เมื่อฉันคิด...จะผูกคอตาย


     "เรื่องเมื่อฉันคิด...จะผูกคอตาย" กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากและเราไม่อยากสปอยล์มาก ซึ่งเราไม่เสริมให้ฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตามเรานำเสนอเรื่องราวเพื่อเป็นข้อคิดให้กับการดำรงชีวิต ติดตามเรื่องราวกันว่าจะจบลงอย่างไร ขอขอบคุณเรื่องจริงจากสมาชิกพันทิปหมายเลข 4025455  ขอแสดงความเสียใจและขอให้ไปสู่สุคติ

     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งนึงแถวบ้าน ตอนนั้นฉันต้องเจอปัญหาครอบครัว เพื่อน เรียน และหลายๆอย่าง อย่างที่รู้กันดีเด็กวัย 15 16 เป็นวัยที่กำลังอยากรู้อยากลองและฉันก็เป็น 1 ในนั้นฉันก็เป็นเด็กคนนึงที่อยากทำตามใจตัวเองแต่ก็ไม่เคยได้ทำ หลายๆเรื่องมันเข้ามารุ้มเร้าฉัน จนทำให้วันนั้น ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ระหว่างที่ทุกคนไม่อยู่บ้าน ฉันจึงวางแผนที่จะผูกคอตายในบ้านและมันเป็นจุดที่ทำให้ชีวิตของฉันผูกติดกับสิ่งที่ทุกคนเรียกมันว่า วิญญาณ.......

        ก่อนที่ฉันจะเล่าต่อ มีใครเคยสงสัยไหมว่า ทำไม คนที่ผูกคอตายบางคนทั้งๆที่ไม่น่าตาย บางคนเชือกหย่อน เชือกเส้นเล็กๆบางๆ บางคนนั่งตาย นอนตาย แปลกๆกันใช่ไหม ฉันเคยผ่านจุดนั้นมา การผูกคอตายมันมีอะไรมากกว่าเชือกเส้นเดียว ถ้าฉันเลือกได้ ฉันจะเลือกยอมพวกมันแล้วตายตั้งแต่วันนั้น ไม่ใช้ชีวิตอยู่แบบเป็นทาสผีแบบนี้

     คืนนั้น เมื่อทุกคนกำลังจะออกจากบ้านแม่ชวนฉันไปลอยกระทงที่วัด ฉันบอกแม่ว่าไม่ไป ทุกคนจึงไปที่วัดกันโดยที่ฉันอยู่ที่บ้านคนเดียว ฉันเดินเข้าไปในบ้าน มองไปรอบๆเพื่อหาเชือกขนาดเหมาะๆสักเส้น แต่มันก็ไม่มี ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าของแม่และไปเจอเข้ากับผ้าพันคอผืนนึง ยาวพอใช้ได้ ตอนนั้นฉันคิดอยู่ในหัวแค่ว่า “ตายแล้วคงจบ” เหนื่อยกับชีวิตที่เป็นอยู่เหลือเกินแต่เหมือนกันว่ามีเสียงหลายๆเสียงเข้ามาให้หูฉันเบาๆด้วยว่า เอาเลย ผูกเลย ตายเลย วนอยู่ซ้ำไปซ้ำมาแต่แปลกที่ฉันไม่รู้สึกกลัวทั้งๆที่มีทั้งเสียงผู้หญิง ผู้ชายเยอะแยะไปหมด ฉันเดินเข้าไปในห้องของฉัน ไม่รอช้าใช้ผ้าพันคอผูกกับหน้าต่างห้อง คิดว่าจะผูกคอแบบนั่งห้อยกับหน้าต่าง หลังจากผูกผ้าเป็นห่วงเสร็จแล้ว ฉันค่อยๆนั่งลง ค่อยๆเอามือจับผ้าพันคอเพื่อเว็บเเทงบอลออนไลน์จะเริ่มการฆ่าตัวตายของตัวเอง ผ้าพันคออยู่ตรงคางฉันกำลังจะคล้องที่คอฉัน ตอนนั้นฉันเหมือนได้ยินเสียงร้องเรียกของใครสักคนตรงมุมห้อง ฉันหันไปเห็นผู้ชายคนนึงใส่กางเกงแพรสีน้ำเงิน เสื้อสีขาว นั่นคือปู่ฉันที่เสียไปแล้ว ปู่บอกฉันว่า “อย่าทำแบบนี้ ยังไม่ถึงเวลาตาย”ฉันได้ยินแล้วตกใจ เหมือนสติกลับมาฉันรีบเอาผ้าออกแต่มันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะฉันเห็นผู้หญิงแก่ ผู้ชายแก่ ผู้หญิงผู้ชายวัยหนุ่มสาว เด็ก เยอะแยะไปหมด ทุกคนจับมือฉันพยายามดันฉันให้เข้าไปในผ้า บางคนบิดผ้าให้มารัดคอฉัน หลายคนนั่งทับขาฉัน แขนฉัน ปิดปากฉัน ฉันทรมานมากดิ้นไม่ได้ เหมือนจะขาดใจตาย มันหายใจไม่ออก น้ำตาไหล ฉี่ราด ตาฉันเหลือก ลิ้นฉันออกมาจากปากโดยไม่รู้ตัว ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย แต่สิ่งที่ฉันได้ยินจากคนพวกนั้นที่เขาเถียงกันคือ มันจะตายแทนกู ไม่ มันต้องแทนกู แทนกู แทนกู แทนกู เสียงดังสนั่น วินาทีนั้นฉันคิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว แต่มีมือคู่นึงมาแกะผ้าให้ฉัน เอาตัวฉันออกมาจากตรงนั้น ร้องเรียกฉัน พลอย พลอย ทำไมทำแบบนี้ คนนั้นคือพ่อฉันเอง

