บักนัด


     เรื่องราวของคุณโต้ง วงบางกะปิ เล่าถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครั้งยังเด็กย้อนกลับไป 20 ปีก่อน เมื่อเขาได้ไปต่างจังหวัด แล้วได้เล่นซ่อนหาการเล่นซ่อนหามีความสนุกและซ่อนไปด้วยความลี้ลับเพราะบางครั้งอาจจะทำให้ผู้ซ่อนหายไปตลอดกาล  ลองไปติดตามเรื่องนี้กันคับว่าคุณโต้งพบกับเหตุการณ์ใด

     เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่คุณโต้งอยู่ป.4 ป.5 ซึ่งเกือบๆ 20 ปีมาแล้ว พ่อแม่ของคุณโต้งเลิก กันตั้งแต่เด็ก คุณโต้งอยู่กับแม่ และทุกครั้งปิดเทอม พ่อก็จะมารับไปเที่ยวบ้าน 3-4 วัน จนมีอยู่ครั้งนึง พ่อก็ขออนุญาตแม่พาคุณโต้งกลับบ้านพ่อที่ต่างจังหวัด เพราะมีเพื่อนพ่อแต่งงานแม่ก็อนุญาต พ่อของคุณโต้งเป็นคนอีสาน คุณโต้งกับญาติคุณพ่อจะไม่ ค่อยสนิทกันมาก เพราะอยู่กับทางแม่มากกว่า ไปบ้านพ่อก็จะไม่ค่อยรู้จักกับใครเท่าไร หมู่บ้านทางภาคอีสานทุกคนในหมู่บ้านก็จะรู้จักกันหมด วันแรกที่คุณโต้งไปถึง บ้าน ของพ่อนอกจากพ่อก็มีย่าอยู่อีกคน พอไปถึงก็ทักทายคุยกันปกติ ในคืนแรกก็มีเพื่อน คุณพ่อตอนสมัยเรียนมาสังสรรค์กัน เพื่อนๆพ่อก็พาลูกพาลูกๆมาด้วย คุณโต้งก็มี เพื่อนที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 พอตกเย็น พ่อก็พาคุณโต้งไป บ้านคนๆนึงชื่อว่า ตาปุ่น ระยะทางก็ประมาณปากซอยไปท้ายซอย ไม่ไกลมากพอไปถึง ก็เห็นเพื่อนพ่ออยู่กันซัก 7-8 คน มีเด็กๆ วิ่งเล่นกันหน้าบ้าน 4-5 คน พอไปถึงพ่อก็ ไปฝากคุณโต้งไว้กับเด็กๆ แล้วพ่อก็เดินขึ้นบนบ้านไปหาเพื่อน พอคุณโต้งเจอเพื่อนๆก็ ไปเล่นกับเพื่อน เล่นกันอยู่ซักพักก็มีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม เป็นเด็กผู้หญิง 2 คน น่าจะโตก ว่าคุณโต้ง 2-3 ปี และในมือของเด็กผู้หญิง 2 คนนั้นก็ถือเสื่อมาผืนนึง ผืนเล็กๆ บางๆ พอมาถึงก็พูดว่า เลิกๆๆๆ มาเล่นซ่อนแอบกันดีกว่า คุณโต้งได้ยินก็รู้สึกสนุก เด็กทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็สนใจอยากเล่น ซึ่งตอนนั้นเวลาก็ 6 โมงครึ่งแล้ว แต่วิธีการเล่นจะแปลกอยู่อย่างนึง ก็คือว่าตัวเด็กผู้ หญิง 2 คน เขาเอาเสื่อมาม้วนกับพื้นคนนึงจับหัว คนนึงจับท้าย เหมือนเป็นหมอนข้าง แล้วก็นั่งยองๆ แล้วสั่งให้คุณโต้งและเด็กทุกคนมาล้อมเป็นวงกลมไว้ แล้วเด็กผู้หญิง 2 คนก็พูดเป็นภาษาอีสาน คุณโต้งจับใจความได้บางคําประมาณว่า ขอเชิญ พี่อะไรซัก อย่าง มาเล่นซ่อนหาด้วยกัน ให้มาอยู่ในเสื่อผืนนี้ จากนั้นซักพัก เสื้อตรงกลางก็ปล่องออกอารมณ์ประมาณว่างูเหลือมกินอะไรเข้าไป ตอนนั้นคุณโต้งก็ตกใจ ว่ามันคืออะไร แต่ทุกคนก็ดูเหมือนเป็นปกติ และสิ่งที่แปลกอีกอย่าง ซักพักอยู่ดีๆเสื่อมันแกว่งซ้ายแกว่งขวาเอง และเด็กผู้หญิง 2 คนก็ลุกขึ้น เด็กทุกคนก็วิ่งไปแอบกันโดยอัตโนมัติพอ

     คุณโต้งเห็นคนอื่นวิ่ง ก็วิ่งไปแอบบ้าง คุณโต้งวิ่งเข้าไปแอบในโอ่งที่มีน้ําแล้วก็เอาฝา ปิดไว้ ระหว่างที่แอบคุณโต้งก็ได้ยินเสียงเด็กๆข้างนอกกําลังหากันอยู่ แล้วก็พูดว่าเจอ แล้วๆ ซักพักเด็กผู้หญิง 2 คนนั้นก็เดินมาเปิดฝาโอ่งที่คุณโต้งแอบอยู่ออก แล้วก็บอก ว่า เจอแล้ว พอคุณโต้งออกมาจากโอ่ง ก็เห็นเด็กผู้หญิง 2 คนนั้น ในมือก็ยังถือเสื่ออยู่ และเสื่อก็ยังแกว่งแต่มาหยุดที่โอ่ง ทีนี้พอเหลือคนสุดท้าย คุณโต้งก็ได้เห็นว่าทําไมเด็ก ผู้หญิง 2 คนนั้นถึงหาเจอคุณโต้งเจอ คือว่า เด็กผู้หญิง 2 คน จะวิ่งตามเสื่อ เสื่อแกว่ง ไปทางไหน ก็จะวิ่งตามไป จนไปเจอคนสุดท้าย ตอนนั้นคุณโต้งเริ่มรู้สึกสนุก ไม่กลัว ไม่เคยเล่นซ่อนแอบแบบนี้เลย
คราวนี้ก็มาเล่นซ่อนแอบกันอีกรอบนึ่ง เด็กหญิง 2 คนก็นั่งลงทําเหมือนเดิมทุกอย่าง พอเด็กๆเริ่มวิ่งไปแอบ คุณโต้งก็คิดว่ารอบนี้ต้องเป็นคนสุดท้ายที่โดนหาเจอ คุณโต้ง มองไปเจอกุ้งข้าว ประตูเปิดเอาไว้เล็กน้อย และในยุ้งข้าวจะมีกองฟางอยู่คุณโต้งก็เลย ไปแอบหลังกองฟางนั่งแอบอยู่ซักพักนึง ก็รู้สึกว่าเผลอหลับไป แล้วก็มีเสียงเข้ามาในหู ว่า โต้งๆ กลับบ้าน โต้งกลับบ้าน คุณโต้งก็เลยตื่น เหงื่อเต็มตัวเสื้อเปียกไปหมดเลย และรู้สึกว่าร้อนมาก คุณโต้งก็เลย ปืนกองฟางลงมา แล้วมือไปโดนคันไถคุณโต้งก็งง ว่าทําไมตอนเข้ามาไม่เห็นมี และประตูก็ปิด คุณโต้งจําได้ว่าตอนเข้ามาไม่ได้ปิดประตู แน่นอน คุณโต้งก็เลยเดินไปเปิดประตู แต่ว่าเปิดไม่ได้ ประตูมันถูกล็อคจากข้างนอก คุณโต้งเลยเขย่าประตูและก็ได้ยินเสียงคนประมาณ 10 คนได้ พูดกันเต็มไปหมด แล้วก็ วิ่งมาที่ประตู และก็ได้ยินเสียงคนกําลังเอากลอนออกจากประตู พอเปิดประตูออกมา ปรากฏว่ามันเช้าแล้ว