กูจะเอามึงไปอยู่เป็นเพื่อน


     ความเป็นเพื่อนกันมันเป็นได้ตลอดครับ ดั่งเรื่องนี้ ต๋อง เล่าให้เราฟังเกี่ยวกับประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับเขาเองและเพื่อนๆของเขา เรื่องราวที่เขาจะไม่มีวันลืมถึงเหตุการณ์นี้เลย เขาและเพื่อนๆชอบซิ่มอเตอร์ไซค์กันยามค่ำเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เป็นต้นกำเนิดเรื่องนี้ที่เขาไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับเขาเอง ไปติดตามชมกันเลยครับ

     เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดต้องย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ต๋องยังอยู่ในวัยที่กำลังเล่าเรียนศึกษา เป็นช่วงวัยคึกคะนองต๋องและเพื่อนๆชอบขับรถจักรยานยนต์เล่นกันตอนกลางคืน และก็มีอยู่วันหนึ่งถ้าจำไม่ผิดวันนั้นน่าจะเป็นวันศุกร์ ต๋องและเพื่อนๆก็นัดดกันไปขับรถเล่นตามเคย โดยที่ต๋องไม่รู้เลยว่าวันนี้มันจะเกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดขึ้น ค่ำวันนั้นต๋องและเพื่อนๆได้ขับรถเล่นกันอยู่พักหนึ่งก็มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าเฟรมพูดขึ้นมาว่า "มาแข่งรถกันมั้ย" เพื่อนๆหลายคนก็ตกปากรับคำว่าเอาสิ มาลองกันสักตั้ง แล้วก็เริ่มทยอยบิดแข่งกันแต่ว่าตัวต๋องนั้นไม่ชอบการบิดแข่งรถแบบนี้อยู่แล้วก็เลยบอกว่า "ขอขับรถอยู่ห่างๆดีกว่า" เพื่อนๆที่แข่งนั้นมีทั้งหมด 5 คัน ส่วนต๋องก็ขับตามไปช้าๆ เนิบๆ

               หลังจากที่ทุกคนออกรถกันไปได้แค่พักเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เฟรมเพื่อนที่เป็นคนชวนแข่งรถนั้น ได้เกิดอุบัติเหตุรถล้มเข้าไปชนกับเพื่อนอีกคันหนึ่งที่จ่ออยู่ด้านหน้าอย่างแรง ทุกคนตกใจรีบวิ่งเข้าไปดูรถ ภาพเบื้องหน้าที่เห็นทำให้ต๋องช็อคมาก เนื่องจากหัวของเฟรมนั้นได้ซุกเข้าไปติดอยู่กับล้อหลังของรถที่เข้าชน หัวของเขายุบไปติดกับล้อของรถ ต๋องตกใจมากทำอะไรไม่ถูกทุกคนก็้เลยช่วยกันดึงตัวของเฟรมออกมา ปรากฏว่าหัวของเฟรมยุบเข้าไปเกือบครึ่งหนึ่ง ทุกคนสติแตกไม่รู้จะทำยังไง ลงความเห็นว่าต้องรีบพาไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยต๋องเป็นคนขับรถและให้เฟรมนั่งกลางมีเพื่อนอีกคนหนึ่งนั่งประกบไว้ด้านหลัง ประคองตัวเฟรมไว้ไม่ให้ล้ม ในระหว่างที่กำลังไปโรงพยาบาลนั้น เฟรมดูเหมือนจะไม่ไหวเนื่องจากศีรษะของเขานั้นยุบไปเกือบครึ่ง มีเศษของสมองไหลมาติดที่หลังของต๋องด้วย รวมถึงเลือดสดๆก็นองเต็มรถของต๋อง แขนขาของเขาก็ชักกระตุกตลอดเวลาพอไปถึง รพ. ทุกคนก็รีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน ผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีแม่ของเฟรมก็มา หลังจากนั้นพยาบาลก็ออกมาจากห้องฉุกเฉินแล้วก็แจ้งว่าเฟรมนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว คุณแม่ของเฟรมเสียใจมาก คืนนั้นทั้งคืนต๋องก็เลยไปช่วยแม่เฟรมเก็บกวาดบ้านเพื่อจัดงานศพซึ่งเฟรมนั้นนับถือศาสนาคริสต์ พอต๋องจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านเพื่อไปพักผ่อน พอถึงบ้านต๋องก็เห็นรถของตัวเองเต็มไปด้วยคราบเลือดเต็มทั้งคันรถเลยทีเดียว เวลาในขณะนั้นกำลังจะตี 3 แล้ว แต่ต๋องตัดสินใจรีบล้างรถโดยด่วนเนื่องจากต๋องกลัวว่าตอนเช้ามาพ่อและแม่จะดุเอาและจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอล้างรถเสร็จก็รีบขึ้นนอน    วันแรกก็ผ่านไป

