อยู่ในป่าอย่าร้องทัก
เรื่องราวที่ไม่อาจลืม เป็นประสบการณ์จริงของคุณแม็คเมื่อ5ปีก่อนที่จังหวัดบึงกาฬ เรื่องของการเข้าป่าลึกที่มีข้อห้ามต่างๆเช่นห้ามทัก ไม่อย่างงั้นจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดถึงชีวิตได้เลยในป่าที่มีอาถรรพ์ ลองไปติดตามการเอาตัวรอดของพวกเขาได้ว่าจะรอดกันออกมาจากป่านี้ได้หรือไม่
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่จังหวัดบึงกาฬ เมื่อห้าปีที่ผ่านมา คุณพ่อของคุณแม็คเป็นคนที่ชอบเข้าป่าหาของป่า แล้วที่หมู่บ้านจะมีพรานที่คุณพ่อรู้จักอยู่คนนึง จึงชวนกันเข้าป่าหาของป่า และชวนคนอื่นๆไปด้วยทั้งหมดเจ็ดคน รวมทั้งคุณแม็คก็ได้เข้าไปด้วย แล้วก่อนจะออกเดินทาง ได้มีคนมาเพิ่มอีกคนนึง ชื่อบอล เป็นทหารปลดประจำการ รวมทั้งหมดเป็นแปดคน แล้วพรานก็ได้บอกข้อห้ามก็ของการป่าว่า เมื่อเจออะไรที่เป็นสิ่งที่ไม่ปกติ ห้ามทัก เช่น ต้นไม้ใหญ่ หินก้อนใหญ่ ให้เก็บความสงสัยไว้จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า ตอนลงมาจากเขาแล้ว
ทุกคนจึงเดินทางออกจากบ้านประมาณห้าโมงเย็น พอถึงตีนเขา พรานก็ได้ทำพิธีเปิดป่า ซึ่งมีพวกอาหารใส่ในกระทง แล้วก็เหล้าขาว แล้วก็เอาธูปปัก แล้วพรานก็ได้นำกล่าวว่า เรามาเดินป่าในครั้งนี้ เพื่อมาหาสัตว์ป่าที่หมดอายุไขแล้ว เราไม่ได้มาเบียดเบียนสัตว์ เราจะให้เจ้าป่าเอาสัตว์ที่หมดอายุแล้วมาหาเรา ทุกคนจุดธูปแล้วนั่งไหว้กันหมด ยกเว้นคุณบอล ที่ไปจุดบุหรี่สูบอยู่ข้างหลัง พรานจึงเรียกมาให้ทำพิธีก่อน คุณบอลก็ตอบว่า "เออไม่เป็นไรหรอก ใครทำก็เหมือนกันนั่นแหละ ขึ้นด้วยกัน" ซึ่งพรานก็ดูจะไม่พอใจมาก
พอเสร็จพิธีก็เตรียมเดินขึ้นเขากัน ทุกคนจะมีปืนคนละกระบอก และไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่ และมีสุนักไปด้วยสามตัว เพื่อใช้ในการดมกลิ่น คุณแม็คเองเคยขึ้นเข้าป่ามาแล้วครั้งนึง ในป่าจะมีเสียงนกเสียงช้างและเสียงสัตว์ป่าต่างๆ เพราะเป็นป่าใหญ่ แต่ ณ วันนี้กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย สัตว์เล็กๆอย่างจิ้งหรีดก็ไม่ได้ยิน หรือแม้แต่เสียงไม้ที่ถูกลมพัดให้สูสีกันก็ยังไม่ได้ยิน ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง ซึ่งคุณแม็คก็คิดว่าแบบนี้มันไม่น่าจะปกติ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเราก็ได้ทำพิธีแล้วจึงรู้สึกเบาใจลงมานิดนึง
พอเดินขึ้นเขากันจนเวลาประมาณสองทุ่ม เจอต้นไม้ที่มีลักษณะใหญ่มา คุณบอลก็ทักขึ้นมาทันทีว่า "นี่มันต้นไม้อะไร ทำไมมันใหญ่แบบนี้" แล้วเอามีดไปแกะสลักชื่อของตนเองลงไปที่ผิวของต้นไม้ ซึ่งพรานก็ได้คุยกันว่าไม่น่าพามันมาด้วยเลย และก็ได้เดินกันต่อไปจนถึงเที่ยงคืน ทุกอย่างก็เงียบ ก็เลยหยุดพักกันก่อน หุงหาอาหารกัน จนถึงเวลาประมาณตีสอง ป่าก็ยังเงียบ จากนั้นก็ไปหาที่นั่งสุ่มยิงสัตว์กันต่อจนถึงตีห้า ก็ได้ยินเสียงสุนักเห่าดังมาก ทุกคนจึงได้วิ่งกันไปทางต้นเสียง ไปเจอค่างอยู่บนต้นไม้ ลักษณะตัวใหญ่ สีดำ พรานจึงสั่งให้ยิง ทุกคนจึงยิงจนค่างตกลงมา แล้วหมาก็วิ่งเข้าไปกัดซ้ำ แต่ค่างมันยังไม่ตาย แล้วมันก็ลุกขึ้นมาสู้กับหมา แล้วกัดคอหมาตายไปหนึ่งตัว พรานเห็นท่าไม่ดีจึงเดินไปถือไม้มาฟาดเข้าไปที่ตัวค่างจนมันตาย จากนั้นพรานก็ทำพิธีขอค่างตัวนี้จากเจ้าป่า