        พ่อรีบพาฉันส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นฉันหาใจรวยรินเต็มที เหมือนหายใจเข้าไม่ได้ พอพยายามเรียกฉันไม่ให้ฉันหลับ แต่นอกจากเสียงพ่อ ฉันได้ยินเสียงอีกเสียงนึงดังมาว่า “คิดว่าจะรอดเหรอ ไม่มาตายแทนกู ก็ตายทั้งเป็นไปซะ”

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดที่จะเล่าต่อหลังจากนี้ ฉันอยากให้ทุกคนอ่านเป็นอุทาหรณ์ อย่าคิดทำแบบฉัน เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ยังมีคนร้องเรียกให้ฉันไปผูกคอตายอยู่ตลอด ฉันผูกคอตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทุกวันนี้ มันกำลังจะมาอีกแล้วทุกคน ฉันไปทำสิ่งที่ต้องทำก่อนนะ ไม่งั้นคืนนี้ฉันต้องไปผูกคอตายไม่ที่ไหนก็ที่นึงอีกแน่ๆ

ปล.ถ้าคนไหนที่อ่านแล้วเจอเรื่องแปลกๆสิ่งที่ควรทำคือ แช่งมันให้ทรมานที่สุด ถือว่าช่วยฉันด้วยแล้วกันนะ ขอบคุณนะ

พลอย


เมื่อถึงโรงพยาบาลตอนนั้นฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ร่างกายมันอ่อนล้าไปหมด ได้ยินแต่เสียงผู้คนวุ่นวาย เสียงร้องไห้ของแม่ ของพี่ ของญาติๆที่รีบมาตอนรู้เรื่อง สักพักฉันก็หลับไป

