อพาร์ทเม้นท์ผี
เรื่องราวของอพาร์ทเม้นท์แห่หนึ่งกับเรื่องเร้นลับ อย่างอธิบายไม่ได้ เป็นเรื่องจริงเค้าย้ายเข้ามาอยู่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ เหตุการณ์เริ่มบานปลายวุ่นวายมากขั้นจนเธอนั้นเริ่มสืบหาความจริง ลองไปฟังเรื่องราวของเธอกันเลยครับ
เมื่อ 2 ปีที่แล้วเราเลิกกับแฟนค่ะ เพราะจับได้ว่าแฟนไปมีผู้หญิงคนอื่น เราเลยย้ายหนีเพราะเค้าไม่ยอมเลิก แต่ไม่คิดว่าหนีเสือจะมาเจอะผี.. เราย้ายไปอยู่หอพักในนิคมแห่งหนึ่งซึ่งมีหอพักมากมาย แบ่งเป็นซอยเล็กซอยน้อยพอสมควร เพื่อไม่ให้แฟนตามหาเราเจอได้ เราไปเช่าอยู่กับเพื่อนสาว 1 คน เพื่อนคนนี้ทำงานกะกลางวัน ส่วนเราทำกะกลางคืนค่ะ วันแรกที่ย้ายเข้าหอ เจอเจ้าของหอเป็นผู้หญิงสูงอายุ ดูยิ้มแย้มใจดีมาต้อนรับเรา เปิดห้องให้เราเลือก แต่ห้องก็มีให้เลือกแค่ 2 ห้องเท่านั้นเอง คือ 203 กับ 303 ทั้งที่เราสังเกตดูแล้วมันน่าจะว่างมากกว่านั้น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอยากจะย้ายให้ไวที่สุด เราตกลงเลือกห้อง 303 โดยไม่ลังเล เพราะป้าแกบอกว่า ‘ถ้าเลือกห้องนี้ป้าจะแถมแอร์ให้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ ในราคาห้องพัดลม’ เราก็ยังคิดอยู่ว่าป้าแกใจดีเนอะ
พอเราขนของจัดของจนเสร็จ ป้าเจ้าของหอก็เดินขึ้นมาหาเราอีกครั้ง เคาะห้องพร้อมกับบอกว่า ‘ขนของมาหมดแล้วใช่ไหม? ป้าขอเก็บเงินล่วงหน้าไว้เลย 1 เดือนนะ’ เราก็อ่อได้ค่ะ แล้วป้าก็บอกอีกว่า ‘ประตูห้องเนี่ย ห้ามติดยันต์หรืออะไรทั้งนั้นนะ ป้าว่ามันจะดูไม่สะอาด..’ เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันแบบงงๆ ก่อนจะรับปากป้าแกไปว่า ‘ได้ค่ะ’ คือเราเริ่มสงสัยแต่ไม่พูดอะไร ในใจก็แอบกังวล เรานึกได้ว่ามีพระพุทธรูปที่ตั้งไว้บนตู้ เราเลยจุดธูปไหว้เพื่อความสบายใจ แล้วก็ลงไปไหว้ศาลตายาย และพระภูมิเจ้าที่เรียบร้อย เอาล่ะ..คงไม่น่ามีอะไรต้องกังวล
นอนคืนแรกก็ได้เรื่องเลยค่ะ ในขณะที่เพื่อนเรานั่งดูทีวีบนเตียง เราเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ อยู่ๆ เราก็สังเกตเห็นเหมือนเงาใครเดินผ่านช่องระบายด้านหลังซึ่งอยู่ระดับเหนือหัวเราเล็กน้อย เราจำได้ว่าด้านหลังช่องระบายของห้องน้ำมันเป็นระเบียง และคอมเพลสเซอร์แอร์ ซึ่งไม่น่าจะมีใครมาเดินได้ เลยคิดว่าตัวเองคงจะตาฝาด ก็อาบน้ำต่อ.. สักพักก็รู้สึกเหมือนมีคนมาจ้องมองที่ช่องระบายนั้นอีก! เราเลยรีบเปิดประตูออกมาหาเพื่อน เพื่อนก็นั่งดูทีวีอยู่เหมือนเดิม ทำหน้างงใส่ ถามเราว่า ‘มีอะไร?’ เราเห็นดึกแล้ว เราเลยไม่พูด เพราะเพื่อนเป็นคนกลัวผีมากกกก กลัวจะนอนไม่หลับ.. จนเช้าเพื่อนออกไปทำงาน เราต้องอยู่ห้องต่อ ตอนบ่ายเราเก็บของจนเพลียหลับไป เราฝันเห็นชายแก่ผิวคล้ำไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงจีน รูปร่างผอมโซ นั่งยองๆ กินอาหารเหมือนของเซ่นไหว้ที่อยู่ในกระทง แล้วแกหันมามองเรา เราเลยตกใจตื่น คิดว่าฝันกลางวันช่างมันเถอะ.. เรานั่งเก็บของต่อ ก็ได้ยินเสียงเหมือนเด็กวิ่งเล่นที่ทางเดินหน้าห้อง เสียงสนุกสนานกันเลยทีเดียว เราก็เลยเปิดประตูดู แต่ปรากฏว่าไม่มีใครเลย ว่างเปล่า.. เราก็ยังคิดในแง่บวกว่าเราคงหูแว่ว หรืออาจจะมีใครเปิดทีวีเสียงดังล่ะมั้ง พอเราอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ก็เจออีก คือเหมือนมีใครจ้องอยู่ผ่านทางช่องระบายอากาศ แต่พอมองไปก็ไม่มีอะไร แล้วเราก็ออกไปทำงานจนเช้าถึงกลับมา.. เราเจออะไรแบบนี้อยู่เกือบ 7 วัน เราสังเกตตอนกลางวันห้องชั้น 3 เกือบทุกห้องล็อกแม่กุญแจไว้หมด เค้าน่าจะออกไปทำงานกัน เราเคยบอกเพื่อนว่า ‘แกช่วยดูหน่อยนะว่าเพื่อนร่วมชั้นทั้ง 12 ห้องนี้ เต็มหมดอย่างที่ป้าว่าไหม?’
