โรงแรมสุดดังเรื่องหลอน


     เป็นเรื่องโด่งดังเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นจริง ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่มีชื่องเสียง.......ด้านความสยอง ประวัติของโรงแรมนี้มีมานานตั้งแต่โรงแรมนั้นยังไม่สร้าง วันนี้คุณโบนัส เจ้าของเรื่องนี้จะมาชี้แจงและเล่าเรื่องนี้กันครับ เรื่องราวสุดเข้มข้นสุดสยองจริงๆผมขอแนะนำเรื่องนี้ ไปติดตามกันเลยครับ

     เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ที่โรงแรมที่นึ่งในภาคใต้ เรื่องก็มีอยู่ว่า ก่อนที่จะคุณโบนัสจะพบเจ้าของโรงแรมนี้ คุณ โบนัสทํางานเป็นDjอยู่ในผับๆนึ่งในโรงแรมในกรุงเทพ คุณโบนัสก็ปฏิบัติงานปกติในแต่ละวัน จนกระทั่งวันนึงมีเพื่อนของเจ้าของ โรงแรม เขามาจากทางภาคใต้ จากจังหวัดๆนี้ เขามาท่องเที่ยว แล้วเขาพูดว่า อยากได้คณะทํางานที่เกี่ยวกับวงดนตรี เล่นแบบ โฟล์คซอง รวมทั้งขอบุคลากรเฝ้าล็อบบี้เวลากลางคืน กับพนักงานหิ้วกระเป๋า รวมถึงบริกร แล้วเจ้าของโรงแรมก็เรียกคุณโบนัสให้ ไปคุยกับเพื่อนเจ้าของโรงแรมคนที่มาเที่ยว

     เจ้าของโรงแรมคนนั้นก็ถามคุณโบนัสว่า พอจะมีทีมงานมั้ย พอจะลงไปดําเนินงานให้พี่หน่อย เรื่องค่าจ้างรายเดือนไม่เกี่ยง สวัสดิการดี คุณโบนัสก็ฟังๆดูแล้วก็โอเค แล้วเขาก็เอารูปภาพของโรงแรมของเขาให้ชม แล้วบอกอยากทําโซนๆเบี้ยให้เป็นลาน เบียร์สด คุณโบนัสก็พอที่จะรู้เรื่องคอนเซ็ปของเจ้าของโรงแรมละ คุณโบนัสก็เลยพูดว่า ยังไงเดี๋ยวจะลองๆหาดูนะพี่ แม้กระนั้นเขา บอกอีกว่า ให้หาเร็วๆหน่อยนะ ไม่เกิน 15 วัน คุณโบนัสก็พูดว่า คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าภายใน 15 วัน ก็จะต้องลาออกจากที่เก่า ก่อน แล้วพอดิบพอดีที่เจ้าของโรงแรมที่คุณโบนัสทํางานอยู่ นั้นกับเจ้าของโรงแรมที่ภาคใต้ก็สนิทกัน เจ้าของโรงแรมที่กรุงเทพก็ พูดว่า ช่างเถอะ ถ้าเกิดเอ็งหาได้ เดี๋ยวจะอนุมัติให้ คุณโบนัสก็งงมากว่าเพราะอะไรเจ้าของโรงแรมดูเหมือนให้ไปง่ายจัง

     จากนั้นคุณโบนัสก็ไปหาคนอื่นเพิ่ม แล้วก็พอดิบพอดีว่าแฟนของคุณโบนัสเป็นนักร้องอยู่อีกผับนึ่ง คุณโบนัสก็เลยถามว่า สนใจลง ไปมั้ย แฟนก็พูดว่า พอดีวงจะหมดสัญญาอยู่แล้ว ก็เลยลงไปด้วย แล้วคุณโบนัสก็ถามบุคลากรในโรงแรมบางคน แล้วทุกคนที่ไป ถามก็พร้อมใจกันลงไป รวมทั้งได้ผู้จัดการมา 1 คน คุณโบนัสก็เป็นผู้ช่วยของผู้จัดการ แล้วหลังจากนั้นก็ลงไปทํางานที่โรงแรมใน ภาคใต้กันทั้งสิ้น 14 คน มีวงดนตรี 4 คน คนที่เหลือก็จะเป็นพวกแม่บ้าน เด็กหิ้วกระเป๋า เฝ้าล็อบบี้ ครบทุกตําแหน่ง แต่ว่า อยากให้ ทั้ง 14 คนนี้เข้ากะช่วงกลางคืน เหมือนกับว่าอยากที่จะไม่ให้โรงแรมเงียบ เจ้าของโรงแรมเคยบอกไว้ว่า โรงแรมเปิดมาได้ปีกว่า อยู่ ลึก คุณโบนัสก็บอกช่างเถอะ เจ้าของโรงแรมก็ถามคําถามว่า อยากได้เงินเดือนเท่าไร คุณโบนัสก็บอกเงินเดือนของแต่ละคนที่เรียก มาให้เจ้าของฟัง แล้วเจ้าของโรงแรมไม่ต่อค่าจ้างซักบาท และจ่ายเงินเดือนล่วงหน้าอีกคนละ 1 เดือน รวมทั้งจองตั๋วเครื่องบินให้ ทั้งสิ้น 14 คน