               พอเช้าวันต่อมาพ่อกับแม่รีบมาปลุกต๋องใหญ่เลย ถามว่าทำไมถึงมีคราบเลือดเปื้อนเต็มรถแบบนี้ ต๋องลงไปดูก็ตกใจมากในเมื่อเมื่อคืนนี้ก่อนจะนอนก็ได้ล้างคราบเลือดออกจากรถหมดแล้วด้วยตัวเอง แต่ทำไมเช้าวันนี้กลับมีคราบเลือดติดอยู่เหมือนเดิมต๋องข้องใจมาก ได้แต่สงสัยว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ตอนกลางวันต๋องก็ไปขลุกอยู่ที่งานศพของเฟรมทั้งวัน พอตกกลางคืนต๋องก็ไปนอนที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกัน เนื่องจากว่าไม่อยากนอนอยู่บ้านคนเดียว คืนนั้นเองในขณะที่ต๋องกำลังนอนหลับอยู่
จู่ๆหมาก็หอน แล้วต๋องก็ได้ยินเสียงคนขับรถมอเตอร์ไซค์มาอย่างเร็วแล้วก็เบรกดัง เอี๊ยดดดด!! ต๋องรีบเปิดหน้าต่างก้มลงไปดูก็ไม่เห็นมีใครสักคน พักเดียวเท่านั้น เสียงแบบเดิมก็เกิดขึ้นอีก ดังอยู่แบบนี้ทั้งคืน ต๋องและเพื่อนเจ้าของบ้านก็เลยเดากันว่าเสียงที่ได้ยินนั้นคงไม่ใช่เสียงใครที่ไหน น่าจะเป็นเสียงของเฟรมเอง เพราะตอนที่เฟรมยังมีชีวิตอยู่นั้นเฟรมชอบขับรถมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนคนนี้ในลักษณะที่ขับมาเร็วๆแล้วก็รีบเบรกล้อหลังทำให้ล้อหลังลากดัง เอี๊ยดดด  หลังจากงานศพของเฟรมได้เสร็จสิ้นลงทุกๆคนก็จะเลิกขับรถมอเตอร์ไซค์เล่นกันแล้ว เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุแบบเดียวกับเฟรม ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนหนังสือต่อไป แต่ว่าเรื่องยังไม่จบเพียงแค่นั้น...

                 เวลาล่วงเลยผ่านไปซัก 4 ปีได้ ตั้งแต่วันที่เฟรมจากไป ต๋องและเพื่อนๆก็ได้นัดกันมานั่งคุยสังสรรค์กันที่ร้านแห่งหนึ่ง หลังจากทานข้าวเสร็จ ร้านปิด ประมาณตี 1 ครึ่ง ต๋องและเพื่อนๆก็ยังไม่อยากกลับบ้านเนื่องจากนานๆจะได้เจอกันทีหนึ่งเลยคิดว่าจะไปนั่งเล่นต่อข้างนอก ทุกคนก็เลยพากันไปนั่งเล่นที่หน้าโบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในตัวจังหวัดนครพนม ด้านหน้าของโบสถ์จะมีถนนกั้นไว้และก็จะมีลานที่เอาไว้นั่งเล่นชมวิวตรงข้างแม่น้ำโขง พอมองไปฝั่งตรงข้ามแม่น้ำก็จะเห็นฝั่งลาวเลย วิวสวยมาก
ส่วนด้านหลังของโบสถ์จะเป็นสุสานซึ่งเอาไว้ฝังศพของคนที่นับถือคริสต์ และสุสานที่นี่เองก็เป็นสุสานที่ฝังศพของเฟรมร่างของเฟรมถูกฝังอยู่ที่นี่ 4 ปีมาแล้ว ต๋องและเพื่อนๆนั่งเล่นกันอยู่สักพักหนึ่ง มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อแนน ได้พูดขึ้นมาว่า "เออ จำเฟรมได้มั้ยที่ตายไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ศพฝังอยู่ด้านหลังนี่เอง ทุกคนคิดว่าป่านนี้เฟรมจะไปเกิดแล้วหรือยัง เพื่อนในกลุ่มรวมทั้งต๋องก็เถียงกันไปมาแนนก็เลยพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "ลองเข้าไปดูในสุสานกันไหมล่ะ สุสานก็อยู่ใกล้ๆนี่เอง เผื่อจะได้รู้ว่าเฟรมไปเกิดแล้วหรือยัง"

