ลองของด้วยแอพตรวจจับผี
เรื่องราวประหลาดอย่างทันสมัย เมื่อกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางสักเท่าไหร่ ด้วยความคึกคะนองพวกเขาโหลดแอพตรวจจับผี พอพวกเขามีของพวกเขาก็อยากลองของ เรื่องราวเกิดขึ้นและยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง พวกเขาได้ไปลองของที่บ้านผีหลังหนึ่งเรื่องราวก็เกิดขึ้นน่าขนลุกนัก ลองไปติดตามกันเลยครับ
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองผมมีเพื่อนที่สนิทกันอยู่สองคน พวกเราอาศัยอยู่ร่วมห้องเดียวกัน พวกผมนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี ก็มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็ได้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเข้าไปโหลดแอปพลิเคชั่นอยู่แอพนึงที่เขาเรียกกันว่าเรดาร์จับผี เพื่อนของเพื่อนคนที่ไปโหลดมานั้นเป็นคนที่ไม่กลัวผีเลย เป็นคนต่างจังหวัด และตัวเขาก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้
เรื่องลึกลับนั้นไม่มีอยู่ในหัวเลย พอเพื่อนคนที่ว่าโหลดแอพพลิเคชั่นตัวนี้เสร็จ ก็ได้นำแอพนี้มาให้พวกเราได้ดูกัน เขาก็ยังบอกอีกว่า "เฮ้ย เราได้ไปโหลดแอพจับผีมา พวกเราลองไปหาจับผีกันดูไหม" ตัวผมเองนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เนื่องจากคิดว่าเพื่อนน่าจะพูดเล่นๆแล้วตัวของผมเองก็เป็นคนที่กลัวผีมาก
ตอนที่เพื่อนมาชวนเนี่ยเวลาประมาณช่วงเย็นๆเข้าไปแล้ว ตอนนั้นทุกคนก็เพิ่งจะเลิกเรียนกันมา ก็นั่งคุยกันไปเล่นคอมกันไปจนเวลาล่วงเลยไปเข้าสู่กลางคืน เพื่อนคนที่โหลดแอพตัวนี้มาก็ได้บอกกับทุกคนว่า "เฮ้ย เตรียมตัวกันเลยนะ เดี๋ยวเที่ยงคืนพวกเราออกไปดูผีกัน" เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ได้ยิน ก็ตอบกลับไปว่า "เอาก็เอา ออกไปลองจับกัน" ตอนนั้นในใจของผมคิดว่า ซวยแล้ว เพื่อนอยากลองกันหมดแต่ระหว่างที่รอเวลาถึงเที่ยงคืนก็เผลอหลับกันไป แต่ว่าเจ้าเพื่อนตัวดีนั้นดันตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนเที่ยงคืน นาฬิกาดังลั่นห้อง ทุกคนก็เลยตื่นเจ้าเพื่อนตัวแสบนั้นก็รีบพูดว่า "เราไปกันเถอะ ได้เวลาแล้ว" ตัวของผมเองก็คิดในใจว่า เอาก็เอา ในเมื่อเพื่อนเขาอยากลองกัน ไปก็ไปจะได้จบแล้วก็เลิกงมงายกับแอพตัวนี้สักที ทุกคนก็เตรียมตัวกัน เวลาเที่ยงคืนกว่า ผมและเพื่อนก็พร้อมเดินออกมาจากหอพัก ตอนนั้นเพื่อนคนนึงก็ทักว่า "แล้วพวกเราจะไปที่ไหนกัน เดี๋ยวยามได้ยินโดนด่าพอดี" เจ้าเพื่อนตัวแสบก็รีบนำเสนอทันทีว่า "มีตึกร้างอยู่ที่นึง ตั้งอยู่ท้ายซอยเลยจำไม่ได้หรอ หอที่โดนไฟไหม้เมื่อปีก่อนไง เห็นชาวบ้านเค้าว่ากันว่าผีดุ"