     พอถึงวันเดินทางก็นัดพบกันที่ท่าอากาศยาน ได้ไฟล์ทบินตอน 3 ทุ่ม แล้วก็ถึงที่จังหวัดๆนี้ตอน 4 ทุ่มกว่าๆพอมาถึงก็มีรถมินิบัสจาก โรงแรมมารับไปที่โรงแรม โดยที่เจ้าของโรงแรมซื้อรถเก๋งป้ายแดงไว้ให้ใช้ และก็รถยนต์มอเตอร์ไซด์ใหม่ไว้ให้อีก 2 คัน ระหว่าง ทางคุณโบนัสก็ถามคนขับถามว่า จากท่าอากาศยานไปโรงแรมมันไกลมัย คนขับก็พูดว่า ราวๆ 40 กิโล จากทางเข้าถนนใหญ่ เลี้ยว เข้าไปในซอกซอยราวๆ 2 กิโล มืดตลอดทาง ไปถึงก็จะมีตรอกเล็กๆแยกไปอีก และจากนั้นก็มีรถยนต์ของพนักงานของผู้หญิงที่น่า จะเป็นของบุคลากรสํานักงานที่โรงแรม แต่เขาไม่ได้หยุดคอยในโรงแรม แต่กลับหยุดรถยนต์รออยู่ข้างถนน เพื่อจะเอากุญแจรถเก๋ง แล้วก็กุญแจมอเตอร์ไซด์ที่เจ้าของโรงแรมซื้อไว้ให้ รวมทั้งกุญแจประตูโรงแรม แล้วก็กุญแจห้องพักบุคลากรทั้งหมด แล้วก็บอกว่า ห้องพักบุคลากรอยากอยู่ตรงไหนเลือกเอาเลย แล้วหลังจากนั้นก็แยกจากกัน แต่ก็ต้องนั่งรอต่อเข้าไปอีกราวๆเกือบจะๆก็โลนึ่งกว่า จะถึงโรงแรม

     พอเข้าไปถึงโรงแรม ประตูโรงแรมจะอย่างกับประตูสวนสนุกเลย เป็นเหมือนเสาโรมัน ที่จอดรถใหญ่มาก ในโรงแรมก็เปิดไฟไว้ อย่างละนิดอย่างละหน่อย เวลาขณะนั้นก็ราว 5 ทุ่ม ก็มียามที่อยู่หน้าโรงแรมพูดว่า ห้องพักบุคลากรเดินไปด้านหลังนะพวกคุณ โบนัสก็ไปกัน 14 คน นอนห้องละ 2 คน 7 ห้อง คุณโบนัสก็เปิดเข้าไปในห้องพักของตนเอง เปิดเข้าไปห้องคือดีงาม ห้องพัก บุคลากรมีห้องรับแขกด้วย มีTVตรงห้องรับแขกเครื่องนึ่ง ในห้องนอนอีกเครื่องนึ่ง ในตอนนั้นทั้งหมด 14 คนรู้สึกดีใจกันมาก งาน อะไรมันจะแฮปปี้ขนาดนี้ ผู้จัดการก็พูดว่า นอนพักกันก่อน ไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าตื่นมาค่อยมาคุยงานกัน

