าเมื่อคืนเห็นอะไรแปลกๆ เพื่อนคนที่นอนข้างๆคุณนีบอกว่า ได้ยินเหมือนกัน เหมือนคนกำลังเดินลากโซ่ขึ้นมาบนบ้าน แล้วเพื่อนคนที่ชวนให้คุณนีมาเที่ยวก็พูดแทรกขึ้นมาว่า "เจอเหมือนกันเหรอ"

    คุณนีก็เริ่มแปลกใจว่าเพื่อนหมายถึงอะไร จึงถามออกไปว่า "เจออะไรอ่ะ" เพื่อนจึงบอกว่า นี่คือเหตุผลที่ต้องให้คุณนีและคนอื่นๆ ขึ้นมาพักที่นี่เป็นเพื่อน ย้อนกลับไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ ก่อนที่คุณนีจะขึ้นมาพัก

    ปกติที่นี่จะมีคนงานอยู่สองคน ค่อยช่วยงานอยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้ แล้วบังเอิญว่าคนงานทั้งสองคน ได้ไปเจออะไรเข้าสักอย่าง จนต้องวิ่งหนีลงเขาไปอยู่ในปั้มน้ำมัน ซึ่งห่างจากรีสอร์ทประมาณสามกิโลเมตร

    เพื่อนเล่าต่อว่า คุณพ่อได้ไปประมูลไม้เก่าๆ จากกรมราชทัณฑ์ แล้วมีไม้อยู่สามท่อน ที่คุณพ่อจะกำชับไว้นักหนาว่าห้ามยุ่ง ลักษณะเป็นไม้หน้าสี่ แต่คนงานทั้งสองคนไม่รู้ เพราะเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้เอาไม้ทั้งสามชิ้นมาแปรรูป ทำเป็นแผ่นไม้ขั้นบันได

    คุณพ่อบอกกับเพื่อนว่า ไม้ทั้งสามท่อนนั้น คือไม้หลักประหาร กว่าจะถอนขึ้นมาได้ คนที่ถอนต้องนอนจับไข้ไปเป็นอาทิตย์ ไม้ทั้งสามท่อนนี้เป็นไม้ชิงชัน ถ้ายิ่งอยู่ในดินนานเท่าไหร่ จะยิ่งเหนียวเท่านั้น และถ้าอยู่ในน้ำ ก็จะทำให้ไม้ยิ่งแกร่ง นี่คือคุณสมบัติของไม้ชิงชัน

    คนงานทั้งสองคนเล่าให้คุณพ่อของเพื่อนฟังว่า หลังจากวันที่ได้แปรรูปไม้ แล้วเอามาทำเป็นบันได ตกกลางคืน ก็ขึ้นไปนอนพักผ่อนบนห้องที่พวกคุณนีนอน ช่วงเวลาประมาณตีสอง คนงานตกใจตื่น เพราะเหมือนมีอะไรสักอย่างตกลงบนหน้าอก

    จึงพยายามเพ่งมองดูดีๆ พบว่ามันคือดอกบัวที่ถูกมัดติดกับธูปเทียน หางตากก็เหมือนเห็นอะไรสักอย่างอยู่แถวๆประตู จึงหันไปมอง ปรากฏว่าเห็นผู้ชายร่างกำยำ ไม่ใส่เสื้อ นุ่งแต่กางเกงตัวเก่าๆสีมอๆ มองไม่เห็นศีรษะ ถูกล่ามโซ่ทั้งมือและเท้า

    แต่คนงานก็ยังทนอยู่มาได้อีกประมาณสามวัน หลังจากนั้นก็หนีกลับบ้านทันที เพราะทุกๆคืน จะเห็นคนหัวขาด มานั่งยองๆ ดึงขาอยู่ที่ปลายเท้าทุกคืน จนอยู่กันไม่ได้ รีสอร์ทแห่งนี้ จึงเหลือแค่คุณพ่อกับเพื่อนพักอยู่แค่สองคนเท่านั้น เพื่อนจึงได้โทรชวนให้คุณนีมาเที่ยวที่นี่

    ไม่ชิงชันเป็นไม้ที่แข็งมาก เนื้อจะออกสีดำๆ เหตุผลที่คนสมัยก่อนเอาไม้ชนิดนี้ไปเป็นเสาหลักประหาร เพราะว่าถ้าโดนคมมีดแล้ว จะไม่ค่อยบิ่น และเป็นเสาที่ถ้าปักลงไปแล้ว จะดึงขึ้นยากมาก เพื่อป้องกันคนที่ถูกมัดขัดขืน ต้องใช้เครื่องมือในการดึงขึ้นมา

    ปัจจุบัน ไม้ทั้งสามแท่งถูกแปรรูปไปหมดแล้ว คุณพ่อของเพื่อนได้รื้อบันไดไม้ทิ้ง แล้วทำเป็นบันไดเหล็กแทน แต่หลังจากวันที่รื้อบันได คุณพ่อก็ยังหาไม่ทั้งสามแท่งนั้นไม่เจอ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น