เจาะลึก ปอบวิชา


     ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องของปอบไปแล้ว กลับมาคราวนี้เราจะมาเจาะลึก ปอบวิชา ว่าด้วยเรื่องของปอบ เราเคยได้นำเสนอเรื่องปอบไปว่ามันเกิดจากการที่ หมอผีหรือผู้ใช้ไสยศาสตร์ กระทำผิดข้อห้ามต่างๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียดและความเป็นมาลองไปชมกันเลยครับ

     ปอบวิชาคือผู้ที่เรียนวิชาต่างๆมาเช่นวิชาในการเสกเป่าคาถารักษาโรคด้วยคาถาบางบท วิชาที่ใช้ทำลายชีวิตเช่นวิชากาสัก วิชาธรรมอิสานบางวิชาเช่นวิชาคาถาที่ทำเสน่ห์เป็นต้นแล้วผิดครูคาถานั้นๆที่อาจารย์ได้ห้ามไว้จึงถูกผีปอบของวิชานั้นๆเข้าสิงเมื่อใกล้จะสิ้นชีวิตหรือเมื่อได้สิ้นชีวิตลงไปแล้วก็เป็นปอบไปเข้าสิงคนอื่นๆต่อไปอีก

     -บางคนเรียนมา3วิชาทำผิดครูทั้งหมดก็มีผีปอบเฝ้าอยู่หรือภาษาชาวบ้านว่านั่งยองหัวอยู่3ตัวเช่นกัน เพื่อหาช่องเข้าสิงลูกหลานหรือชาวบ้านคนอื่นๆต่อไป แต่ละวิชานั้นก็มีข้อห้ามต่างกันไปแล้วแต่อาจารย์เจ้าของวิชาเดิมจะกำหนดไว้เช่นวิชาเป่าโรคพากนี้ ห้ามไว้3อย่างคือห้ามกินข้าวเรือนผี ห้ามลอดเครือกล้วย ห้ามเอาแหตั้งบนหัว เมื่อคนที่เรียนวิชาไปแล้วเผลอไปทำผิดข้อใดข้อหนึ่งเข้า ถ้าครูแรงก็จะกลายเป็นปอบในทันที ล้มป่วยก่อนหรือตายแล้วแต่ร่างกายยังไม่เน่า ก็จะกินของดิบๆพอตกกลางคืนวิญญาณผีปอบนั้นก็ไปออกอาละวาดแต่ถ้ายังไม่แรงมากก็จะเริ่มที่ภาษาชาวบ้านบางท้องที่เรียกว่าออกแดง ก่อนนั่นเอง

     -ปัจจุบันไม่เป็นที่พบเจอนักบางคนก็ว่าไปผุดไปเกิดแล้วบางคนก็ว่าแสงนีออนยิ่งมากผีก็หายไปและเพราะว่าเจ้าของวิชานั้นๆที่มีครูแรงๆไม่อยู่แล้ว
-สมัยก่อนคนจะหาเรียนวิชาอาคมกันมาก บางวิชาที่ไม่ได้เป็นผีปอบก็มีแต่จะเสียสติแทนบางคนเรียนตอนเช้าตกเย็นเมื่อผิดข้อห้ามก็เสียสติต้องถูกทางบ้านล่ามโซ่ไว้ให้ตายลงเอง โชคดีอย่างหนึ่งคือไม่ได้เป็นผีปอบ

     -ถ้าเจอตัวอาจารย์ก็อาจจะช่วยไว้ได้ทันหรือการเรียนวิชานั้นมีวิธีแก้อยู่เช่นเอาขันครูที่รับมาหรือเป็นสิ่งที่แทนวิชาเช่นใบคาถาหรือวัตถุบางอย่างที่รับมาเป็นตัวแทนที่เรียกว่าของ เอาตั้งไว้บนหัวเดินลงแม่น้ำดำน้ำหนีให้ขันครูลอยตามแม่น้ำไปไม่ต้องเหลียวมาดู บางคนดำ3ครั้งของยังตั้งอยู่บนหัวก็มี หรือลอยตามหลังมา แต่บางคนทำไม่ตกหรือไม่ขาดก็ต้องหาอาจารย์ที่เก่งๆมาถอนให้หรือต้องยอมรับสภาพไป หาทายาทอสูรต่อไปเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานมาก

     -การออกแดงต่างจากการลงแดงนะ แต่ก็เหมือนเป็นระยะสุดท้ายเช่นกัน คือคนที่รักษาวิชานั้นๆไม่อยู่แล้วผิดกฏเช่นรับเงินเกิน เดินลอดราวผ้าถุง เป็นต้น อาจจะด้วยความโลภอยากได้เงินไม่ถอนคาถาวิชานั้นๆออกหรือไม่เอาไปคืนให้ครูเดิม จึงเริ่มมีสัญญาณเตือนเช่นตั้งคายขันครูไว้ที่บ้านคนป่วย พอออกเดินทางยังไม่ถึงบ้านคนป่วยแต่มีเงาดำเหมือนลิงตัวใหญ่เดินอ้อมขันคายครูนั้นอยู่ หนักๆเข้าก็ต้องกลายเป็นปอบได้ไปสิงคนอื่นๆให้เดือดร้อน

     -การขับไล่ของหมอผีก็คือเช่น กรณีผีปอบเข้าสิง3ตัวในคนเดียวกัน ผีปอบตัวแรกของวิชาแรกถูกหมอผีใช้หวายเสกตีก็ออก สักพักผีปอบของวิชาตัวที่2มาเข้าสิงถูกน้ำมนต์รดก็ออก สักพักผีปอบของวิชาตัวที่3มาเข้าต้องเอาหม้อนึ่งข้าวมาครอบบนหัวคนถูกผีเข้า ทำการสมมุติด้วยวิชากร้อนผมหรือกันผมที่ก้นหม้อผีก็ออก เมื่อออกแล้วหมอผีก็จะเอาของดีให้คนถูกเข้าไว้กันผีหรือมีคาถากำกับไว้เรียกว่าจอดปอบไม่ให้มาเข้าร่่างกายได้ แต่อนาคตก็อาจจะมาเข้าได้ถ้ามีช่องโหว่อีกหรือมีผีปอบตัวที่เก่งกว่าเดิม เข้าสิงคนอยู่ในร่างทีเดียวทั้งหมดเลยก็ได้ ส่วนการขับไล่ก็ขึ้นอยู่กับความเก่งของหมอผี ตัวหมอผีเองเมื่อทำผิดกลายมาเป็นผีปอบอีกก็ได้เช่นกันเปรียบเหมือนกับเป็นดาบสองคมนั่นแหละ

     -ปอบบางตัวเก่งกว่าหมอผีก็มี ปอบเข้ามาสิงคนแบบเวียนเทียนเป็น10ตัวก็มี หรืออยู่ในร่างคนนั้นแล้วทั้ง10ตัวก็มี หมอผีสู้ไม่ได้ก็มีต้องหาหมอคนอื่นๆมาสู้ เรียกว่าหามือดีมาแบบในหนังอธิบายแค่นี้คงจะพอเข้าใจ

ไม่มีความคิดเห็น