     ตื่นมารุ่งเช้า เปิดประตูห้องมาจะพบสระว่ายน้ําเลย ที่สระว่ายน้ําจะมีสไลด์เดอร์สูงราวๆซักอาคาร 5 ชั้นได้ สระว่ายน้ําจะมีทั้งหมด 4 สระ สระเด็กสระนึ่ง สระคล้ายจากุชชี่สระนึง สระคนโตสระนึง และก็สระที่เอาไว้เล่นสไลด์เดอร์อีกสระนึง คุณโบนัสเดินออกมาคุย งานกับคนอื่นแบ่งภาระหน้าที่กันว่าคนไหนอยู่ที่ไหน ทําอะไรบ้าง โดยที่กลุ่มของคุณโบนัสจะรับกะต่อตอน 4 โมงเย็น จนกระทั่ง ตอนเช้า แต่วงดนตรีจะอยู่ถึงตี 2 พอแบ่งตําแหน่งกันพร้อมสรรพ คุณโบนัสก็จะมีน้องอยู่ 2 สนิทๆคนนึ่งชื่อ เจ อีกคนชื่อ น้อย ที่เป็น เด็กเสริฟและก็เป็นบาร์น้ํา คุณโบนัสก็นั่งคุยกับ 2 คนนี้ว่า เพราะอะไรโรงแรมมันเงียบจัง ขนาดช่วงกลางวันนะเนี่ย จังหวัดก็เป็น จังหวัดท่องเที่ยว

     ในกะตอนกลางวันพนักงานก็จะเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนทําสวน หรือพนักงานคนอื่นๆไม่มีคนไทย คุณ โบนัสก็ลองเดินสํารวจรอบบริเวณกับเจ้วันแรกก็ยังเดินไม่ทั่ว พอเข้ากะค่ํา ทุกคนก็ต่างไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง โรงแรมนี้นั้นจะมี ห้องอาหารมีโต๊ะอยู่ราว 100-200 โต๊ะ คุณโบนัสก็เดินเข้าไป ก็จะมีแม่ครัวทํากับข้าวไว้เลี้ยงพวกคุณโบนัส แล้วก็เลี้ยงพนักงานกะ ตอนกลางวัน คุณโบนัสก็เลยถามแม่ครัวว่า ป้า ที่นี่เขาเงียบอย่างงี้อยู่แล้วหรอ ป่าพูดว่า ป้าก็อยู่ตั้งแต่เปิด ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ แล้วเรา ตั้งใจจะมาอยู่กันกี่วันล่ะ โดยที่ป้านั้นถามเป็นวันด้วย ไม่ใช่ถามเป็นเดือน คุณโบนัสก็สงสัยๆและตอบไปว่า พวกเราก็คงจะทําไป เรื่อยๆล่ะนะครับ ด้วยเหตุว่าเจ้าของโรงแรมค่อนข้างจะนิสัยดี ป้าก็พูดว่า ใช่ แต่เขาคงจะไม่เข้ามาหรอก เพราะเขาคงจะไม่ว่างเข้า มา

      ช่วงดึก แม่บ้านที่เป็นคนทําอาหาร 4 โมงเย็น เขาก็กลับกันหมด หลังจาก 4 นาฬิกาเย็น ก็จะมีเพียงแค่พวกคุณโบนัส 14 คน ทั้ง โรงแรม บุคลากรที่อยู่กะช่วงกลางวันทั้งหมดกลับกันหมดเลย และที่สําคัญ ไม่มีลูกค้ามาเข้าพักเลยแม้กระทั้งคนเดียว ถ้าหากมอง ในแง่ดี โรงแรมบางทีก็อาจจะอยู่ลึกไป คนเลยไม่เข้ามา กลางคืน คืนแรกก็ไม่มีอะไร แต่ที่ผิดสังเกตอยู่อย่างนึ่งก็คือ เวลาที่ถามแม่ บ้านหรือบุคลากรอยู่กะตอนกลางวัน ถามว่า ทําไมโซนตรงนี้ถึงปิด ทําไมถึงให้เดินเพียงแค่โซนนี้โซนเดียว ก็มีคนบอกว่า โซนที่ปิด ไว้ก็ไม่ต้องเข้าไปเดินหรอก เนื่องจากตรงนั้นยังทําไม่เสร็จ คุณโบนัสก็ไม่สงสัยอะไร แล้วก็อีกจุดนึ่งที่น่าสงสัยก็คือ สไลด์เดอร์ไม่ เปิดให้ใช้ ปิดบันไดทางขึ้นหมดเลย คุณโบนัสก็รู้สึกว่า คงเพราะไม่มีลูกค้ามั่ง ก็เลยปิดไว้

