"ตรงนี้ผีดุนะ แถวนี้เขารู้กันหมด"
เรื่องของคุณฟางและครอบครัวต้องย้ายบ้านไปอยู่ต่างพื้นที่ โดยทีแรกไม่พบอะไรจนมาถึงวันหนึ่งที่มีคนทัก "ตรงนี้ผีดุนะ แถวนี้เขารู้กันหมด" แล้วมันก็มีเหตุการณ์แปลกแปลกเกิดขึ้นมากมาย และพวกเขายังไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดที่ครอบครัวของเขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ลองไปฟังเรื่องราวของเขากันเลยครับ
ผมชื่อฟางครับ เรื่องที่จะนำมาเล่าในวันนี้เกิดขึ้นกับหลายคนที่อยู่รอบตัวผม แล้วเราก็มาถกกันตอนหลังว่าสิ่งที่เจอนั้นคืออะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับญาติ เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวของพี่คนนี้มี 6 คน มีพ่อ แม่ ยาย พี่สาว 2 คนแล้วก็ตัวเขา คนเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนั้นเขาเป็นคนสุดท้อง เป็นผู้ชายชื่อพี่กอล์ฟ คือครอบครัวเขาได้ย้ายบ้านไปอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งแถวไทรน้อยจังหวัดนนทบุรี แล้วก็ได้ปลูกบ้านอยู่ในพื้นที่นั้น บริเวณหลังบ้านเป็นเหมือนสวนกึ่งๆป่า ตอนแรกๆอยู่ไปก็ไม่มีเรื่องอะไร ก็ปกติ แต่อยู่มาวันหนึ่งยายของพี่คนนี้เขากลับมาเล่าให้ที่บ้านฟังว่า ตอนไปตลาดแล้วเรียกวินมาส่งหน้าบ้าน วินเขาก็ทักว่า "ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง อยู่ได้หรอ" ยายเขาก็งงแล้วก็ถามว่า "มีอะไรหรอ" พี่วินมอเตอร์ไซค์เขาก็บอกว่า "ตรงนี้ผีดุนะ แถวนี้เขารู้กันหมด" ยายเขาก็ตกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ทุกคนในบ้านก็ไม่ได้เอะใจอะไรครับ
แล้วมันก็มีเหตุการณ์แปลกแปลกเกิดขึ้น วันนั้นพี่กอล์ฟนั่งดูหนังกับพี่สาวทั้งสองคนแล้วก็แม่ของเขากันจนดึก เวลาก็ประมาณตี 2 เห็นจะได้ แต่ว่าไม่ได้เปิดไฟในบ้านนะครับ จะมีแค่แสงจากไฟทีวีในห้องเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้เปิดเสียงทีวีดังมากเพราะคุณยายเขานอนอยู่ ขณะที่กำลังดูทีวีกันอยู่นั้นตัวพี่กอล์ฟก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่หลังบ้าน แล้วก็เสียงคนเดินเหยียบกิ่งไม้ ตัวพี่เขาเนี่ยได้ยินก่อนแล้วก็เรียกให้คนอื่นฟัง พี่เขาก็รีบปิดทีวีแล้วก็ปิดไฟ แล้วก็คอยฟังเสียงให้แน่ใจ มันก็ยังได้ยินอยู่ครับ เป็นเสียงคนคุยกันแต่จับใจความไม่ได้ พี่เขาก็เลยลองเอาเก้าอี้มาปีนดูตรงห้องใต้หลังคา ก็เห็นเหมือนคนถือไฟแช็คแต่ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนนะครับ ก็ผลัดกันขึ้นดูกับพี่สาวแล้วก็แม่ ทุกคนก็เห็นเหมือนกัน
ทีนี้พี่กอล์ฟก็เลยเปลี่ยนขึ้นดูอีกครั้ง คราวนี้ไฟดับครับ เหมือนคนดับไฟแช็ค เหมือนว่าเขาจะรู้ตัวว่ามีคนเห็น พี่เขาก็ลงมาจากเก้าอี้ แล้วก็คอยฟังเสียงต่อแต่ว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยครับ เงียบสนิท ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นพวกขโมยต้องมางัดบ้านแน่ๆ แต่มันน่าแปลกใจที่ว่าถ้าเค้าเป็นคนแล้วรู้ว่ามีคนเห็นเนี่ยทำไมถึงไม่มีหนี ทำไมถึงไม่มีเสียงเดินออกไปตามสัญชาตญาณคนกำลังแอบ เพราะที่ตรงนั้นนะครับมันมีทั้งเศษปูน เศษกระเบื้อง แล้วก็กิ่งไม้แห้ง ขนาดหมาเหยียบทียังได้ยินเสียงเลยครับ แต่นี่กลับไม่มีเสียงอะไรเลย ก็เลยนั่งเฝ้ากันตรงนั้นยันสว่างแล้วก็ไม่กล้าที่จะออกไปดูเพราะกลัวจะเป็นอันตราย
ตอนที่ได้ยินเสียงนั้นนะครับเหมือนคนคุยกันอยู่หลายคน พอเช้าออกไปดูตรงจุดที่เห็นว่ามีคนจุดไฟแช็คก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติไม่มีแม้แต่รอยอะไรเลยครับ ต่างคนก็ต่างสงสัยว่าเมื่อคืนน่ะคืออะไรกันแน่ แต่ก็ยังไม่ได้คิดว่าเป็นผี พอหลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน มันก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดกับพี่สาวคนรองครับชื่อพี่อ้อม วันนั้นขณะที่ทุกคนต่างนอนกันอยู่ในห้องพี่กอล์ฟเนี่ยก็เห็นพี่อ้อมนอนหงาย แล้วลักษณะเหมือนโดนกดไม่ให้ลุกยังไงยังงั้นครับ เหมือนผีอำแล้วลุกไม่ได้ พูดอู้อี้ออกมาเหมือนละเมออะไรสักอย่างฟังไม่รู้เรื่อง พอพี่กอล์ฟเข้าไปปลุกเขาก็รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาก็เหมือนตกใจ แต่ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ยอมบอกว่ามีผู้หญิงผมยาวใส่เสื้อสีดำ
มานั่งยองๆเหยียบหน้าอกเขา กดหน้าอกเขา แล้วก้มหน้าลงมาเรื่อยๆจนจะติดหน้าแล้วก็ยิ้มให้ ตัวเขาก็ขยับไม่ได้ จะร้องอะไรก็ร้องไม่ออก พี่อ้อมบอกว่ามาทำแบบนี้บ่อยมาก บางครั้งก็นั่งข้างๆตัวแล้วก็ก้มหน้าลงมามอง ตอนนั้นทุกคนรู้เรื่องก็เริ่มกลัวกันแล้ว แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้นอกจากทำบุญ
แต่เรื่องก็ยังไม่จบนะครับ คราวนี้เกิดกับพ่อของพี่เขาเอง พี่กอล์ฟเล่าว่าวันนั้นพ่อของพี่กอล์ฟมายืมสร้อยพระพี่เขาแล้วก็เอาไปแขวนตรงหน้าต่างห้องนอน หน้าต่างห้องนอนนี้เปิดม่านรับลมทุกคืน ที่กอล์ฟก็เลยถามว่าเอาไปแขวนไว้ทำไม พ่อก็เล่าว่าเห็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีดำเดินมาหยุดตรงหน้าต่างแล้วก็ก้มลงมามองพ่อที่กำลังนอนทุกคืน เวลาเดิมทุกวัน มองเสร็จแล้วก็เดินออกไป เวลานั้นของทุกวันก็ต้องลืมตาตื่นทุกที เหมือนต้องตื่นมาให้เห็นกัน ซึ่งถ้าไปนอนที่อื่นก็จะหลับสบายไม่มีอะไร แต่ถ้านอนที่บ้านก็ต้องตื่นมาเจอแบบนี้ทุกคืน ทำให้พอทุกคนในบ้านรู้ก็ยิ่งกลัวมากขึ้น
แต่เห็นนางสุดท้ายที่ทำให้พี่กอล์ฟและครอบครัวเขาทนอยู่ต่อไม่ไหวก็คือ ในคืนวันหนึ่งตัวพี่กอล์ฟเนี่ยนั่งเล่นเกมจนดึก แล้วก็เผลอหลับไป แล้วก็ตื่นขึ้นมาเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น เค้ามองนาฬิกาเวลาตอนนั้นซักตี 2 กว่า เขาก็เห็นผู้ชายรูปร่างอ้วน ตัวใหญ่ นั่งมองมาที่เขาแล้วก็พูดกับเขาว่า "เมิงรู้ไหมว่ากรุตายยังไง" พูดย้ำเสียงดุดันหลายรอบมากครับ แล้วพี่กอล์ฟก็ตอบไปว่า "ผมไม่รู้" ผู้ชายคนนั้นก็ชี้ไห้ดูจุดหนึ่ง ก็เห็นเป็นตัวผู้ชายคนนี้กำลังดิ้นอยู่ แล้วเขาก็ดิ้นแรงขึ้น แรงขึ้นจนหน้าเขาก็ค่อยๆเขียวขึ้นเรื่อยๆ จนหยุดดิ้นในที่สุด ตอนนั้นพี่กอล์ฟช็อคมากและที่ช็อคยิ่งกว่าก็คือ พอหันกลับมาหาผู้ชายคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ อยู่ในสภาพปกติครับ หลังจากนั้นครอบครัวพี่กอล์ฟก็ต้องย้ายออกเพราะกลัวกันมาก
ขนาดทำบุญแล้ว ไหว้บอกกล่าวแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น เหมือนเขาไม่ต้องบุญยังไงอย่างนั้นแหละครับ เพราะพอพ่อเอาพระไปแขวนเขาก็ยังเห็นอยู่แต่คราวนี้ก้มแล้วไม่ยอมไปไหนเลยครับ
Post a Comment