จนวันต่อมาเป็นวันพระ เราใส่บาตรทุกวันพระเลยจำได้ เพื่อนเราคนหนึ่งมาจากชลบุรีมานอนค้าง วันนั้นเป็นวันหยุดเราพอดี ก็ออกไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดกัน เสร็จก็เข้าห้องนอนกัน 3 คน นอนเตียงเดียวกัน อาบน้ำเสร็จคุยเล่นกัน กว่าจะได้นอนก็ 5 ทุ่มกว่า.. หลับไปสักพัก เพื่อนก็ปวดฉี่ลุกไปเข้าห้องน้ำ เราเลยตื่นมองตามเพื่อนไป เพื่อนเปิดไฟในห้องน้ำ แสงมันส่องออกมาที่ประตูจะออกไประเบียง เราเห็นเป็นผู้หญิงผมยาว ใส่เสื้อสีขาว หน้าตาดีแต่ดูเศร้าๆ เธอยืนอยู่นิ่งๆ ตรงประตู เราเห็นแบบนั้นเรานิ่งไปเลย สักพักเค้าก็หายไปต่อหน้าต่อตา เราก็พูดอะไรไม่ออก เกรงใจเพื่อน ก็เลยหันไปสวดมนต์แล้วนอนโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับเพื่อนเลย.. แล้วพอเราหลับตาลง เราก็เห็นป้ายหน้างานศพของผู้ชายคนหนึ่ง ดูเป็นคนจีนขาว หน้าตาดูใจดี เค้ามองจ้องเรา และบอกว่า ‘หนูอย่าอยู่ที่นี่เลยนะ.. หนูอย่าอยู่ที่นี่เลยนะ..’
จนตอนเช้า เราเริ่มทนไม่ไหวละ เจอมาเยอะ เราเลยเล่าให้เพื่อนฟังทั้งหมด เพื่อนเราก็เลยสารภาพว่าโดนเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบอก กลัวเราจะกลัว ส่วนเพื่อนที่มาจากชลบุรีก็บอกว่า ‘เมื่อคืน หลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จก็ล้มตัวนอน สักพัก ก็รู้สึกเหมือนใครเอามือมาสัมผัสที่ปลายเท้า ก็เลยลืมตาดู เห็นเป็นผู้หญิงลักษณะแบบเดียวกันกับที่เราเจอเลย เท่านั้นล่ะ ตัดสินใจนาทีนั้นยังไงก็ต้องย้ายออก อยู่ไม่ได้แน่นอน เราอยู่ไปแค่ 7 วันยังเจอขนาดนี้ หลอนขนาดนี้.. เราตัดสินใจไปแจ้งเจ้าของหอเพื่อย้ายของออกวันนั้นเลย ในขณะที่ขนของ เราก็สังเกตเห็นแม่บ้านพม่าที่มาทำความสะอาดชั้น 2 เราเลยถามว่า ‘ที่ชั้น 3 มีคนอยู่กี่ห้อง?’ คำตอบช็อคมากค่ะ ไม่มี!! มีห้องเราห้องเดียวที่อยู่ชั้น 3 ป้าโกหก ทำไม!?
พอย้ายของทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เราก็เอากุญแจไปคืน เจอป้าเจ้าของหอเราก็เล่าให้แกฟัง แกฟังแล้วก็บอกว่าเราคิดมากไปเอง ที่นี่ไม่มีอะไรนะ เราก็บอกว่าหนูแค่เล่าสู่กันฟังค่ะป้า ป้าบอกว่า ถึงอยู่แค่ 7 วัน แต่ค่าเช่าล่วงหน้าที่เก็บมาเกือบ 4,000 ป้าไม่คืนนะ ถือว่าเราผิดสัญญาเอง เราก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ.. ในขณะที่กำลังเดินออกมา เราก็เห็นรูปที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องของป้า เป็นรูปของลุงคนจีนที่เราฝันเห็น เราเลยถามว่าเค้าคือใคร? ป้าบอกสามีป้าเอง เป็นคนเชื้อสายไต้หวัน ตายไปหลายปีแล้ว เราเลยบอกเล่าถึงความฝันให้ฟัง เท่านั้นล่ะ ป้าแกร้องไห้โฮออกมาเลย แล้วบอกว่า พวกเธอไปได้แล้ว.. เราก็ไม่รอช้ารีบออกจากที่นั่นทันที ระหว่างที่นั่งรถก็คุยกันไปตลอดทาง ว่าทั้งหมดที่พวกเราเจอคืออะไร? ผู้หญิงคนนั้น เสียงเด็กๆ คนแก่ และสามีของป้า.. ทุกวันนี้เรายังผ่านหอนี้อยู่บ่อยๆ และหน้าหอจะติดประกาศว่ามีห้องว่างตลอด ห้องกว้าง ติดแอร์ เฟอร์ครบ มีของแถมด้วย.. สำหรับเรานี่คือเข็ดยาวๆ เลยค่ะ
Post a Comment