     วันที่ 2 คุณโบนัสก็ขับรถออกไปข้างนอก ไปเซอร์เวย์กัน ขับออกไปรอบๆโดยรอบของโรงแรม ไม่มีชุมชน ไม่มีบ้านคนอยู่เลย ใน ระยะทาง 2 กิโลที่เข้ามา มีบ้านคนอยู่เพียงแค่ กิโลแรกแค่นั้น รอบๆจะเป็นป่าหมดเลย ที่นี้มันเริ่มแปลกก็ตอนเมื่อเข้าวันที่ 3 น้อง คุณโบนัสที่ชื่อน้อยนั้น หายไปจากโรงแรม พอไปถามน้องที่อยู่ห้องเดียวกับ น้อย น้องเขาก็เล่าว่า ไม่รู้เรื่องนะพี่ พี่น้อยแกเดินออก ไปด้านนอกตั้งแต่ตี 4 หนูก็คิดว่าแกคงไปเดินเล่นหรือไปวิ่ง จนกระทั่งเวลาที่ต้องทํางานแล้ว ก็ยังคงหาน้อยไม่พบ ออกไปดูที่รถ รถยนต์ก็ยังอยู่ครบหมด คุณโบนัสก็นึกในใจว่า หรือมันจะเดินหลงเข้าไปข้างหลังที่เขาห้ามเดิน คุณโบนัสก็เลยตกลงใจเดินเข้าไป กับเจ ก็เจอเป็นบ้านที่มีสระว่ายน้ํา อยู่หน้าบ้านทุกหลัง ลักษณะก็จะคล้ายๆ Pool Villa แต่ว่าตําแหน่งของบ้านมองดูสะเปะสะปะไป หมด และที่น่าตกใจก็คือสระว่ายน้ําทุกสระเป็นตะไคร่ขึ้นหมดทุกสระ บ้านแถวนั้นมีอยู่ราวๆ 20 หลังที่จะจําเป็นต้องเดินผ่าน

      แล้วคุณโบนัสต้องเดินผ่านห้องฟิตเนสที่เป็นห้องฟิตเนสร้าง แต่ว่าเครื่องไม้เครื่องมือด้านในใหม่มากอยู่ข้างใน แต่ว่าก็ไม่ได้คิด อะไร เพราะว่าประตูล็อคอยู่เดินผ่านไปก็จะเจอกับบ้านที่เป็นวิลล่าที่เป็นอีกแบบนึง ที่ไม่มีสระว่ายน้ํา แต่ก็ร้างเหมือนเดิม คุณโบนัส ก็ลองมองลอดหน้าต่างเข้าไปในตัวบ้านก็มีเครื่องเรือนอยู่ภายในห้องครบหมดเลย ซึ่งไม่ใช่ว่าสร้างไม่เสร็จแน่นอนแต่มันเสร็จแล้ว พร้อมใช้ พอเดินเข้าไปลึกๆอีก จะเป็นสปา มีสระวน มีศาลาอยู่ 5 ศาลา ตรงกลางของน้ําวนก็จะมีเกาะกลางด้วย รวมทั้งจะมีสะพาน ข้ามไปด้วยคุณโบนัสก็ไปเจอ น้อย นอนอยู่ที่ศาลาตรงกลางนั้น

      คุณโบนัสก็เข้าไปปลุก แล้วน้อยก็ตื่นมา คุณโบนัสก็ถามว่า ทําไมถึงมานอนตรงนี้ น้อยก็เล่าว่า ตัวเองได้ยินว่ามีคนมาเรียกเมื่อคืนนี้ คุณโบนัสก็ถามต่อว่าใครเหรอมาเรียก น้อยก็เล่าว่า เป็นผู้หญิงมาเรียกว่า ให้มาช่วยเขาหน่อย แล้วน้อยก็เลยเดินตามไป ต่อจากนั้น น้อยก็ไม่มีสติอีกเลย แล้วหลังจากนั้นก็หลับไป กระทั่งพวกคุณโบนัสมาปลก ถึงได้รู้สึกตัว แล้วคุณโบนัสก็เดินกลับออกมาที่หน้า โรงแรม มานั่งคิดกันว่า น้อย มันหลงไปได้ยังไง ใครกันแน่มาตามมันไปจริงๆเราก็มีกันเพียงแค่ 14 คนเองนะ ไม่มีคนอื่น แล้ววันที่ 3 ก็ผ่านไป