ทีนี้พอทุกคนตกลงกันเสร็จ ก็เดินมุ่งหน้าไปที่หอพักแห่งนั้น ลักษณะของหอพักที่เกิดเหตุตั้งอยู่ท้ายซอย เป็นตึกสูง 10 ชั้นแต่ว่าเมื่อปีที่แล้วได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ทำให้หอพักแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และที่สำคัญน่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ มีผู้อาศัยที่โชคร้ายโดนไฟคลอกตายทั้งหมด 12 คน เราทุกคนไปถึงหน้าตึกร้างนั้นเพื่อนก็ทักว่า "ไหน เอาแอพตัวนั้นมาดูหน่อย" เพื่อนคนที่โหลดมาก็หยิบขึ้นมา
ให้ดู มันก็เป็นแอพที่มีลักษณะเหมือนกับเรดาร์ดีๆนี่เองครับ เปิดแอพตัวนี้ขึ้นมามันก็จะเป็นเรดาร์หมุนๆ พอจุดไหนมีวิญญาณแอพตัวนี้มันก็จะส่งเสียงร้องดังๆออกมา แล้วถ้าเกิดเราเดินเข้าใกล้วิญญาณมากเท่าไหร่เสียงนั้นมันก็จะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ พอเพื่อนเปิดแอปพลิเคชั่นเสร็จทุกคนรวมทั้งผมก็เดินตรงมุ่งหน้าเข้าไปที่หอพักแห่งนี้ทันที ค่อยๆเดินขึ้นไปทีละชั้น
ก็เดินขึ้นไปถึงชั้น 3 แอพเจ้ากรรมมันก็เริ่มร้องเสียงดัง ติ๊ด ติ๊ด ขึ้นมาทีนึง เอาละสิ เราทั้งสามหยุดเดินทันที มองหน้ากันแล้วก็จ้องไปที่จอของโทรศัพท์ ในหน้าจอนั้นก็ยังคงเป็นหน้าจอเรดาร์ปกติ ไม่มีอะไรโชว์ขึ้นมา ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก ได้บอกกับเพื่อนว่า"เฮ้ย เลิกเหอะ ง่วงแล้วพรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า" เพื่อนตัวแสบก็รีบสวนขึ้นมาว่า "โถ.. กลัวบอกมาเหอะ จะกลับน่ะ ถ้าจะกลับก็กลับไป
คนเดียวเลย" ใครล่ะครับจะกล้าเดินกลับลงไป 2 ชั้นคนเดียว ในใจคิดแบบนั้นก็เลยตัดสินใจตามเพื่อนเดินต่อไป อีกแค่ 7 ชั้นก็จะถึงชั้น 10 รีบเดินรีบกลับหอกันจะดีกว่า แล้วพวกเราทุกคนก็ค่อยๆเดินมุ่งหน้าขึ้นไปชั้น 4 ชั้น 5 ชั้น 6 ชั้น 7 ทุกอย่างยังคงไม่มีอะไรต้องบอกก่อนนะครับว่าที่พวกเราเดินกันนี้ ไม่ได้สำรวจทุกห้อง แค่เดินขึ้นไปทีละชั้น กะว่าพอถึงชั้นบนสุดก็เดินลงกลับกันแค่นั้นเอง
ทีนี้พอพวกผมทุกคนกำลังจะก้าวขึ้นบันไดที่ชั้น 8 ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ไอ้เจ้าแอพนั่นมันดังขึ้นมาอีกครั้ง ที่นี้มันดังรัวมันดังถี่มาก แต่ว่าเสียงนั้นค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆเลย ในใจตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว เพื่อนคนที่ชวนก็พูดออกมาว่า "เอาแล้ว เอาแล้ว พวกเราเจอเข้าแล้ว" แล้วเราทั้งสามก็เกาะกลุ่มกัน ค่อยๆเดินขึ้นไปต่อทีละขั้น ขึ้นบันไดที่ละขั้น ทีละขั้น เรดาร์ก็ค่อยๆดังถี่ขึ้น พอก้าวขาขึ้นมายืนบนชั้น 8 ได้ ไอ้เจ้าเรดาร์เนี่ยมันไม่ดัง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แล้วนะครับ มันดัง ติ๊ดๆๆๆๆ แบบรัวๆ ดังติดต่อกันแบบไม่เว้นระยะเป็นเสียงลากยาวๆเลย ระหว่างที่ทุกคนกำลังผวากับเจ้าเสียงเรด้าร์นั้น ก็มีเสียงปิดประตูดัง ปัง! เสียงนั้นมันดังแรงมากจนทุกคนแทบจะกอดกันอยู่แล้ว ระหว่างทางที่เดินขึ้นมาจากชั้น 1 ถึงชั้น 7 ก็ไม่ได้มีลม ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ แต่ว่าพอมาถึงชั้น 8 เรดาร์ดังแล้วก็มีเสียงปิดประตูดังตามมา มันหมายความว่าอะไร