    ฉันตื่นขึ้นมาในห้องที่เต็มไปด้วยญาติฉัน สายอะไรไม่รู้เต็มตัวฉันไปหมด ฉันมองไปที่แม่เห็นแม่นั่งร้องไห้ข้างๆเตียงฉัน ฉันรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ การกระทำของฉันมันช่างโง่สิ้นดี ฉันเหลือบไปที่ข้างหลังน้องสาวที่ยืนมองฉันอยู่ ฉันเห็นสายตาคู่นึงจ้องมาที่ฉัน เขาเป็นผู้หญิงคนนึงในชุดโรงพยาบาล เขายิ้มให้ฉัน ตอนนั้นฉันยังไม่คิดอะไรเลย ฉันมองไปรอบๆห้องต่อเพื่อที่จะดูว่ามีใครอยู่บ้าง แต่ในขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆ ผู้หญิงคนนี้อยู่ทุกที่ที่ฉันมองไป ฉันตกใจมากคิดว่าใช่แน่ๆ เค้าเป็นผีแน่ๆแต่ก็ทำได้แค่หลับตาแล้วแผ่เมตตาให้เขาแล้งบอกเขาว่าฉันป่วย ขอมาพักรักษาตัวที่นี่ “พลอย พลอย เป็นไงบ้างลูก” แม่ถามฉัน น้ำตาฉันไหลออกมา ฉันร้องไห้ด้วยความสำนึกผิด ทุกคนเดินมาหาฉันแล้วปลอบใจฉันพร้อมกับบอกว่าอย่าคิดแบบนี้อีก ฉันพยักหน้าแล้วมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่แล้วฉันโล่งใจขึ้นมาทันที ในตอนกลางวันเหตุการณ์ทุกอย่างมันปกติมาก จนฉันคิดว่ามันไม่มีอะไรแล้ว จนกระทั่งคืนนั้นเวลาประมานเกือบ 21.30 น.

    เมื่อฉันรู้สึกตัวและมีสติ เหตุการณ์ในวันที่ฉันจะผูกคอตายมันวิ่งเข้ามาในหัว ฉันจำเหตุการณ์ทุกอยางได้ ฉันจำได้ดี ทุกคนที่ฉันเห็นฉันจำหน้าเขาได้หมดแต่ฉันไม่รู้จัก แต่จะมีลุงคนนึงที่เป็นคนจับแขนฉัน เขาคือลุงในหมู่บ้านที่พึ่งผูกคอตายที่บ้านของเขาเองเมื่อไม่นานมานี้ ฉันคิดแล้วก็กลัวมาก เรียกแม่มานอนใกล้ๆ ฉันจับมือแม่ไว้แล้วนอนหลับไป แต่ยังไม่ทันได้หลับสนิท มีคนมากระซิบข้างหูฉันว่า “ถึงเวลาแล้ว” ฉันได้ยินแค่นั้นฉันสาบานว่าไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลยฉันเหมือนคนหลับไปเลย

    พลอย!!!! เสียงของแม่ตะโกนเรียกฉัน ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมกันหันไปหาแม่ แต่ตัวฉันกำลังห้อยอยู่กับราวผ้าม่านของโรงพยาบาล ฉันหายใจไม่ออกทันที รู้สึกเหมือนกำลังจะตายอีกครั้ง แม่วิ่งมาพร้อมกับร้องให้คนช่วย พยาบาลวิ่งเข้ามาทุกคนช่วยเอาฉันลง และอีกเช่นเคยฉันไปจบที่ห้องฉุกเฉิน ฉันอยู่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์ ฉันเดินไปหาที่ผูกคอตายเอง ในทุกๆวันประมาน 21.30 น. จนพยาบาลกับแม่ต้องมัดฉันไว้ที่เตียง ฉันร้องไห้ได้แต่บอกแม่ว่าหนูไม่ได้ทำ หนูไม่ได้จะฆ่าตัวตาย แม่ฉันร้องไห้ที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่ฉันจะทำแบบนี้ มันจะมีเสียงๆนึงดังเข้ามาตลอดว่า “ถึงเวลาแล้ว”แล้วฉันจะไม่ได้สติอีกเลย

                ฉันเริ่มแข็งแรงจนหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ก่อนออกจากโรงพยาบาลฉันได้คุยกับหมอจิตแพทย์ด้วย ทุกคนคงคิดว่าฉันมีปัญหาแหละ แต่ฉันก็ยินดีที่จะรับความช่วยเหลือจากคุณหมอและครอบครัว สภาพร่างกายและจิตใจฉันปกติ มีก็แต่รอยเชือกที่คอเป็นรอยแดง ช้ำ แต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย

นี่เป็นช่วงแรกที่ฉันเจอเรื่องแปลกๆ และมันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนปัจุบัน ถ้าให้เล่าจบคงยาวมาก ฉันจะทยอยเล่าให้ทุกคนฟังนะ


