ปลดทุกข์เป็นเหตุหลอน


          เคยไหมที่เวลาปวดปัสสาวะจนไม่ไหวต้องปลดทุกข์ข้างทาง เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาปลดทุกข์ตรงนั้น เรื่องราวของคุณวินและเพื่อนๆ ที่พวกเขาเจอกับแรงอาฆาตหนักถึงเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว ลองไปฟังเรื่องราวของเขากันเลยครับเฮี้ยนมากๆเลยขอบอก

          เหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อแปดปีที่ผ่านมา พี่เขยได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ และต้องย้ายไปประจำที่เชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินทางขึ้นไปประมาณห้าวัน พี่เขยก็ขอให้คุณวินและพี่สาว ขนของล่วงหน้าขึ้นไปจัดบ้านที่ทางบริษัทเตรียมไว้ให้ก่อน

        คุณวินได้ชวนเพื่อนๆในละแวกบ้านไปด้วย รวมแล้วที่ไปทั้งหมดมีคุณวิน พี่สาว ลูกของพี่สาว และเพื่อนคุณวินอีกสี่คน เดินทางกันไปถึงเชียงใหม่ ก็ช่วยกันจัดของจนเสร็จ ตกเย็นก็นั่งสังสรรค์กันที่บ้าน

       สักพักใหญ่ๆ เครื่องดื่มหมด คุณวินและเพื่อนๆจึงได้ออกไปซื้อเครื่องดื่ม และกลับมานั่งดื่มกันต่อจนประมาณห้าทุ่ม เพื่อนคนนึง ชื่อคุณที เดินไปจับหัวลูกสาวของพี่สาว แล้วพูดว่า "น้องเพลง ดึกแล้วนะยังไม่นอนอีกเหรอ"

       แต่อยู่ๆน้องเพลงก็ด่าคุณทีว่า " ยิ้ม" ทำให้คุณวินอึ้งมาก เพราะน้องเพลงอายุแค่สามขวบ ไปเอาคำนี้มาจากไหน พี่สาวเดินไปตีน้องเพลงแล้วพูดว่า "ไปพูดแบบนั้นกับพี่เค้าได้ยังไง ทำไมถึงพูดไม่เพราะ"

    น้องเพลงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคน พร้อมกันพูดว่า "ไอ้พวก ยิ้ม มาเยี่ยวห๊ดหัวฮานิคิงเขาไข้ต๋ายก่อ" คุณวินเริ่มเอะใจ คิดว่านี่คงไม่ปกติแล้ว จึงได้บอกให้พี่สาวเอาพระคล้องคอให้น้องเพลง พี่สาวจึงถอดพระแล้วเอาไปคล้องให้น้องเพลง

    น้องเพลงทำท่าฟึดฟัดเหมือนคนไม่พอใจอยู่พักใหญ่ แล้วก็สงบลง พี่สาวก็พาน้องเพลงขึ้นไปนอนข้างบน ทุกคนเริ่มใจเสีย จึงช่วยกันเก็บของหน้าบ้าน เข้ามานั่งดื่มต่อกันข้างในบ้าน จนดึกก็หลับกันที่ชั้นหนึ่ง

    แต่อยู่ๆคุณทีก็ลุกขึ้นมาโวยวาย "ข้าไม่อยู่แล้วโว้ย อะไรว่ะพวกเอ็งเดินอะไรกันนักกันหนา" ทุกคนตกใจตื่น ช่วยกันจับคุณทีให้นั่งลง หลังจากที่คุณทีเริ่มสงบลงบ้าง ก็ได้เล่าให้ฟังว่า "ใครไม่รู้ เดินวนไปวนมาอยู่แถวๆหน้าบ้านนั่นน่ะ เต็มไปหมดเลย ลองชะเง้อดูแล้วเห็นเป็นเงาดำๆ เต็มหน้าบ้านเลย"

    รุ่งเช้า คุณทียืนยันว่าจะกลับท่าเดียว พี่สาวจึงให้คุณวินไปส่งที่ท่ารถกลับกรุงเทพ เหลือเวลาอีกสองวันที่พี่เขยจะขึ้นมา คุณวินและเพื่อนๆจึงต้องอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวก่อน จนถึงวันที่พี่เขยเดินทางมาถึงที่เชียงใหม่

    และวันนั้น ทางบ้านของคุณทีโทรมาบอกว่า คุณทีเสียชีวิตแล้ว สาเหตุการตายเกิดจากขี่รถตกลงไปในคลอง แล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เพราะอยู่ในอาการมึนเมา คุณวินนึกย้อนกลับไปถึงวันที่ออกไปซื้อเครื่องดื่ม

