วิญญาณที่ฟ้อนรำทุกๆคืน
คุณแบงค์ได้ประสบเหตุการณ์นี้โดยตรง เขาใช้เวลาเกือบ4ปีเลยที่เดียวกับเรื่องราวที่เขาต้องพบเจอจนเป็นเรื่องปกติไปเลยก็ว่าได้ เมื่อห้องพักของเขาที่หลับนอนที่เขาใช้เป็นประจำ เกิดมีวิญญาณที่คอยปรากฏตัวอยู่ทุกค่ำคืน ลองไปชมกันเลยครับว่าเขาเอาตัวรอดและใช้วิธีการไหนในการอยู่ร่วมกับผี!!
เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นก็ตั้งแต่แบงค์เริ่มเข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพ เป็น ผจก.ร้านกาแฟแห่งหนึ่งแถวย่านสยาม ตอนนั้นแบงค์ก็เดินไปหาห้องพักแถวๆสุขุมวิท เดินหาอยู่นานจนมาสะดุดตากับหอพักแห่งหนึ่ง ดูแล้วสะอาดตา รอบๆตึกก็มีการปลูกต้นไม้สวยงาม แบงค์ก็เลยขอดูห้อง จนตกลงใจจะอยู่ที่นี่ เนื่องจากวิวก็สวยถึงแม้ว่าราคาจะแพงสักหน่อย ห้องที่แบงค์เข้าพักนั้นตั้งอยู่บนชั้น 3 อยู่ชั้นบนสุด ห้อง 301 ชั้น 4 นั้นเป็นดาดฟ้าไม่มีคนอยู่แน่นอน คืนแรกหลังจากที่เพื่อนๆของแบงค์ได้มาช่วยกันย้ายของเข้าห้องเสร็จแล้วเพื่อนๆก็ขอตัวกลับบ้านกัน
แบงค์นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ไหว้เจ้าที่เลย ก็เลยเดินลงไปถามเจ้าของตึกว่าศาลพระภูมิอยู่ที่ไหน แบงค์ต้องการจะไปไหว้ แต่ว่าเจ้าของตึกก็ตอบกลับมาว่า "ไม่มี แต่ถ้าเกิดอยากจะไหว้ จะหากระถางธูปมาวางเอาไว้ให้กลางแจ้ง" แบงค์ก็ตอบกลับไปว่างั้นไม่เป็นไร แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง อาบน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จก็กำลังจะนอน แบงค์เดินไปล็อคประตู ช่วงที่แบงค์หันหลังเดินกลับมานั้นก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตูมันกำลังถูกบิดเอง จึงรีบหันไปดูพร้อมกับเปิดประตูออกไปดูทันที แต่ก็ไม่เจออะไรเลย วันที่ 2 แบงค์ก็เจอแบบเดิม แต่ครั้งนี้แบงค์เห็นกับตาว่าลูกบิดที่อยู่กับประตูนั้นมันถูกหมุนพร้อมกับผลักประตูอย่างแรง เหมือนกับว่ามีคนที่อยู่ด้านนอกกำลังพยายามพังประตูเข้ามาด้านใน แบงค์รีบเปิดประตู
ออกมาดูทันทีแต่ก็ไม่เจออะไร แบงค์พบกับเหตุการณ์แบบนี้อยู่ 3-4 วัน
จนกระทั่งมาถึงวันหนึ่ง วันนั้นแบงค์กลับมาจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยล้า ก็เลยเดินไปเปิดโน๊ตบุคเพื่อฟังเพลง สักพักนึงแบงค์ก็ไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็นอนเล่นคอมไป ฟังเพลงไป เวลาก็ผ่านไปประมาณเที่ยงคืนกว่า แบงค์เริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าจากดาดฟ้า ซึ่งเสียงนั้นก็ดังมาจากด้านบน เสียงฝีเท้าที่ได้ยินนั้นมันเหมือนกับว่ามีคนอยู่บนดาดฟ้าแล้วกำลังกระทืบเท้าลงมาเพื่อให้แบงค์เบาเสียงเพลงลง แต่แบงค์กลับเร่งเสียงให้ดังขึ้นกว่าเดิม และเสียงฝีเท้านั้นก็เริ่มกระทืบแรงขึ้น จนกระทั่งแบงค์ทนไม่ไหว ปิดเพลง รอฟังเสียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เสียงที่แบงค์ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงกระทืบเท้าอีกแล้ว มันคือเสียงดนตรีไทย!!
มีเสียงระนาดดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการย่ำเท้าเป็นจังหวะ เหมือนกับการเอาส้นเท้ากระแทกลงมาแรงๆ ตอนนั้นรู้ได้ทันทีเลยว่ามีคนกำลังรำอยู่บนหัวนอนที่แบงค์กำลังนอนอยู่ ทั้งเสียงระนาด เสียงเท้า ทำให้แบงค์โมโหมาก ตัดสินใจเดินออกจากห้องพักตรงไปที่บันได มุ่งหน้าเดินขึ้นสู่ดาดฟ้า แต่พอแบงค์ไปถึงประตูดาดฟ้าก็ต้องตกใจมาก เนื่องจากว่ามีแม่กุญแจตัวใหญ่ถูกคล้องเอาไว้กับโซ่เส้นใหญ่ เป็นล็อคแบบปิดตายกันเลย โซ่และแม่กุญแจนั้นถูกล็อคจากด้านในที่แบงค์กำลังยืนมองอยู่ แบงค์ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เดินกลับห้องด้วยอาการงงๆ นอนคิดทั้งคืนว่าสิ่งที่ได้เจอมานั้นมันคืออะไร
เช้าวันต่อมาแบงค์ได้เจอกับเจ้าของตึก ก็เลยเล่าเรื่องราวให้ฟังพร้อมกับถามว่าที่ตึกนี้มีอะไรหรือเปล่า แต่ว่าเจ้าของตึกก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้วก็พยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยอยู่ตลอด แบงค์ก็โอเค ไม่อยากบอกก็ไม่อยากรู้ เวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งวันหนึ่ง แบงค์ได้มีโปรแกรมจะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ แล้วก็มีเพื่อนสนิทของแบงค์ได้มาขอนอนด้วย แต่ว่าคืนนั้นแบงค์ไปอยู่ที่ห้องแฟนก็เลยไม่ได้กลับห้อง เพื่อนก็เลยต้องมาคนเดียวซึ่งห้องของแบงค์และห้องพักของแฟนแบงค์นั้นอยู่ซอยเดียวกัน แต่ห้องของแบงค์อยู่สุดซอยห้องแฟนนั้นอยู่ปากซอย
6 โมงเช้าวันนั้นแบงค์ตื่นขึ้นมาก็เดินกลับไปที่ห้องไปหาเพื่อน พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่เจอเพื่อน ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจเนื่องจากว่าเสื้อผ้าของเพื่อนก็ยังอยู่ รองเท้าก็อยู่ แต่ว่าตัวของเพื่อนนั้นหายไปไหน ลองโทรศัพท์หาดูก็ไม่ติด แบงค์เลยตัดสินใจเดินไปที่ที่ทุกคนนัดกันไว้เพื่อเจอเพื่อนๆ ก่อนอื่นแบงค์ก็ได้เดินแวะไปซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วแบงค์ก็เจอเพื่อนนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เลยถามไปว่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ เพื่อนนั้นรีบพูดกลับมาว่า "กรุนอนไม่ได้เลย" เมื่อคืนตอนเที่ยงคืนกว่าๆเผลอหลับไป แล้วก็ฝันว่ามีคนมายืนรำ เป็นผู้หญิงใส่ชุดนางรำพร้อมกับมีเสียงระนาดดังจากไหนก็ไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นก็รำไปเรื่อยๆ โดยที่ยืนหันหลังให้กับเพื่อน เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งเสียงเพลงก็เริ่มจะเบาลง แล้วนางรำคนนั้นก็เริ่มที่จะหันหน้ามาปะทะกับเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาดี แต่ว่าเธอหลับตาอยู่ พอเธอลืมตาขึ้นมาเพื่อนของแบงค์ก็ถึงกับตะโกนร้องออกมาว่า "ช่วยด้วย!!" นางรำคนนั้นไม่มีดวงตาดำ มีเพียงแต่ตาขาวๆ ตอนนั้นเพื่อนตกใจสุดขีด สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วทะลึ่งขึ้นมาอยู่บนเตียง ก็ยังคงได้ยินเสียงระนาดดังมาเบาๆข้างๆหู เพื่อนรีบออกมาจากห้อง รองเท้าก็ไม่ได้ใส่
เช่นเดียวกันแฟนของแบงค์ หลังจากนั้นไม่นานแฟนก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ห้องของแบงค์ ทั้งแบงค์และแฟนก็ได้ยินเสียงแบบนั้นทุกๆคืนแต่ว่าแบงค์เป็นคนที่ไม่กลัว แล้วก็คิดอยู่เสมอว่าถึงวิญญาณเหล่านั้นจะมีจริงๆก็เป็นได้แค่วิญญาณ จับของยังทำไม่ได้เลยแล้วจะทำอะไรแบงค์ได้ถ้าเกิดไม่กลัวซะอย่าง แต่ว่าแฟนของแบงค์เป็นคนกลัวมาก เวลาที่เธอจะนอนถ้าเกิดได้ยินเสียงขึ้นมาจะนอนผวาทุกคืน แล้วก็มีอยู่วันหนึ่งแบงค์ได้ออกไปเดินตลาดนัดกลางคืนกับเพื่อนๆ แฟนนั้นอยู่ห้องคนเดียว แบงค์ออกมาตอนที่แฟนหลับไปแล้ว ประมาณสักตี 2 เห็นจะได้อยู่ดีๆแฟนก็โทรศัพท์เข้ามาหลายสายมาก ถามว่า "อยู่ไหน รีบกลับห้องเดี๋ยวนี้เลย อยู่ไม่ไหวแล้ว" แบงค์ก็รีบกลับห้องอย่างไวเนื่องจากเป็นห่วงแฟน
พอไปถึงห้องก็เห็นแฟนนั่งร้องไห้อยู่ พอเจอหน้าแบงค์ก็รีบกระโดดเข้ากอดทันที เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง แฟนของแบงค์นั้นเจอเหมือนกับเพื่อนของแบงค์ทุกประการ แต่ว่าที่ไม่เหมือนกันก็คือ เพื่อนนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง แต่ว่าแฟนนั้นบอกว่าประตูห้องน้ำเปิดแล้วก็ปิดเองอย่างแรงจนแฟนตกใจตื่น แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาแล้วก็ยังคงได้ยินเสียงดนตรีไทยพร้อมกับเสียงกระทืบเท้าอยู่บนดาดฟ้าไม่ขาด หลังจากนั้นไม่นานแฟนของแบงค์ก็ได้งานที่ต่างประเทศ เธอจึงบินไปทำงานที่ประเทศอื่น แต่ว่าแบงค์ก็ยังคงอาศัยอยู่ในห้องพักแห่งนี้เป็นเวลาประมาณซัก 4 ปี แบงค์เจอแบบนี้ทุกๆวัน จนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
Post a Comment