ซึ่งตอนที่คุณโต้งเล่นซ่อนแอบมันประมาณ 2 ทุ่ม และคนที่อยู่ ตรงหน้าคุณโต้ง ก็คือ ย่า พ่อ ชาวบ้านและก็เด็กๆ กลุ่มนั้นที่เล่นซ่อนแอบด้วยกันเมื่อ คืนย่าและพ่อก็รีบวิ่งเข้ามากอดและร้องไห้ ชาวบ้านแถวนั้นก็บอกให้พาไปวัดเลย ตอนนั้นคุณโต้งก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกว่าหลับไปแค่นั้นเอง

     พอไปถึงวัด ก็เห็นหลวงพ่อที่วัดนั่งรออยู่กับพระอีก 2 รูป เขาก็พาคุณโต้งขึ้นไปบน ศาลาหลวงพ่อก็เอาสายสินญ์มาพันมือให้ แล้วก็สวดมนต์และเอาจีวรพระห่มตัวคุณ โต้ง พอสวดมนต์เสร็จก็ดึงผ้าออก และบอกว่าวันนี้อย่าไปไหน คืนนี้นอนที่วัดกลับ หลวงพ่อนะ คืนนึงระหว่างที่อยู่บนศาลาก็มีย่า พ่อ ชาวบ้านและเด็กๆ เขาก็นั่งคุยกัน เด็กคนนึงในกลุ่มที่เล่นกับคุณโต้งก็วิ่งมาหาและนั่งคุยกับคุณโต้งว่า ไปไหนมา เขาหากันอ่ะ ไปไหนมา คุณโต้งก็บอกว่าผมมาซ่อนอยู่ที่นี่ไงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนั้นก็ เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เล่นซ่อนแอบกัน ก็หาคุณโต้งเจอเป็นคนสุดท้าย แต่ว่าตอนนั้น คณโต้งเดินออกมาให้เขาจับเอง พอเจอคุณโต้ง คุณโต้งก็มีอาการเปลี่ยนไป ดูนิ่งๆ และไอตลอดเวลา เพื่อนสังเกตว่าไม่สบายหรือเปล่า และถามกับคุณโต้งว่า กลับบ้า นมั้ย คุณโต้งก็บอกเพื่อนๆว่า พาผมไปส่งบ้านหน่อย เพื่อนก็เลยเลิกเล่นกัน เด็กๆพวกนั้นก็พาคุณโต้งไปส่งที่บ้าน ระหว่างที่เดินกลับบ้าน คุณโต้งก็ไอ และถ่มน้ําลายไป ตลอดทาง หมาก็หอนไล่กันมาตลอด เด็กคนนั้นก็เดินจงมือคุณโต้ง และก็บอกว่า วิ่งๆ ๆๆ แล้วคุณโต้งก็ถามเพื่อนว่า กลัวผีมั้ย เพื่อนก็บอก กลัวสิ ไม่กลัวได้ยังไง พอมาถึงที่ บ้านคุณโต้ง คุณโต้งยืนอยู่หน้าบ้านไม่ยอมเข้าบ้าน จนเด็กพวกนี้เขาตะโกนเรียกย่า ย่าคุณโต้งชื่อว่า ย่านาง เด็กก็ตะโกนไปในบ้านว่า ย่านางๆ เอาโต้งมาส่งละนะ ย่าก็ บอกว่า เออ เข้ามาเลย หลังจากนั้นคุณโต้งก็เดินเข้าบ้านไป
แล้วย่าก็เล่าให้ฟังต่ออีกว่า พอคุณโต้งเดินเข้าไปบ้านเสร็จแล้ว ก็เดินตรงเข้าไปในครัว ไปเปิดตู้กับข้าวหาอะไรกิน ปกติคนอีสานก็กินอาหารเป็นพวกน้ําตก ลาบหมู ตอน เด็กๆคุณโต้งอยู่กับแม่ที่กรุงเทพ เวลาไปอีสานก็จะกินได้แค่ไก่กับไข่เท่านั้น แต่คืนนั้น ย่าเห็นว่าคุณโต้งเดินเข้าไปในครัว หยิบพวกลาบหมู