แล้วทุกคนก็หาไม้แล้วเอาเชือกมามัดทำเป็นแคร่เล็กๆเอาไว้หามค่าง ระหว่างที่ทุกคนกำลังเก็บของเตรียมจะกลับ คุณบอลก็ได้เดินไปแหย่ค่างตัวนี้เล่น จนพรานด่าว่าห้ามทำแบบนั้น เดี๋ยวพอกลับถึงที่บ้านแล้วเดี๋ยวจะเจอดี คุณบอลก็ไม่สนใจ แล้วก็เดินลงไปที่รถก่อน ทุกคนเลยช่วยกันหามค่างลงไปที่รถ แล้วกลับเข้าหมู่บ้าน พอถึงหมู่บ้านทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน พอตกเวลาบ่ายโมงของอีกวัน ทุกคนก็มารวมตัวกันเพื่อที่จะแบ่งเนื้อค่างกัน แต่ขาดคุณบอลคนเดียว จึงให้เด็กวิ่งไปตาม
สักพักเด็กวิ่งกลับมาแบบหน้าตาตื่นแล้วบอกว่า "พี่บอลทำท่าทางแปลกๆ เหมือนลิง แล้วก็เดินรอบบ้าน แล้วผมร่วงหมดหัวเลย" ทุกคนจึงรีบไปดู ไปเจอคุณบอลในสภาพที่นอนอยู่บนเตียง บนหมอนมีแต่เส้นผม แล้วนอนขดเกร็งและสั่นเหมือนคนหนาว ทุกคนก็ถาม แต่คุณบอลก็ไม่ยอมพูดอะไร จึงได้พาคุณบอลไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นไข้ป่า หรืออาจจะโดนพิษของแมลง เลยไข้ขึ้น
ทุกคนเลยโทรตามคุณพ่อและคุณแม่ของคุณบอลมาเฝ้า ผ่านไปสามวันอาการของคุณบอลไม่ดีขึ้นเลย เพ้อถึงป่ากับลิงอยู่ตลอดเวลา จนเตียงข้างๆต้องย้ายไปที่อื่นเพราะกลัว พอคุณแม็คและคนอื่นๆเห็นท่าไม่ดี จึงได้ไปปรึกษาหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงบอกว่าให้ไปขอขมาซะ ให้ทำพิธีขอขมาที่ตีนเข้าตรงทางขึ้นเขา ก่อนที่มันจะสายไปมากกว่านี้ เพราะเวลามันเกินมานานแล้ว ทุกคนจึงได้ไปขอขมาตรงที่เดิม ก็ได้เตรียมเหล้ากับไก่หลายตัวมาทำพิธีขอขมา โดยคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณบอลก็มาด้วย และมีชาวบ้านตามมาด้วยอีกหลายคน
พอขับรถมาถึงตีนเข้า คุณบอลก็เกิดอาการชัก แล้วทำท่าเหมือนลิง แล้ววิ่งรอบรถ เหมือนคนบ้า ดวงตาเป็นสีแดงเหมือนโดนคนชกลูกตาจนเกิดเลือดคลั่งทั้งสองข้าง ร้องโวยวายอยู่ตลอดเวลาแล้วไปล้มลงหน้าที่ทำพิธีแล้วขาดใจตาย ทุกคนตกใจมาก ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงแบบนี้ และสงสัยกันว่าตายด้วยสาเหตุอะไร จึงนำศพกลับไปให้โรงพยาบาลตรวจสอบดู แพทย์บอกว่าเป็นอาการของลมบ้าหมู แล้วกัดลิ้นตัวเอง
ทุกคนรวมถึงคุณแม็คเองไม่เชื่อว่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ เพราะอาการนี้เหมือนกันกับตอนที่ค่างถูกยิงแล้วตกลงมาจากต้นไม้ แล้วสู้กับหมา อากัปกิริยาของคุณบอลเหมือนกับค่างตัวนั้น ณ ตอนนั้นเลย จานวันนั้นมา คุณแม็คก็ไม่กล้าขึ้นไปที่เขาลูกนั้นอีกเลย ถึงแม้ใครจะชวนไปอีกก็ตาม และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment