หอผีเฮี้ยน
เรื่องราวของคุณเดือน ในช่วงที่คุณเดือนค่อนข้างยากจน ต้องเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย เธอกับเพื่อนๆของเธอ 4 คนได้ตัดสินใจพักอาศัยอยู่หอพักสตรีแห่งหนึ่ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของพวกเธอ พวกเธอต้องพบเจอเรื่องราวหลอนๆ และประสบการณ์จริงที่พวกเธอพบ และคำตอบของเรื่องราวสุดหลอนทั้งหมด
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนสมัยที่คุณเดือนยังคงเรียนอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด และเรื่องราวนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ณ ตอนนั้นตัวคุณเดือนยังเรียนอยู่ปี 1 มีอายุประมาณ 16 ปี บ้านของเดือนอยู่ที่ต่างอำเภอ คือวิทยาลัยที่เรียนนั้นเป็นวิทยาลัยที่อยู่ในเขตเมือง การเดินทางนั้นตอนเช้าก็จะนั่งรถเมล์มาใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นต้องนั่งรถมาอีกหนึ่งต่อกว่าจะถึงที่วิทยาลัยที่เรียนขากลับก็จะนั่งรถตู้รับส่ง คือจะถึงบ้านก็เลยเวลามาประมาณซัก 3 ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ตอนนั้นเองฐานะทางบ้านของเดือนไม่ค่อยดีนักเดือนจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่หอพักรวมกับเพื่อนอีก 3 คน รวมเดือนด้วยเป็น 4 คนพอดี ต้องบอกว่าหอพักนี้ในตอนนั้นเป็นหอพักสตรีคนมาอยู่ก็ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ สภาพหอเป็นตึกมี 3 ชั้น เดือนกับเพื่อนก็ได้อยู่ห้องหมายเลข 303 ห้องนอนนั้นก็กว้างขวางพอสมควร
เดือนกับเพื่อนนั้นต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าหอรวมถึงค่าเรียน คือพวกเราจะพยายามหาเงินส่งตัวเองเรียนกันเอง เพราะจะพูดถึงฐานะทางบ้านตอนนั้นก็รับจ้างทั่วไป และยังมีน้องที่ยังเรียนประถมอยู่ด้วย
พวกเราก็ตกลงไปสมัครเป็นเด็กเสริฟอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซึ่งร้านนั้นอยู่ในตัวเมืองและหอพักของพวกเราอยู่ย่านชานเมืองแต่ตอนนั้นพวกเราก็มีมอเตอร์ไซค์อยู่ 1 คัน เดือนและเพื่อนเราจะอัด 4 ไปทำงานกันทุกวัน คือพวกเราจะเลิกเรียนประมาณสัก 6 โมงเย็นและเดินทางไปเข้างานตอนประมาณ 1 ทุ่ม กว่าจะเลิกงานก็เลยเวลาเข้ามาตีหนึ่งกว่าและต้องใช้เวลาเดินทางกลับมาที่หออีก ก็จะเป็นแบบนี้ทุกวันๆ มีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่เดือนและเพื่อนๆเลิกงานก็เดินทางกลับหอมาตามปกติ ช่วงนั้นเวลาประมาณเกือบตี 2 เห็นจะได้ บริเวณหอพักก็จะติดกับถนนใหญ่ 4 เลน พอกลับถึงหอก็จะมีสะพานที่ข้ามไปยังสนามบินของตัวจังหวัด หน้าหอพักก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่ คืนนั้นเดือนนั่งอยู่ด้านหน้า เพื่อนอีกคนที่ชื่อหมวยเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วก็จะมีเกดกับนุ้ยนั่งมาข้างหลัง รวมกันเป็น 4 คน ขับรถมาใกล้จะถึงหอแล้วจากสะพานถึงหน้าหอห่างกันประมาณ 3 ต้นเสาไฟฟ้า เดือนก็สังเกตเห็นว่าที่ป้ายรถเมล์หน้าหอมีชายวัยรุ่นใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีขาวนั่งอยู่และเหมือนเขาเห็นว่ามีรถพวกเรามา เขาขยับตัวนิดนึง