      กระทั่งวันที่ 4 หนึ่งในกรุ๊ปคุณโบนัสก็มีน้องคนนึงที่เป็นแม่บ้านกะกลางคืน เขาท้องได้อยู่ 3 เดือน ตื่นตอนเช้มาเขาเล่าให้ฟังว่า พี่ หนูฝันว่ามีผู้หญิงมาบอกว่า ให้ไปเอาเขาขึ้นมาหน่อย คุณโบนัสก็ถามว่า ทํางานมาก แล้วคิดมากรึเปล่า น้องก็สวนกลับมาว่า ที่นี่มี งานอะไรให้หนูทําพี่ เงียบขนาดนี้ คุณโบนัสก็เลยถามต่อว่า ฝันว่ายังไง น้องก็เล่าต่อว่า ในขณะที่หนูหลับ เหมือนกับว่ามีผู้หญิงมา เคาะกระจก แล้วพูดว่า พี่ๆมาช่วยหนูหน่อย หนูอยู่บ้านหลังสุดด้านหลังตรงโน่นเลย หนูอยู่ตรงใต้ต้นไผ่ แล้วก็ถ้าหากจะเดินเข้าไป หาหนูให้สังเกตเลยว่าหนูจะอยู่ตรงรีสอร์ทที่เป็นวิลล่า หน้าบ้านจะมีรูปปั้นที่เป็นสุนัขดําและสุนัขขาวอยู่ คุณโบนัสฟังแต่ก็ไม่ได้เชื่อ คงจะไม่มีอะไร แต่ว่าเจบอกว่า ลองเดินเข้าไปดูก็ไม่เสียหายมั้ง เข้าไปดูกันเลยดีกว่า ผมว่ามันแปลกๆละ

      คุณโบนัสกับเจก็เดินเข้าไปอีกรอบ ผ่าน 20 หลังแรก ที่มีสระ เดินผ่านสปา และเดินต่อไปจนกระทั่งโซนท้ายสุดที่เป็นรีสอร์ทที่เป็น บ้านไม้เป็นหลังๆและบ้านหลังสุดท้าย มีรูปปั้นสุนัขจริงๆพอเดินไปดูบริเวณบ้าน ก็มีคล้ายกอไผ่อยู่จริงๆแล้วก็มีเฉพาะหลังนี้หลัง เดียวด้วย คุณโบนัสก็มีความรู้สึกว่า หรือมันจะมีอะไรอยู่ใต้ดินนี้รึเปล่าวะเวลาในตอนนั้น บ่าย 3 บ่าย 4 บรรยากาศก็ดูน่าขนลุก คุณ โบนัสก็เลยบอกเจว่าพวกเราเดินกลับออกไปก่อนดีกว่า บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดีละ

     จนกระทั่งมาถึงวันที่ 5 ก็มีน้องผู้หญิงที่เป็นบริกรเล่าว่า ได้ยินคนทะเลาะกัน แล้วก็มีเสียงเหมือนคนใช้ขวดตีกันจนแตก เป็นเสียง ผู้ชายกับผู้หญิงทะเลาะกัน แต่ว่าเสียงเถียงกันนั้นไม่ใช่เสียงภาษาไทย คาดว่าน่าจะเป็นภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน ทีนี้ช่วงกลาง วัน คุณโบนัสก็ไปถามแม่ครัวที่อยู่กะช่วงกลางวันว่า ป้า ตรงนี้มีแค่เรานอนกันอยู่เท่านี้ หรือมีพนักงานที่ก่อสร้างอยู่ข้างหลังบ้านนี้มัย นะครับ ป้าบอกว่า ไม่มีนะ รอบกลางคืนก็จะมีแต่พวกคุณนั่นล่ะ คุณโบนัสก็คิดละว่า แล้วใครมันทะเลาะกันวะ

      วันที่ 6 ครั้งนี้ได้ยินกันทั้งหมด 7 ห้องเลย คุณโบนัสก็เปิดประตูห้องออกมาดู ตอนที่ 3 พากันไปเดินหาเสียง แน่ใจว่า ยังไงก็จะต้อง มีคนอยู่ เดินไปกันอยู่หลายๆคน โดยเสียงมันมาจากตึกแถว ที่เป็นเหมือนห้องของคนงาน ที่ถูกล็อคด้วยแม่กุญแจไว้ แต่ว่าพอเดิน ไปดู ก็มองไม่เห็นว่ามีใครอยู่ แต่ว่าเสียงทะเลาะกันนั้นก็ยังคงอยู่ จนกระทั่งน้องๆคนอื่นเริ่มกลัว คุณโบนัสก็เลยบอกให้กลับกันดีกว่า และจากนั้นก็กลับออกมา