    ระหว่างทางที่กำลังขับรถไปที่ร้านค้า คุณทีกับคุณตั้มปวดท้องเบา จึงได้จอดรถแล้วลงไปปัสสาวะข้างๆทาง แถวนั้นจะเป็นเวิ้งกว้างๆเหมือนสนามฟุตบอล มีหญ้าขึ้นสูงทั่วบริเวณ และมีขยะกองอยู่เป็นจุดๆ คุณทีเหลือบไปเห็นตุ๊กตานางกวักที่คอหัก จึงไปหยิบขึ้นมาเล่น ทำท่าทะลึ่งตึงตัง

    ทุกคนจึงได้มานั่งคุยกันว่าหรือนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณทีเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่มีใครปักใจเชื่อจริงๆ หลังจากคุณวินและเพื่อนๆกลับถึงกรุงเทพ ก็ได้ไปร่วมงานศพคุณที เหตุการณ์ผ่านไปเกือบๆเดือน

    คุณตั้มไปหาแฟนที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้ไปเที่ยวที่น้ำตก ปรากฏว่าคุณตั้มจมน้ำตาย แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ตอนที่คุณตั้มกำลังจะจมลงไปในน้ำ แฟนของคุณตั้มได้ยินคุณตั้มพูดด้วยเสียงสำลักน้ำว่า ช่วยด้วย ใครไม่รู้ลุมล้อมอยู่รอบตัว มืดไปหมด ทั้งๆที่เป็นตอนกลางวัน

    คุณวินและเพื่อนๆที่เหลือจึงกลับมานั่งคุยกัน ต่างคิดว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะคุณทีและคุณตั้มลงไปปัสสาวะข้างทาง และไปโดนตุ๊กตานางกวัก คุณวินจึงโทรไปหาพี่สาว ให้ช่วยไปถามคนแถวนั้นว่าที่ตรงนั้นมันคืออะไร

    พี่สาวก็ได้ไปสอบถามให้ ปรากฏว่าเมื่อก่อนที่ตรงนั้นเคยเป็นโรงงานลำไย เคยเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในอดีต มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน คุณวินได้ยินเช่นนั้นก็ไม่สบายใจ พี่สาวจึงไปปรึกษากับหมอเมืองให้

    หมอเมืองบอกว่าที่ตรงนั้น มีผีตายโหงอยู่หลายตน เพราะตอนที่โรงงานระเบิด คนเหล่านั้นตายแบบไม่รู้ตัว ต้องไปทำพิธีขอขมา คุณวินและเพื่อนๆจึงต้องเดินทางไปทำพิธีขอขมาที่จุดเกิดเหตุ โดยมีพี่สาวกับหมอเมืองไปด้วย

    หลังจากนั้นก็กลับมานอนที่บ้านพี่สาว คืนนั้นพี่สาวฝันว่า มีเงาคนดำๆ เกือบสามสิบคน ยืนอยู่เต็มหน้าบ้าน พี่สาวเดินออกไปถามว่า "มาทำไมคะ" เงาดำๆของผู้หญิงคนหนึ่ง ชี้หน้าพี่สาวแล้วพูดว่า "เอ็งคิดว่าขอโทษแล้วมันจะจบเหรอ"

    รุ่งเช้าพี่สาวก็ได้มาเล่าให้คุณวินฟัง คุณวินเครียดมาก เพราะไม่อยากจะเป็นศพต่อไป จึงได้ไปปรึกษาพระที่วัด พระท่านก็บอกว่าลองบวชดูสักพรรษานึง แต่คุณวินและเพื่อนๆไม่สดวกที่จะบวชหนึ่งพรรษา เพราะต้องทำงานด้วย

    จึงตกลงบวชเก้าวัน ก็ได้เข้าพิธีบวชที่เชียงใหม่ ในอำเภอสันป่าตอง ในระหว่างที่คุณวินบวช เหมือนมีอะไรสักอย่าง คอยรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา จึงได้ลองไปปรึกษาพระอาจารย์ ท่านก็บอกให้ไปทำพิธีสืบชะตาและบังสุกุล

    ตอนนั้นพระท่านให้ทำอะไร คุณวินและเพื่อนก็ทำหมดทุกอย่าง เพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะตามมา วันที่คุณวินและเพื่อนๆจะเดินทางไปทำพิธี มัคนายกของวัด บอกให้คุณวินทำหุ่นของตนเองกับเพื่อนขึ้นมา

    จะเอาฟางหรือเอาดินมาปั้นก็ได้ แล้วเอาเศษเสื้อผ้า เศษเล็บเศษผม ใส่เข้าไปในหุ่น แล้วเอาไปโยนทิ้งไว้แถวๆนั้น คุณวินจึงได้ทำตาม หลังจากนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติอีกเลย และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น