ระหว่างที่พวกเรากำลังยืนงงๆอยู่ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้ครับ ทุกคนได้ยินเสียง เป็นเสียงเดียวกันว่า "ไฟไหม้! ไฟไหม้!ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!" เสียงที่กำลังได้ยินอยู่นั้นไม่ใช่เสียงของคนคนเดียว แต่ว่าลักษณะของเสียงคือเสียงของหลายๆคน กำลังตะโกนออกมาพร้อมกัน ในวินาทีนั้นผมบอกได้เลยว่ากลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก จะตะโกนให้ใครมาช่วยก็ไม่ได้ เพราะว่ามากันแค่ 3 คน ขาของผมแข็งจนก้าวแทบไม่ออก หัวใจของผมเต้นรัวเหมือนกับว่ากำลังจะออกมาเต้นนอกหน้าอกด้วยซ้ำ แค่นั้นก็นับว่าหนักแล้ว แต่สิ่งที่ตามมานี่ยิ่งกว่าเพราะพวกเราทุกคนกำลังได้ยินเสียงคนจำนวนมาก เป็นเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งลงมาจากชั้น 9 ซึ่งมันกำลังดังอยู่บนหัวของพวกเรานี่เองตอนนั้นเสียงต่างๆรอบข้างมันดังจนกลบเสียงของเรดาร์ไปแล้ว คิดว่าถ้าเกิดยืนอยู่ต่อแล้วได้เห็นอะไรอาจจะสลบไปตรงนั้นจริงๆ
จึงตัดสินใจเรียกกำลังเฮือกสุดท้ายกระชากแขนของเพื่อนทั้งสองแล้วพูดออกมาว่า "เฮ้ยวิ่ง!" พวกผมทุกคนนั้นรีบวิ่งกันแบบไม่คิดชีวิตเลยไม่มีแม้แต่จะหันกลับไปมองด้านหลังว่ามีอะไรวิ่งตามมาหรือไม่ แต่ว่าเสียงฝีเท้าวิ่งกระทบกับพื้นนั้นดังสนั่นไปทั้งชั้น ยังคงวิ่งไล่อยู่ที่ด้านหลังของพวกเรา
เสียงนั้นวิ่งตามลงมาตลอดทางผ่านชั้น 8 ชั้น 7 ชั้น 6 แต่ว่าสิ่งที่แปลกประหลาดอีกอย่างก็คือพอวิ่งพ้นชั้น 6 ลงมา พวกผมทั้งสามคนออกมาโผล่ที่หน้าตึกได้ยังไง ทุกคนจับมือกัน ยืนงงได้แค่ไม่กี่วินาที แล้วก็ตัดสินใจวิ่งออกห่างจากหอพักนั้นไปอีกประมาณ 500 ม.พอทุกคนคิดว่าห่างพอสมควรแล้ว จึงล้มตัวลงกับพื้นด้วยกัน ด้วยความเหนื่อยกับการวิ่งไม่คิดชีวิต เพื่อนคนหนึ่งก็รีบลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อ
เจ้าเพื่อนตัวแสบ แล้วก็บอกว่า "ไงล่ะ เอาแต่คิดจะเล่น" แต่ว่าแต่เพื่อนคนนั้นไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่หันมองหน้าเพื่อน แต่ว่ากำลังมีใบหน้าที่ซีดเผือด ตาเหลือก จ้องมองไปที่หอพักที่เพิ่งจะวิ่งออกมา ผมกับเพื่อนจึงหันหลังกลับไปมองตาม สิ่งที่เห็นก็คือ มีผู้ชายตัวใหญ่ตัวใหญ่มากๆ ขนาดพวกผมอยู่ห่างแล้วยังเห็นชัดเจน เนื้อตัวนั้นมีแต่แผล จ้องมองมาที่ผมทั้งสามคนอย่างดุดัน ชายคนนั้นกำลังมองมา
ที่พวกผม แล้วก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้า แค่นั้นเองทุกคนรีบวิ่งกลับหอกันแบบไม่ได้คุยกันอีกเลย เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...
Post a Comment