      วันที่ 7 มีน้องคนนึงที่เป็นแม่บ้านกะกลางคืน ลงไปเล่นน้ําในช่วงกลางวัน แล้วก็มีเด็กที่เป็นลูกของคนงานกะตอนกลางวันมาเล่น ด้วย แต่ว่าไม่ได้มาเล่นน้ํา กลับชี้ไปที่สไลด์เดอร์ คนที่เป็นแม่บ้านก็ถามว่า มีอะไรหรอหนู เด็กก็พูดไม่ค่อยชัด แต่ว่าพอฟังรู้เรื่องว่า น้าๆมีคนเล่นอยู่ด้านบน เด็ก 4 ขวบคงไม่น่าจะมาโกหก เด็กก็บอกต่อว่า เขาขึ้นไปเล่นได้ แล้วทําไมหนูขึ้นไปเล่นไม่ได้ แล้วพ่อแม่ ของเด็กคนนี้ก็รีบวิ่งมาและพูดว่า มานๆเลย อย่าไปพูดมั่วๆ จากนั้นก็พาลูกเขากลับ น้องแม่บ้านก็มาถามคุณโบนัสว่า มันจะมีอะไรมั้ย น้องเขาชี้ไปตรงสไลด์เดอร์หลายครั้งจังเลย คุณโบนัสก็เริ่มใจคอไม่ดีละ

      วันที่ 8 ผู้จัดการนึกยังไงไม่ทราบอยากจะเล่นน้ําตอนตี 3 ก็เปิดไฟสระว่ายน้ํา สว่างพอควร จังหวะที่เล่นแกก็ว่ายอยู่ตามล่าพัง แก พูดว่า แกได้ยินเสียงคนกระโจนน้ําตามลงมา ตูมนึง ทีแรกแกคิดว่าเป็นคนในโรงแรม หันไปก็ไม่เจอใคร แต่ว่าได้ยินคําพูดมาคํานึง ว่า น้าๆหนูเล่นน้ําด้วยได้มั้ยแต่ผู้จัดการก็ยังคงมองไม่เห็นใครสักคน ได้ยินแต่เสียง แต่แล้วก็ไม่มีอะไร แกก็ขึ้นจากสระขึ้นมา

     ทีนี้เรื่องมาสุดๆก็คือวันที่ 9 ผู้จัดการก็เจออีกครั้งนึง แกเล่นสระว่ายน้ําอย่างเดิม แต่ว่ารอบนี้ ระหว่างที่แกดําน้ําอยู่ ได้ยินเสียงคน กระโจนน้ํามาเหมือนเดิม แล้วในระหว่างที่ด่าอยู่ ก็เห็นว่ามีเด็กกระโจนน้ํา

     ลงมาด้วย สระมันก็จะใสๆผู้จัดการก็มองเห็นเป็นเด็กผู้ชายแต่สภาพคือมีเลือดออก ผู้จัดการก็ตกใจรีบขึ้นมาจากสระ กลัวว่าเด็กจะ เป็นอะไรหรือไม่ แต่ว่าพอขึ้นมากลับไม่มีอะไร เสมือนเป็นสระว่ายน้ําว่างเปล่าที่มีแกอยู่ตามลําพัง แต่ผู้จัดการบอกว่า แกเห็นจริงๆ แกก็พูดว่า มันไม่น่าอยู่แล้วล่ะ จะมีใครบ้างตอบพวกเราได้มั้ยว่า เรากําลังเจอกับอะไร

     ทีนี้ก็เลยไปถามบุคลากรที่อยู่กะตอนกลางวันที่เป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่พอพูดภาษาไทยได้ เขาก็เล่าว่า ก็ไม่มีอะไรนะ พวก คุณบางที่อาจจะอ่อนเพลีย แล้วก็ได้ยินไปเองล่ะมั้ง คุณโบนัสก็ถามย้อนกลับไปว่า แล้วทําไมพวกคุณไม่อยู่กะกลางคืนกันล่ะ เขาก็ พูดว่า ไม่อยู่หรอก พวกฉันทํากะช่วงกลางวันกันแล้ว คุณโบนัสก็ถามคําถามว่า แล้วกะตอนกลางคืนมีคนเคยมาอยู่มัย เขาก็ตอบว่า ก็เคยมี แต่ว่าเขาก็อยู่กันไม่ได้นาน คุณโบนัสก็ถามต่อว่า เพราะอะไรถึงอยู่กันไม่ได้ เขาก็พูดว่า ไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็พวกคุณก็เป็น ชุดที่ 4 แล้ว ที่มาทํากะตอนกลางคืน

