ตุ๊กตาอาถรรพ์
อุบัติเหตุจากการเดินทางที่อาจเกิดขึ้นได้หากประมาท แต่ทว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการหลอกหลอนของผีล่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับคุณตั้ม เมื่อครั้งที่เขาเรียนจมใหม่และกำลังจะใกล้บวชตอบแทนพระคุณแม่ โดยคุณน้าแนะนำให้เขาไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากนี้
หลังจากตกลงใจได้แล้ว คุณตั้มก็นั่งรถไปกับพี่ชายก่อน ส่วนญาติที่เหลือจะขับรถตามมาทีหลัง รถที่คุณตั้มนั่งอยู่เป็นรถกระบะสี่ประตู พี่ชายจะเป็นคนขับ ออกจากบ้านประมาณห้าทุ่ม กะไว้ว่าถึงที่วัดตอนเช้า
ใช้เส้นทางสิงห์บุรีผ่านเข้านครสวรรค์ ลักษณะถนนสองเลน ไม่มีไฟทาง พี่ชายรู้ว่าคุณตั้มเป็นคนกลัวผี จึงอำคุณตั้มมาตลอดทาง "พระใหม่อ่ะ เจอผีกันบ่อยนะ เคยได้ยินบ้างเปล่า" คุณตั้มรู้ว่าพี่ชายแกล้ง ก็ไม่อยากใส่ใจมาก
เวลาประมาณตีสอง พี่ชายก็ยังพูดอำอยู่เรื่อยๆ คุณตั้มก็ทำหูทวนลม มองแต่ข้างหน้า เพราะสองข้างทางจะมืดมากจนไม่กล้ามอง เพราะบางครั้งไฟหน้ารถสาดแสงโดนสิ่งต่างๆที่อยู่ข้างทาง ทำให้เห็นเป็นลางๆ คล้ายคนยืนมองอยู่ในป่าข้างทาง
สักพักปรากฏว่ามีเด็กวิ่งตัดหน้ารถ ซึ่งมันกระชั้นชิดจนเบรคไม่ทัน ทำให้รถถลาชนเข้าอย่างจัง แล้วรถก็เสียหลักพุ่งลงข้างทาง ตอนนั้นคุณตั้มกับพี่ชายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก พี่ชายพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า "เฮ้ยชนเด็กว่ะ รีบลงไปดูเลย"
คุณตั้มรีบหาไฟฉาย แต่ก็หาไม่เจอ พี่ชายจึงโยนไฟฉายมาให้ คุณตั้มรีบลงจากรถ แล้วส่องไฟฉายดูใต้ท้องรถเป็นอันดับแรก ปรากฏว่าคุณตั้มเจอตุ๊กตาเด็ก ติดอยู่ที่ใต้ท้องรถ ตัวสูงราวๆห้าสิบเซนติเมตร เป็นตุ๊กตาผู้หญิง แต่ไม่มีผม ใส่ชุดสีฟ้ามอมๆ
สักพักพี่ชายก็ตามลงมา พอเห็นว่าเป็นตุ๊กตาก็เข่าอ่อนทันทีด้วยความโล่งใจ คุณตั้มคิดในใจว่าโชคดีที่ไม่ใช่เด็ก แต่ว่าสิ่งที่คุณตั้มเห็นตอนที่มันวิ่งเข้ามาขวางหน้ารถ มันเป็นเด็กชัดๆ คุณตั้มเป็นคนที่เชื่อในลางสังหรณ์ของคนเอง คิดว่าการบวชครั้งนี้คงไม่น่าจะดีแน่
แต่ก็ต้องกัดฟัน คิดในใจว่าเพื่อแม่ คุณตั้มจึงหยิบตุ๊กตาออกมาวางไว้แถวๆข้างทาง แล้วเดินทางกันต่อ แต่ดูเหมือนพี่ชายจะมีอาการไม่ค่อยดีนัก มือไม้สั่น พูดด้วยปากสั่นๆว่า "เออตั้ม ยังไงถ้าเจอปั้ม เดี๋ยวพี่ขอแวะก่อนนะ พี่ไม่ไหวจริงๆหวะ"
จากนั้นพี่ชายก็ขับรถไปตามถนนอย่างช้าๆ มีรถเก๋งคันนึง ขับตามมาจากด้านหลัง แล้วดิฟไฟสูงใส่พร้อมกับบีบแตร พี่ชายจึงเปิดไฟเลี้ยงด้านซ้าย เพื่อเป็นสัญญาณให้แซง ระหว่างที่รถเก๋งขับขึ้นมาเทียบข้างรถ คนขับก็ชี้ไปที่กระบะหลัง แล้วก็ขับเซงออกไป
พี่ชายออกอาการหงุดหงิด เพราะไม่เข้าใจว่าต้องการจะสื่ออะไร แต่คุณตั้มเริ่มนั่งนิ่ง คิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง ไม่ถึงห้านาที รถที่ตามอยู่ด้านหลังก็บีบแตรใส่เหมือนคันก่อนหน้านี้
ด้วยความโมโห พี่ชายจึงชลอให้รถด้านหลังขับขึ้นมาอยู่ข้างๆ แล้วก็ตะโกนออกไปว่า "พี่ มีอะไร!!" รถคันที่อยู่ข้างๆก็เปิดกระจกออกมาแล้วพูดว่า "น้อง เอาเด็กไว้หลังรถได้ไง มันอันตรายไม่รู้งั้ย"
ทั้งคุณตั้มและพี่ชายได้ยินเช่นนั้น ต่างนิ่งเงียบ อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน พี่ชายหันมามองหน้าคุณตั้ม แล้วพูดด้วยเสียงสั่นๆว่า "มองข้างหลังดิ" คุณตั้มซึ่งกำลังอยู่ในอาการตกใจ ไม่กล้าหันไปดู เพราะกลัวจะเจออะไรบางอย่างเข้า