ก้อยเลือด ตับหมู กินหมดเกลี้ยง เลย ย่าก็ถามว่า หิวหรอลูก คุณโต้งตอบว่า หิว แล้วก็เดินขึ้นบ้านไปนอน ตอนนั้นย่า บอกประมาณ 4 ทุ่ม ย่าก็ถามคุณโต้งว่าพ่อไปไหน คุณโต้งตอบว่า พ่ออยู่บ้านตาปุ่น ย่าก็ไม่สงสัยอะไร แล้วก็นอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน เช้ามืด ย่าก็ตื่นมาทํากับข้าว เพราะ

     ตอนเช้าต้องใส่บาตร พอหลวงพ่อมา หลวงพ่อแกก็มองขึ้นไปข้างบนบ้าน และก็มองลง มา คุณโต้งบอกกับย่าว่า ใครอยู่บนบ้าน ย่าบอกว่า หลานมาจากกรุงเทพ หลวงพ่อ บอกว่าไม่ใช่ละ มันยืนแลบลิ้นปลิ้นตาอยู่ข้างบนเนี่ยรีบไปดูนะ แล้วพามาหาหลวงพ่อที่ วัดด้วย ย่าก็รีบขึ้นไปดู ก็ไม่เห็นคุณโต้งอยู่ในห้อง ย่าเลยไปบ้านตาปุ่น พอย่าไปถึงก็ เจอเพื่อนๆ พ่อ รวมถึงพ่อของคุณโต้งก็ยังหลับกันอยู่ ย่าก็ปลุกพ่อให้ตื่น และถามว่า ลูกไปไหน พ่อเพิ่งตื่นก็ยังงงๆ ก็เลยออกตามหากัน และมีคนนึงเขาเห็นว่าคุณโต้งไป เล่นซ่อนหากับเด็กๆ พวกนี้ เขาก็เลยไปตามเด็กๆ พวกนี้มา แต่เด็กพวกนี้ก็บอกว่าพา ไปส่งบ้านแล้วและเห็นคุณโต้งเดินเข้าบ้านไปแล้ว ย่าก็เลยไปหยิบรูปมา แล้วแกก็ สวดเป็นภาษาอีสาน พอแกปักธูปลงดิน ก็ได้ยินเสียงประตู เขย่า ก็คือเสียงที่คุณโต้ง กําลังดันประตูออกมา ชาวบ้านก็เลยวิ่งกรูกันไปดู แต่สิ่งที่หน้าแปลก ก็คือประตูบาน นั้นถูกล็อคด้วยโซ่ ห้องนี้มันถูกล็อคตายมาตั้งนานแล้ว แต่เมื่อคืนคุณโต้งเห็นว่ามัน ประตูมันเปิดไว้
     คุณโต้งก็ได้ยินชาวบ้านพูดกันในศาลาอีกว่า ก่อนหน้านี้มีคนๆนึ่งชื่อว่า บักนัด ประมาณว่า เขาคิดว่าคนชื่อบักนัดเนี่ย จะมาเอาคุณโต้งไปแทนแน่ๆ ย้อนกลับไปเมื่อ ก่อนจะมีโรคไหลตาย แล้วบักนัดเขาเป็นหลานของตาปุ่น ชอบไปนอนในยุ้งข้าวแล้วก็ นอนหลับ ไหลตายในยุ้งข้าว ซึ่งบักนัดจะเป็นคนขี้โรค ไอตลอดเวลา คืนนั้นคุณโต้งก็ ต้องนอนที่วัด 1 คืน และตอนนอนคุณโต้งก็ได้ยินคนมาเดินรอบกุฏิ แล้วไอคอกาแล็กๆ ก็เลยปลุกหลวงพ่อ พลวงพ่อก็เปิดประตูออกไปยืนหน้าห้องแล้วก็พูดว่า จะเอามันไป ทําไม มันยังไม่ถึงเวลา มันเป็นบาปเป็นกรรม แล้วเสียงบักนัดก็หายไป หลังจากนั้นเช้า มา พอของคุณโต้งก็เก็บของพาคุณโต้งกลับกรุงเทพเลย หลังจากนั้นคุณโต้งก็ไม่เคย เล่นซ่อนแอบอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น