      วันที่ 10 น้องผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านที่ท้องอยู่ นั้นหายไป รถยนต์อยู่ครบดั้งเดิม ทุกคนก็เดินตามหากัน หายังไงก็หาไม่พบ ก็เลยถาม เมทที่นอนกับน้องคนนั้น แต่เขาก็บอกว่า ไม่รู้เรื่องเลยว่าน้องออกไปตอนไหน พวกคุณโบนัสก็เดินตามหากันในโรงแรม แต่อย่างไร ก็หาไม่พบ หายไปตลอดทั้งคืน คอยจนกระทั่งรุ่งเช้า เพื่อรอให้แม่บ้านกะตอนกลางวันเข้ามา คุณโบนัสก็เดินเข้าไปถามว่า ป้าครับ ลูกน้องผมหายคนนึง แม่บ้านก็ถามว่า จริงหรอ เขาออกไปข้างนอกหรือเปล่า คุณโบนัสก็พูดว่า ไม่หรอกครับ เขาไปไม่ถูก รถยนต์ก็ ยังอยู่ครบ ต่อไปนี้แกก็พูดว่าลองไปหาที่บ้านหลังสีส้มดู คุณโบนัสก็ถามว่าอยู่ตรงไหน แม่บ้านก็บอกว่า เดินไปเหอะ มีอยู่หลังเดียว

      คุณโบนัสรวมทั้งคนอื่นรวมกัน 6-7 คนเดินกันไป และก็พบน้องคนนั้นอยู่ในบ้านหลังสีส้ม แต่ประตูบ้านหลังสีส้มล็อคแม่กุญแจไว้ พวกคุณโบนัสจําเป็นต้องพังประตูเข้าไป แม่บ้านก็ไม่เดินตามมาด้วย เข้าไปประตูไป น้องก็หลับอยู่ คุณโบนัสก็ปลุกจนกระทั่งตื่นขึ้น มาน้องบอกประมาณว่า มีผู้หญิงมาตาม แต่รอบนี้ใส่เป็นชุดไทย เขาพูดว่า ไปนั่งเป็นเพื่อนเขาหน่อย เขาอยู่ลําพังคนเดียว เขาเหงา แล้วเหมือนหนูคุมตัวเองไม่ได้ และเดินตามเขาไป แล้วก็มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนพวกพี่มาเนี่ยล่ะ ที่นี้ทั้งหมด 14 คนก็มานั่งคุยกันว่า พวกเรากลับกันดีมัย เจ้าของก็ไม่เข้ามาเลย ยิ่งอยู่ไปเราจะเป็นอะไรกันมั้ย พออยู่ครบ 13-14 วัน ช่วงกลางคืนจะมีเสียงเด็กมาไล่ เคาะกระจกทุกห้องเลย และก็หัวเราะด้วย แฟนคุณโบนัสถึงกับร้องไห้เลย กระทั่งนอนกันไม่ได้ และทุกคืนวันพฤหัสก็จะมีเสียงคู่ สามีภรรยาประเทศเพื่อนบ้านทะเลาะกัน ช่วงนี้ทุกคนหลอนกันไปหมดเลย ไม่รู้จะทําอย่างไร

      จนกระทั่งในที่สุดที่อยู่ไม่ได้จริง ก็คือราววันที่ 17-18 ก็มีน้องคนนึงหายไป เป็นน้องผู้ชาย น้องคนนี้เป็นเด็กถือกระเป๋า หาไม่พบ เหมือนเดิม คุณโบนัสก็ถามแม่บ้านเหมือนเดิมว่า ป้า น้องผมหายอีกแล้วอ่ะ ป้าก็ถามว่า ชายหรือหญิงล่ะ คุณโบนัสก็ตอบว่าผู้ชาย ป้าก็พูดว่า ลองไปดูที่ฟิตเนสสิ ซึ่งป้าแกรู้หมดเลย ถ้าหากผู้หญิงหายจะไปอยู่ที่ห้องสีส้ม ผู้ชายหายจะไปอยู่ในฟิตเนส แล้วก็ทุก ครั้งที่คุณโบนัสผ่านห้องฟิตเนส ห้องมันล็อคอยู่ตลอด แล้วน้องมันจะเข้าไปได้อย่างไร แล้วคุณโบนัสเข้าไปเจอน้องคนนี้ในสภาพที่ น้องเขาแขนหักข้างนึง ข้างซ้าย ในเวลานั้นคุณโบนัสก็ยังไม่ได้ถามอะไร พาไปหาหมอก่อน เนื่องจากว่าคงจะหักมานานแล้วด้วย

      พอน้องตื่นมาก็ถามกันว่าเกิดไรขึ้น น้องก็เล่าว่า ผมเจอผู้ชายพูดว่า มาช่วยเขายกของหน่อย ผมก็เดินตามออกไปด้วยเพราะอะไร ไม่รู้ แล้วสิ่งสุดท้ายก่อนจะแขนหักคือ เขาโยนดัมเบลล์ใส่ เขาบอกอ่ะ ช่วยรับไอนหน่อย แล้วใครมันจะรับไหว จังหวะนั้น น้องก็รับ 2 มือ แต่ว่าด้วยความที่มันหนักมาก ทําให้แขนข้างซ้ายของน้องมันหัก และจากนั้นก็หลับไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็ในตอนที่แขนเข้าเผือก เป็นที่เรียบร้อย