              ต๋องกับเพื่อนที่ชื่อแนน 2 คนก็เลยปีนเข้าไปด้านในโบสถ์  แล้วเดินอ้อมเข้าไปหลังโบสถ์ ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของเฟรมแถวนั้นมืดและเปลี่ยวมาก มีแต่สุสาน พอเดินเข้าไปใกล้กำลังจะถึงศาลาตรงที่ฝังศพ ต๋องก็สังเกตุเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อเชิตสีแดงนั่งหันหลังให้ต๋องอยู่ตรงศาลาซึ่งห่างจากต๋องประมาณ 10 ม.ได้ ตอนแรกก็นึกว่าตาฝาดเลยถอดแว่นออกมาเช็ด พอใส่แว่นกลับไปเท่านั้นภาพที่ต๋องเห็นทำให้แทบช็อค ผู้ชายคนนั้นได้มายืนอยู่ตรงหน้าของต๋องแล้ว แต่สภาพที่เห็นนั้นเหมือนคนธรรมดานี่แหละ หน้าตาดูซีดขาวมาก ชายคนนั้นมายืนอยู่เบื้องหน้าของต๋อง ห่างกันไม่ถึง 1 ม. ต๋องจำได้ว่านี่คือเฟรมเพื่อนของตัวเองก่อนที่เฟรมจะโดนฝังนั้นเฟรมก็ใส่เสื้อเชิตสีแดงกางเกงยีนส์ เป็นชุดโปรดของเขา ตัวต๋องเองนั้นช็อคก้าวขาไม่ออก พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่นั่งเล่นกันอยู่หน้าโบสถ์ เพื่อนที่อยู่กน้าโบสถ์ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ต๋องบอกว่าเจอผีแล้วเพื่อนก็ทักอีกว่า อ้าวแล้วแนนที่ไปด้วยกันหายไปไหน แต่ในวินาทีนั้นต๋องทำอะไรไม่ถูก ก็ได้แต่ร้องไห้ เพื่อนหลายคนก็เลยพากันปีนเข้าไปในสุสานเพื่อไปตามหาแนน พักเดียวเท่านั้นต๋องก็เห็นพวกเพื่อนๆเดินออกมาพร้อมกับช่วยกันอุ้มแนนออกมาด้วย เพื่อนบอกว่าแนนเป็นลมนอนหมดสติอยู่หน้าศาลา หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

               พอตื่นเช้าต๋องก็รีบไปทำบุญใส่บาตรให้เฟรม ซึ่งต๋องก็ไม่แน่ใจว่าคนละศาสนาผลบุญจะถึงกันมั้ย แต่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจส่วนแนนที่เข้าไปในสุสานพร้อมกับต๋องนั้น หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นต๋องก็ได้ไปหาแนนที่บ้านแล้วถามว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นแนนก็บอกว่า "ระหว่างที่เดินเข้าไปกับต๋องนั้น แนนก็เห็นเฟรมเหมือนกับต๋องนั่นแหละ แต่ที่แนนเห็นนั้น เฟรมไม่ได้มาปรากฏตัวแบบธรรมดาเฟรมมาให้แนนเห็นแบบสภาพหัวยุบ ตากลวง และยืนชี้หน้าแนนบอกว่า "กรุยังไม่ได้ไปเกิด กรุจะเอาเมิ ง ไปอยู่เป็นเพื่อน" แค่นั้นเองแนนก็สลบไปเลย จนเพื่อนเข้ามาอุ้มออกมานั้นแหละ

                 หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน แนนก็ได้เสียชีวิตไปโดยที่คุณหมอระบุว่าเกิดจากเส้นเลือดในสมองแตก ในขณะที่แนนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ดีๆ แนนก็วูบฟุบลงกับโต๊ะ เสียชีวิตไปดื้อๆ ต๋องก็เดาเอาว่าน่าจะเกิดจากที่เฟรมนั้นเอาแนนไปอยู่ด้วยก็น่าจะเป็นไปได้เรื่องทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...

ไม่มีความคิดเห็น