ตอนนั้นเดือนมองเห็นจากไกลๆก็เลยบอกเพื่อนว่า "ใครวะมานั่งอยู่ป้ายรถเมล์ เข้ามาหาใครในหอเราหรือเปล่า" เพื่อนก็สังเกตเห็นแต่พอเข้าไปใกล้ๆหน้าหอทุกคนก็ต้องตกใจงงกันเลย เพราะผู้ชายที่เราเห็นอยู่เมื่อกี้นี้เค้าหายไป ไม่มีใครนั่งอยู่ตรงนั้นเลย มันหายไปในเวลาแค่ชั่วกระพริบตาเท่านั้นเอง เรื่องนี้เดือนและเพื่อนก็เก็บความสงสัยไว้ กะว่าพรุ่งนี้เช้าจะถามคนในหอว่านัดผู้ชายมาหากันหรือเปล่า แต่เรื่องแบบนี้หอสตรีเข้าห้ามผู้ชายเข้าอยู่แล้ว และอีกอย่างเวลาตี 2 มีแต่พวกเดือนรับเพื่อนเท่านั้นที่มีกุญแจเข้าออกได้ เพราะพวกเราขออนุญาตเจ้าของหอเอาไว้ว่าต้องทำงานเลิกดึก พวกเราก็เข้ามาในหอ นอนกันนอนไปได้สักพักเพื่อนของเดือนที่ชื่อเกดกับนุ้ยก็สะกิดและกระซิบว่า "ได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นเหมือนลากรถกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง แล้วเหมือนมีเด็กหลายคนด้วย" แต่พี่คะ เดือนกับหมวยไม่ได้ยินอะไรเลย และหอของเรานั้นก็ไม่มีเด็กอยู่ด้วย ตอนนั้นคิดในใจว่าตี 3 กว่าแล้ว ใครจะมาวิ่งให้ได้ยิน ตอนนั้นเกดกับนุ้ยมีอาการกลัวมาก ซึ่งปกติแล้วเขาจะพยายามไม่อยู่ห้องกันตามลำพังอยู่แล้ว แต่เดือนไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่เพราะว่าเราไม่ได้ยินอะไร พวกเราก็ไม่ได้ลุกมาดูนะ เพราะไม่มีใครกล้าลุก
ลองคิดไปต่างๆนานา พักเดียว คราวนี้พวกเราทั้งหมด 4 คนได้ยินเสียงในห้องน้ำ เสียงเปิดน้ำไหลเอง ซึ่งน้ำไหลแรงมากทั้งๆที่พวกเรานอนกันอยู่บนเตียง ไม่มีใครเข้าห้องน้ำเลย ตอนนั้นอยากจะร้องออกมามากๆ แต่ด้วยความสงสัยมันมีมากกว่าความกลัวพวกเราจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกัน และเป็นเดือน ที่เดินนำหน้าเข้าไปในห้องน้ำและเื้อมมือไปผลักประตู พอประตูเปิดเท่านั้นเสียงน้ำไหลไม่มี รอยน้ำล้นไม่มี ไม่มีอะไรในห้องน้ำ แม้แต่น้ำในอ่างยังนิ่งสนิทไม่ขยับไหวติง แล้วเสียงเมื่อกี้ล่ะ เสียงที่มันเกิดขึ้นเสียงที่ได้ยินมันคืออะไร ทีนี้พวกเราทั้ง 4 คนรีบกลับมาที่เตียงในทันที ล้มตัวลงนอนพร้อมกับหลับตาด้วยความกลัว แต่เตือนก็ปลอบใจเพื่อนไปว่า "ไม่มีอะไร อาจเป็นเสียงสะท้อนจากห้องข้างๆ" แล้วก็ปลอบใจตัวเองไปด้วย ณ ตอนนั้นในห้องปิดไฟหมด หน้าห้องซึ่งเป็นทางเดินก็จะเปิดไฟสว่างไว้ กระจกบานเกล็ดของห้องก็จะมีอยู่แผ่นหนึ่งที่มันแตก พอจะมองเห็นหน้าห้องว่ามีใครเดินผ่านไปบ้าง เดือนก็สังเกตเห็นเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีขาวคล้ายๆเสื้อชั้นในของตำรวจ เหมือนเขาลอยชัดๆผ่านหน้าห้องไป เดือนก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนแน่นอน เพราะไม่มีเสียงเดินเลย ก็ได้แต่ข่มตานอนแล้วเผลอหลับไป
ตอนเช้าปุ๊บ พวกเราทั้งหมดตื่นขึ้นมารีบลงไปถามคุณยายเจ้าของหอทันที คุณยายก็บอกว่าไม่น่ามีอะไรนะ แต่จู่ๆระหว่างที่เราจะเดินกลับไปที่ห้องคุณยายก็พูดออกมาว่า "สงสัยน่าจะเป็นลูกของยายเขามาตรวจหอเค้ามั้ง ลูกของยายเป็นตำรวจ" พวกเราก็เบาใจไป แต่ยังไม่หมดข้อสงสัย ก็ไปถามป้าขายอาหารหน้าหออีกทีหนึ่ง ป้าแกบอกว่า "เห็นกันจริงๆหรอ คือเมื่อวานตอนหัวค่ำ มีชายวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วเค้าโดนลวดที่มีคนมาขึงไว้กับสะพานบาดคอจนเสียชีวิต แล้วเขาใส่เสื้อสีขาวเหมือนอย่างที่เดือนเห็นคืนนั้น" ป้าคนนั้นก็บอกอีกว่า "เขายังไม่รู้ตัวว่าเขาตายมั้ง รอยรถที่เขาลงไปข้างทางยังมีรอยเลือดสดๆอยู่เลย ส่วนเสียงเด็กที่ได้ยินอาจจะเป็นวิญญาณของเด็กๆที่อาจจะถูกนักศึกษาวัยรุ่นที่ไม่พร้อมทำแท้งทิ้งไว้ในหอนี้หรือเปล่า" และที่ช็อคที่สุด ที่เจ้าของหอไม่ยอมบอกเรา ก็คือ ลูกชายของแกที่ว่าเป็นตำรวจมาตรวจหอนั้นความจริงแล้วเขาตายไปตั้งนานหลายปีแล้ว ประสบอุบัติเหตุ และหอพักแห่งนี้เขาก็เป็นคนออกแบบเองและก็เป็นที่ของเขา คงจะมีความเป็นห่วงที่ตัวเอง รวมทั้งคนที่อยู่ในหอ และคนเป็นแม่ และแกก็ยังเล่าให้ฟังว่ามีคนเห็นแกบ่อยจริงเหมือนกันบางทีก็เดินอยู่ตรงที่จอดรถบ้าง ตรงส่วนหน้าของตึกบ้าง เหมือนเขายังคงเดินตรวจตราคอยดูแลหอของเขาอยู่
Post a Comment