      วันที่ 20 ก็ยังมีเด็กมาเคาะกระจกช่วงกลางคืน จนกระทั่งวันที่ 21 กรุ๊ปของคุณโบนัสตัดสินใจกลับ แต่ก่อนที่จะกลับ ก็ไปถามแม่ บ้าน ป้าแม่บ้านก็เล่าว่า ในความเป็นจริงแล้วพี่ก็จะลาออกสิ้นเดือนนี้เช่นกัน เพราะ ถ้าเกิดหมดจากชุดพวกเราก็อาจจะไม่มีใครมา แล้วหละมั่ง คุณโบนัสก็ถามว่าเด็กที่อยู่ตรงสไลด์เดอร์เป็นใครกันแน่ ป้าก็เอาหนังสือพิมพ์ให้คุณโบนัสอ่าน เป็นหนังสือพิมพ์ที่ออก ข่าวในจังหวัดนั้น เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 4 เดือนแรกที่โรงแรมนี้เปิด สไลด์เดอร์ปกติจะมีโค้งรับ หรือบางทีจะมีเป็นอุโมงค์ แต่ ว่าที่นี่ไม่มี ทําให้เด็กหลุดโค้งตกลงมากระแทกที่พื้นเสียชีวิต จากความสูงเท่ากับอาคาร 3-4 ชั้น แม้กระนั้นในหนังสือพิมพ์ไม่ได้ กล่าวว่าเสียชีวิตจากที่โรงแรมแห่งนี้

      แล้วคุณโบนัสก็ถามอีกว่า ห้องฟิตเนสเป็นยังไง ป้าก็พูดว่า คนงานที่เป็นเพื่อนบ้านเราเนี่ย เขาไปออกกาลังกายตอนค่า ในตอนนั้น โรงแรมก็ยังสร้างไม่เสร็จ ก่อนที่จะเปิด เหมือนเขามานอนยกบาร์เบลล์ แล้วไม่รู้ว่ายกอีท่าไหน บาร์เบลล์ร่วงลงมาที่คอ คอหักตาย คุณโบนัสก็ถามอีกเรื่องนึ่งว่า น้องผู้หญิงเขาฝันอีกว่ามีผู้หญิงขอให้ไปช่วย ป้าก็พูดว่า ระหว่างที่กําลังสร้าง เขาก็เร่งให้โรงแรมเสร็จ เร็วๆผู้หญิงคนนี้ก็หน้ามืด นอนตายอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายข้างหลังนั้น คุณโบนัสก็ถามอีกว่า แล้วบ้านสีส้มหละ ป้าก็บอกว่า เป็นพนัก งานสปา ถูกลูกค้าบีบคอ ส่วนทุกๆวันพฤหัสที่จะได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ก็คือ คนงานทะเลาะกัน เป็นคู่รักกัน เอามีดแทงกัน เอา ขวดตีกันตาย พอถามไปถามมาก็ได้ทราบว่า ครึ่งนึงของพื้นที่เป็นกุโบร์เก่าหรือสุสานของอิสลาม แล้วไปสร้างโรงแรมทับไว้

      ต่อจากนั้นคุณโบนัสก็โทรหาเจ้าของโรงแรม เจ้าของโรงแรมก็ถามว่า อยู่ไม่ได้ใช่มั้ย อย่าว่าแต่เราเลย พี่ยังไม่กล้าเข้าเลย คุณ โบนัสก็ถามว่า แล้วพี่ให้พวกเรามาเนี่ยนะ เจ้าของก็เล่าว่า จริงๆพี่ประกาศขายแต่ก็ไม่มีใครมาซื้อ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าของโรงแรมคน นี้ ได้ซื้อโรงแรมต่อเขามาอีกที ในราคา 35 ล้านบาท ซึ่งมันถูกมากกับพื้นที่ตั้ง 20 ไร่ แล้วก็ก่อสร้างเสร็จหมดแล้ว แล้วก็ตลอด 20 -21 วันที่กรุ๊ปคุณโบนัสไปปฏิบัติงานที่โรงแรมนี้ ก็ไม่พบลูกค้าที่เข้ามาพักเลยแม้กระทั่งคนเดียว และในปัจจุบันนี้ โรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมร้างและยังคงประกาศขายอยู่ แต่ว่าก็ยังไม่มีใครมาซื้อตลอดระยะเวลา 9 ปี

ไม่มีความคิดเห็น