ปล. เวลา 21.30 โดยประมาน เป็นเวลาที่ฉันผูกคอตายที่บ้านในคืนลอยกระทง

เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว พ่อกับแม่และญาติๆพาฉันไปทำพิธีสู่ขวัญ หลังจากทำพิธีเสร็จ ฉันเดินออกมานั่งหน้าบ้านกับแม่ เราก็กินข้าวกันปกติ แต่จู่ๆมีผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามาที่บ้านฉัน แกเป็นคนสติไม่ค่อยดีที่คนในหมู่บ้านจะรู้จักกันดี แกวิ่งมาชี้ที่ฉันพร้อมกับเอาผ้าขาวม้าที่แกมี คล้องคอแก ทำตาเหลือก ลิ้นจุกปาก เหมือนล้อเลียนฉัน ปากแกก็พูดสลับกับทำลิ้นจุกปากว่า " ตาย ตายแน่ ห้อยคอ ตาเหลือก555" แม่ได้ยินจึงตะโกนด่าและไล่ให้ไปไกลๆ แต่ก่อนที่แกจะไป แกยืนนิ่งหันมาที่ฉัน ตาแกแข็งมาก แกค่อยยิ้มมุมปาก แล้วพูดว่า "ไม่รอดนะ" พูดจบแกก็วิ่งไป แม่หันมาตบไหล่ฉันเบาๆพร้อมกับบอกว่า " ไม่เป็นไรนะลูก อย่าไปถือสามันมันบ้า " ใจฉันสั่นไปหมด แต่ก็พยักหน้าให้แม่

         หลังจากนั้นประมาน 4 วันพ่อกับแม่คุยกันว่าจะพาฉันไปรดน้ำมนต์ที่วัดแห่งนึงที่ต่างอำเภอ เพราะเขามีชื่อเสียงเรื่องการขับไล่สิ่งไม่ดี ฉันคิดอยู่แล้วแหละว่าพ่อแม่ต้องคิดว่าตัวฉันมีอะไรผิดปกติ เพราะฉันก็รู้สึกแบบนั้น แทบจะทุกครั้งที่ฉันหลับตา ฉันจะเห็นภาพคนยื่นเชือกมาให้ฉันไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน บางวันฉันอาบน้ำล้างหน้า ฉันจะเห็นตัวเองมีเชือกอยู่ที่คอ ตาเหลือก ลิ้นจุกปากในกระจก ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้า ฉันนอนไม่ได้ มันหลับไม่ลง ฉันผอม โทรมไปมาก บางวันฉันอยากฆ่าตัวตายไปเลยด้วยซ้ำแต่เพราะความรู้สึกผิดในใจจึงทำให้ฉันต้องสู้กับมัน

         เช้าวันนั้น ฉันตื่นมาพร้อมกับอาการเพลียจากการนอนไม่หลับเช่นเคย พ่อกับแม่เตรียมตัวพาฉันไปรดน้ำมนต์ ฉันกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ แม่ร้องขึ้น พลอย!!! ฉันตกใจหันไปหาแม่แล้วถามว่ามีอะไร แม่รีบวิ่งมาที่ฉันแล้วมาดึงเชือกออกจากคอ คอฉันเป็นรอยเหมือนเคย แม่รีบบอกให้ฉันไปอาบน้ำ ฉันอาบน้ำเสร็จแม่หาผ้าพันคอมาให้ฉันพันไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นรอยที่คอ พ่อกับแม่รีบพาฉันไปที่วัดแห่งนั้น ระหว่างนั่งในรถฉันพยายามคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมเชือกถึงมาอยู่ที่คอฉันและมาอยู่ได้ยังไงแต่มันก็คิดไม่ออกเลย รู้สึกอีกทีพ่อกำลังจอดรถที่วัดวัดนึงที่ฉันไม่คุ้นตา

          ฉันลงจากรถพร้อมกับแม่ที่เดินเกาะแขนฉันอยู่ ฉันรู้สึกได้ว่าหลวงพ่อยืนมองฉันอยู่ ท่านจ้องฉันอย่างไม่ละสายตาพร้อมกับบอกแม่ว่า ไปๆๆๆ ไปหาหลวงปู่ทางนี้ๆรีบมาๆ ฉันก็สงสัยว่าทำไมรีบขนาดนั้น แต่ฉันก็ได้คำตอบเมื่อไปถึงหลวงปู่แล้วหลวงปู่ทักแม่ว่า พาคนตายมาด้วยเหรอ แล้วมองหน้าฉันพร้อมกับพูดว่า จะตายก็ไม่ได้ตาย จะอยู่ก็ไม่ได้อยู่นะหนูเอ้ย!!

ไว้มาต่อนะคะ ถึงเลาสวดมนต์แล้วค่ะ ขบคุณทุกกำลังใจนะคะ อยากให้แชร์เป็นอุทาหรณ์ด้วยนะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

และแล้วต่อไปนี้เป็นการเขียนตอบกระทู้จากพี่สาวของคุณพลอย เนื่องจาก................

--------------------------------------

ขอโทษด้วยนะคะ คงต่อไม่ได้แล้ว พลอยเสียแล้วค่ะ พึ่งเผาไปค่ะ นี่พี่สาวพลอยนะคะ มาเก็บของที่ห้องเลยเปิดคอมดูเห็นล็อคอินไว้ มีตอนที่พิมพ์ไว้น่าเตรียมอัพ แต่ขอไม่เอาลงนะคะ ปล่อยให้น้องไปสู่สุคตินะคะ ทรมานมานานมากแล้ว พลอยอายุ 25 ปีพอดี ส่วนสาเหตุการเสีย คงเดากันถูกนะคะ มันทำสำเร็จแล้ว ขอร้องนะคะ พูดถึงน้องเราดีๆนะคะ เค้าไปสบายแล้ว ขอบคุณค่ะ

คลายความสงสัยเป็นข้อๆนะ
1. คนที่มาแก้ข้อความคือเราพี่สาวพลอยเพราะมีคนมาขอให้ลบที่ลบออกไปคือรูปที่พลอยแคปมาโพส
2. ถามว่าตอนน้องเข้า รพ.เราไปอยู่ไหน ก็อยู่กับพลอยนั่นแหละ
3. หน้าจอคอมของน้องที่เราใช้อยู่มันชอบเด้งหน้าพันทิปขึ้นมาเองจริงๆอันนี้ทุกคนในบ้านเชื่อว่าพลอยอยากให้เอาเรื่องมาต่อให้จบเพราะบอกตลอดอยากให้เป็นอุทาหรณ์
4. วันที่พลอยเสียคนที่มาเจอคือแม่เรา พลอยนอนอยู่บนเตียงเหมือนคนหลับแต่ที่คอมีเชือกมัดอยู่แน่นจนคอเป็นรอยบาดลึก
5. ตำรวจมาพิสูจน์หลักฐานและมีการชันสูตรตามขั้นตอนทุกอย่างที่บ้านไม่ติดใจอะไรเพราะพลอยจะผูกคอตายแบบนี้บ่อยอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งจะมีคนช่วยไว้ทัน
6. หลวงพ่อที่แม่พาพลอยไปหาบอกแม่กับพ่อไว้แล้วว่าระวังตอนเบญจเพศ
7. คนที่จะบอกว่าเป็นเรื่องแต่งหรือยังไงแล้วแต่วิจารณญานนะคะ แต่ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่พลอยเราเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์ที่ยกมาเกิดขึ้นจริงแต่รายละเอียดที่เขียนเราเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงเพราะเราจะเจอน้องแค่เวลาห้อยอยู่ไม่ที่ใดก็ที่นึง
8. ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ดี ขอให้เคสน้องเราเป็นตัวอย่างให้แก่ทุกคน
9. คนที่ทฤษฎีเยอะเราขอไม่โต้เถียงนะเพราะเราจะอธิบายในส่วนของเราส่วนของพลอยที่เล่าเราไม่รู้และบอกแทนไม่ได้หรอก จริงไม่จริงเรารู้แค่เราเจออะไรมาส่วนรายละเอียดยิบย่อยเราเองก็ไม่รู้หรอก

จากพันทิป เมื่อฉันคิด...จะผูกคอตาย
เรื่องโดย สมาชิกหมายเลข 4025455





ไม่มีความคิดเห็น