แต่ก็พยายามเหลือบไปมองที่กระจกมองหลัง แต่ก็ไม่เห็นอะไร จึงหันไปมองด้านหลัง ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่รถทุกคันที่ขับผ่านจะบีบแตร่ใส่ทุกคัน พี่ชายซึ่งตกใจไม่แพ้คุณตั้ม เลี้ยวรถเข้าไปในปั้มทันที
จากนั้นคุณตั้มก็เข้สห้องน้ำล้างหน้าล้างตา เสร็จธุระแล้วจึงเดินกลับมาที่รถ เห็นพี่ชายยืนนิ่งอยู่ข้างๆกระบะหลัง แล้วกวักมือเรียก "ตั้ม มาดูอะไรนี่ดิ" คุณตั้มจึงเดินตรงเข้าไปหา
ปรากฏว่าเจอตุ๊กตาตัวเดิม นอนอยู่บนกระบะหลัง มองมาทางคุณตั้มตาใสแจ๋ว คุณตั้มขนลุกทั้งตัว สติแทบกระเจิง ในใจสับสนคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง พี่ชายจึงหยิบตุ๊กตาออกมาวางทิ้งไว้ในปั้ม
แล้วเดินขึ้นรถไม่พูดไม่จา คุณตั้มรีบเดินตามขึ้นรถ พี่ชายพูดขึ้นมาว่า "ไหนๆก็จะบวชแล้ว เดี๋ยให้พระท่านช่วยละกัน ฤกษ์ไม่ค่อยดีแล้วเนี่ย" จากนั้นก็ขับรถออกจากปั้ม พี่ชายระแวงจนไม่กล้านั่งพิงเบาะ จ้องไปข้างหน้าอย่างเดียว
คุณตั้มและพี่ชายเดินทางไปถึงวัดเวลาเกือบๆเจ็ดโมงเช้า ปรากฏว่ามีรอยมือเด็กติดอยู่ที่หลังรถ เหมือนกับว่ามีเด็กเกาะอยู่ตรงกระจกหลังรถ ตอนนั้นพี่ชายตกใจมาก จนเอาแต่นิ่งเงียบ
คุณตั้มจึงให้หลวงพ่อมาดู และเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้ท่านฟัง หลวงพ่อท่านก็ถามว่า "ไปทักอะไรเค้าหรือเปล่า" คุณตั้มก็ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตอนที่พี่ชายลงไปดูด้วย ได้เผลอทักอะไรหรือเปล่า
หลังจากนั้น คุณตั้มก็ได้เข้าพิธีบวช ต้องอยู่ที่วัดห้าวัน ลักษณะเป็นวัดในป่า ห่างไกลจากตัวเมือง พี่ชายก็บอกว่าถ้าครบห้ามันแล้วจะมารับ แล้วพี่ชายก็ขับรถกลับบ้าน
เช้ามืดของวันต่อมา เวลาประมาณตีห้าครึ่ง คุณตั้มจะต้องออกเดินบิณฑบาตกับหลองพ่อ บ้านที่นี่จะปลูกอยู่ห่างๆกัน มีถนนเล็กๆเชื่อมไปหาบ้านแต่ละหลัง พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่า
ในขณะที่คุณตั้มกำลังเดินตามหลังหลวงพ่อ คุณตั้มเหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนนึง นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ข้างทาง ลักษณะผมสั้นประบ่า ไม่มีขา ทำหน้าบึ้งตึง จ้องคุณตั้มแบบตาไม่กระพริบ อายุน่าจะอยู่ช่วงประถมหนึ่ง
คุณตั้มรู้ขึ้นมาทันทีว่าเด็กคนนี้ต้องไม่ใช่คนแน่ แต่ก็ยังไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆจากหลวงพ่อ ท่านยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างสงบ จนคุณตั้มและหลวงพ่อเดินผ่านเด็กผู้หญิงไป แล้วคุณตั้มก็หันกลับมามอง ปรากฏว่าเห็นเด็กผู้หญิงกำลังล้วงมือเข้าไปในลำคอ เหมือนกำลังจะหยิบอะไรออกมาสักอย่าง แล้วแหงะมามองหน้า
คุณตั้มอึ้งกับสิ่งที่เห็น ความกลัววิ่งเข้าจับขั้วหัวใจ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ จึงรีบวิ่งไปเดินอยู่กับหลวงพ่อแบบติดๆ อยากจะถามกับหลวงพ่อถึงสิ่งที่เห็น แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจอีกรอบ
ด้านหน้าเต็มไปด้วยเงาดำเกือบยี่สิบคน ยืนเรียงรายกันเต็มสองข้างทาง บางคนเห็นชัดเจน ลักษณะเป็นผู้ชายตัวซีดผอม ทำตาโตมองคุณตั้ม เหมือนคนกำลังสงสัยอะไรสักอย่าง
บางคนเห็นเป็นแค่เงาดำเข้ม แต่เคลื่อนไหวโยกหัวไปมา บางคนไต่ลงมาจากต้นไม้ คุณตั้มสุดจะทนกับสิ่งที่เห็น ยืนหลับตาร้องไห้ก้าวขาไม่ออก หลวงพ่อท่านจึงจำเป็นต้องพากลับวัด
หลังจากนั้นคุณตั้มก็ไม่กล้าออกไปบิณฑบาตอีกเลย เพราะว่านอนจับไข้ จนครบกำหนดห้าวันที่พี่ชายจะมารับกลับกรุงเทพพอดี และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment