เพื่อนใหม่!ปิดเทอม


          เรื่องราวของคุณโอ๋ที่ประสบกับตัวเองและเกิดขึ้นจริง ประมาณปี 1990 เมื่อตอนที่อายุได้สัก 10 ขวบ ตอนนี้อายุ 29ปี ตอนนั้นคุณโอ๋เด็กมาก พ่อและแม่ก็ได้นำโอ๋ไปฝากไว้กับปู่และย่าเพื่อให้ช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนน้องชายอยู่กับพ่อแม่ คุณโอ๋คิดถึงพ่อแม่และน้อง แต่จะมีโอกาสได้เจอกันช่วงปิดเทอม จึงจะมีเวลาได้ใช้กับครอบครัวพ่อแม่และได้เล่นกับน้อง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ได้ไปนอนค้างบ้านพ่อแม่ ทุกๆเช้าโอ๋กับน้องจะเที่ยวเล่นกันตามประสาเด็ก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วแม่จะไม่ยอมให้ออกไปเล่นที่ไหนไกลๆ  เนื่องจากบริเวณโดยรอบนั้นจะเป็นสวน แล้วก็มีท้องร่องซึ่งเอาไว้ปลูกผักบุ้งซึ่งเป็นของเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกเดียวกัน

        วันนั้นเองสองพี่น้องก็เลยพากันไปชวนเพื่อนบ้านแถวนั้นที่สนิทกันไปด้วยอีก 2 คน แล้วในขณะที่เด็กๆทั้งกลุ่มกำลังช้อนปลากันอย่างสนุกสนานนั้นก็ได้มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่ไม่มีใครคุ้นหน้ามาก่อนมาขอเล่นด้วย ซึ่งเด็กคนนั้นเขาก็แนะนำตัวว่าตัวเขาเองชื่อว่าต้น ซึ่งตามประสาเด็กๆแล้ว การมีเพื่อนใหม่ก็เป็นเรื่องน่ายินดี เด็กๆทั้งหมดก็เลยจับปลาเล่นกันอย่างสนุกสนาน จู่ๆต้นก็ตะโกนขึ้นมาว่า "ปลากัดหายไปไหนหมด เมื่อกี้ก่อนที่จะเจอกับพวกนายก็ยังได้มา 3 ตัวเลย" แล้วต้นก็เปิดกระป๋องนมที่ถือมาให้ดูด้วย ข้างในเป็นปลากัดจริงๆ แล้วต้นก็ยังบอกกับกลุ่มเด็กอีกว่า "เอากลับไปปล่อยลงขวดที่บ้าน 10 กว่าตัวเข้าไปแล้ว" พวกเพื่อนๆของโอ๋นั้นได้ยินต่างก็พากันไม่เชื่อ แถวนี้ไม่น่าจะมีหรอกปลากัด แต่ว่าต้นก็บอกกับเด็กทั้งหมดว่า "เราจะพาไปดูที่บ้านก็ได้ถ้าเกิดไม่เชื่อ" แถมยังบอกว่าจะแบ่งให้คนละตัว

               ทุกคนก็เลยพากันเดินลัดสวนออกมาจนถึงคลองใหญ่ ต้นก็ชี้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามแล้วบอกว่า "สังกะสีกันรั้วนั่นแหละหลังบ้านเราเอง มาสิ อาก๋งของเราไม่ว่าหรอก" โอ๋และน้องชายรวมถึงเพื่อนอีก 2 คนก็เลยหันหน้าเข้าปรึกษากัน แต่ว่ายังไม่ทันจะคุยกันได้ครบประโยคดี พอหันไปดูอีกทีต้นก็ไปยืนอีกฝั่งหนึ่งของท้องร่องแล้ว แทบไม่น่าเชื่อคานปูนที่พาดข้ามคลองนั้นหน้ากว้างขนาดไม้บรรทัดครึ่ง ความกว้างของคลองนั้นก็เกือบๆ 15 เมตร ทำไมต้นข้ามเร็วมาก แต่ว่าตัวของโอ๋นั้นก็แค่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจเพราะว่าต้นนั้นก็ได้ตะโกนถามกลับมาว่า "ตกลงว่ายังไงพวกนายจะเอาปลากัดไหม" ด้วยความที่โอ๋นั้นอยากได้ปลากัดมากกว่าคนอื่นๆ ก็เลยรีบเดินข้ามไปไม่ห่วงน้อง ก็ข้ามไปถึงอีกฝั่งนึงได้สำเร็จหัน
กลับไปดู ทุกคนนั้นยังอยู่ที่เดิม ไม่มีใครข้ามคลองตามมาเพราะกลัวจะมีคนเอาเรื่องไปฟ้องแม่ เนื่องจากการเดินข้ามคลองแบบนี้นั้นมันอันตรายมากสำหรับเด็กๆ ถ้าเกิดพลาดท่าเดินตกน้ำไปอาจถึงกับชีวิตได้ โอ๋เลยตัดสินใจตะโกนบอกน้องและเพื่อนว่า "คอยอยู่ฝั่งนู้นนั่นแหละ ดูแลน้องเราให้ด้วย เดี๋ยวเอาปลากัดกลับไปให้ทุกคนเอง" พวกเพื่อน 2 คนก็ตกลงตามนั้น

                แล้วต้นก็เดินนำหน้าไป อ้าแผ่นสังกะสีให้โอ๋มุดเข้าไปด้านในก่อน มุดพ้นแล้วโอ๋จึงหันกลับมาอ้าแผ่นสังกะสีให้ต้นมุดตามเข้าไปด้วยบ้านต้นนั้นลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้น ทรงของบ้านจะคล้ายๆกับอาคารโรงเรียนหลังใหญ่พอสมควร พอทั้งคู่เดินออกมาถึงหน้าบ้าน ต้นนั้นแสดงอากากิริยาร่าเริงมากๆที่มีเพื่อนมาเที่ยวบ้าน จนโอ๋ดูแล้วออกจะร่าเริงเกินปกติไปหน่อย พร้อมกันนั้นต้นก็วิ่งขึ้นบันไดไปชั้น 2 ของตัวบ้านอย่างรวดเร็วจนมองตามแทบจะไม่ทัน แล้วก็ตะโกนทิ้งท้ายให้โอ๋ตามขึ้นไปด้านบน "ข้างบนบ้านมีของกินเยอะแยะเลย รีบขึ้นมาเร็ว" แล้วต้นก็ตะโกนเรียกก๋งโดยร้องบอกว่า "ก๋ง ก๋ง ต้นพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านด้วย" โอ๋นั้นกำลังจะก้าวขึ้นบันไดตามไปก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งที่ทำให้โอ๋นั้นตกใจ จนไม่กล้าก้าวเท้า มันเป็นเสียงดัง เพี๊ยะ ดังมากๆ น่าจะเป็นเสียงตี พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงของคนแก่ตะคอกว่า "ลิ้อไปบอกให้มันออกไปเลย"

                ในใจตอนนั้นโอ๋คิดว่าต้นโดนตีแน่ๆ จึงตะโกนอยู่ที่หน้าบันไดว่า "เรากลับบ้านก่อนนะต้น" แต่ว่าสายตาของโอ๋นั้นเหลือบไปเห็นขี้ฝุ่นที่พื้นบันไดซึ่งหนามาก ก็เลยก้าวถอยหลังออกมาดูให้ชัดเจน โอ๋ตอนนั้นถึงแม้จะยังเป็นเด็กแต่ก็พอจะแยกออกว่าบ้านที่มีคนอยู่กับบ้านร้างที่ไม่มีใครอาศัยอยู่นั้นมันแตกต่างกันยังไง วินาทีนั้นโอ๋กลัวจนขนหัวลุกไปหมด แถมเงาต้นไม้ใหญ่ที่บดบังแสงแดดในตอนเที่ยงข้างตัวบ้านมันก็ยิ่งทำให้บรรยากาศบริเวณนั้นเย็นยะเยือก เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก น้ำตาของโอ๋เริ่มจะไหล โอ๋เลือกเดินกลับไปที่รั้วสังกะสีหลังบ้าน พยายามหาแผ่นสังกะสีที่สามารถเปิดอ้าออกได้ แต่ว่าเดินหาเท่าไหร่สังกะสีทุกแผ่นก็ปิดสนิท ไม่เจอแผนที่อ้าในตอนแรกที่เข้ามาเลย ระหว่างที่กำลังเดินหาอยู่นั้น
เสียงของต้นก็ตะโกนลงมาจากตัวบ้าน "ไม่ต้องกลับแล้ว มาเล่นกับเราที่นี่เถอะ ไม่ต้องกลับเลย" โอ๋รีบหันไปมองที่ตัวบ้านบริเวณชั้น 2 โดยทั่วก็ไม่เห็นตัวของต้น

                ตอนนี้โอ๋รู้แล้วว่าต้นนั้นไม่ใช่คนแน่นอน แต่ก็ยังคิดว่าตัวเองสติแตกเองมากกว่า กลางวันแสกๆตอนเที่ยง ผีที่ไหนจะมีมาหลอกเช้าจนถึงเที่ยง แล้วโอ๋ก็ตั้งสติ ตัดสินใจได้ว่าจะวิ่งไปให้ถึงที่รั้วสังกะสีที่อยู่ลิบๆบริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน ระหว่างนั้นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของต้นก็เริ่มดังขึ้น ดังมาจากชั้นบนของตัวบ้าน เสียงร้องไห้นั้นดังระงมไปทั่วบริเวณสลับกับเสียงร้องเรียกชื่อของโอ๋ โดยประโยคซ้ำๆ "อยู่กับเรา อย่าไปเราอยู่คนเดียว อยู่กับเรา อย่าไปเลย เราอยู่คนเดียว" ตัวของโอ๋เองนั้น ตอนนั้นก็ได้แต่วิ่งไปร้องไห้สะอื้นในลำคอไป รู้ซึ้งถึงความกลัวสุดขีดเหมือนกับกำลังจะขาดใจตาย จนกระทั่งวิ่งมาถึงรั้วหน้าบ้านเสียงของต้นนั้นก็ยังคงดังอยู่ โอ๋เขาอ่อนลงทันทีเพราะสิ่งที่โอ๋อยากจะเห็นก็คือประตูรั้ว แต่ว่าบริเวณนั้นกลับไม่มีประตูใดๆทั้งสิ้น ด้านหน้าของโอ๋เป็นเพียงรั้วสังกะสีปิดตายพันด้วยต้นตำลึงเป็นพุ่มตามขอบรั้ว ทั้งหมดนั้นกลัวมาก โอ๋จึงตัดสินใจเหยียบไม้โครงยึดสังกะสีกระโดดปีนข้ามออกมา

                ตัวของโอนั้นพุ่งออกมาด้วยความแรง ตกกระแทกพื้นบริเวณหน้าร้านขายข้าวแกงริมทางในชุมชนพอดี คนที่กำลังรอซื้อข้าวแกงอยู่นั้นก็ตกใจแตกตื่นกันมาก ในใจของโอ๋ตอนนั้นก็นึกถึงเพียงแต่น้องชายที่กำลังยืนรออยู่ริมคลอง กลัวว่าน้องจะเป็นอะไรไปอีกคน ก็เลยรีบวิ่งกลับไปที่จุดบริเวณนั้นแต่ก็ไม่เจอน้องชาย ไม่เจอเพื่อนเลย โอ๋ตัดสินใจวิ่งต่อไปจนถึงบ้านเพื่อน รีบตะโกนเรียกชื่อเพื่อนที่ฝากน้องชายเอาไว้ด้วย เพื่อนของโอ๋ก็เดินออกมาหน้าบ้านแล้วก็บอกว่า "เดินไปส่งที่บ้านตั้งนานมากแล้ว" แล้วเพื่อนก็ยังถามอีกว่า "หายไปไหนมาตั้งนานตั้งแต่ 11 โมง รอจนถึงเที่ยงก็ยังไม่ออกมา เลยตัดสินใจแยกย้ายกันกลับบ้านก่อน" โอ๋ได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นก็รู้สึกโล่งอกมากที่น้องชายนั้นไม่เป็นอะไรไป

                มารู้ความจริงโดยบังเอิญเอาหลังจากนั้นอีกประมาณซัก 2 วัน เพื่อนของแม่มาหาที่บ้านแล้วก็คุยกันถึงเรื่องนี้ เล่ากันไปเล่ากันมาว่าเดิมทีนั้นบ้านที่ล้อมรั้วสังกะสีเคยมีปู่อาศัยอยู่กับหลานลำพังเพียงแค่สองคน ปู่นั้นได้เอายาฆ่าแมลงให้หลานตัวเองกิน ก่อนที่ตัวของปู่จะผูกคอตัวเองตายเพื่อหนีหนี้สิน กว่าจะมีคนมาพบศพเข้าก็เกือบเดือน แค่นั้นเองก็เข้าใจแล้วว่าต้นนั้นทำไมถึงเหงาแล้วอยากมีเพื่อนไปอยู่เล่นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น