รถเข็นผีสิง



          เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่เกิดขึ้นจริงและหลอนมากเกิดขึ้นเมื่อปี2012 เรื่องราวของสิ่งของที่นำมาจากโรงพยาบาลเก่าร้าง กับของที่หยิบมาจากโรงพยาบาลร้องใช้ต่อและวิญญาณตามหลอกหลอน รับรองครับว่าเรื่องนี้โหดและสุดสยองน่าขนลุกมากครับ ลองไปติดตามเรื่องนี้กันเลยครับ

          เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดของพี่เขานั้นเกิดขึ้นมาประมาณ 3 ปีที่แล้ว เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแถวๆนวนคร เรื่องทั้งหมดก็มีอยู่ว่า เมื่อ 3 ปีก่อนพี่ข้างบ้านของผมชื่อว่าพี่นุอาศัยอยู่ในห้องเช่าย่านนวนคร และสถานะในตอนนั้นพี่นุก็ค่อนข้างจะยากจนมาก พี่นุอยู่กับแม่เพียงแค่ 2 คน ทุกๆวันพี่นุ
ก็จะทำงานตามปกติ ส่วนแม่นั้นไม่ค่อยสบาย

            ก็มีวันหนึ่งแม่พี่นุเกิดล้มลง ในขณะที่กำลังไปเข้าห้องน้ำเกิดอาการขาอ่อนแรงทำให้ทรุดตัวลงและก็ปัสสาวะราดอยู่หน้าห้องน้ำ แต่ว่าตัวพี่นุไม่อยู่บ้าน กำลังทำงานอยู่ ทำให้แม่ของพี่นุต้องนอนกองอยู่อย่างนั้นลำพังคนเดียว จนกระทั่งเวลาผ่านไป พี่นุกลับมาถึงบ้าน เวลาตอนนั้น 2 ทุ่มกว่าๆ พอพี่นุเปิดประตูบ้านเข้ามาก็เห็นแม่นอนกองอยู่แบบนั้น ลุกไม่ขึ้น พี่นุตกใจมากรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของคุณแม่ แล้วก็นำเงินที่มีในตัวตอนนั้นทั้งหมดใช้เป็นค่ารถพาแม่ไปโรงพยาบาล หลังจากถึงมือหมอแล้ว สุดท้ายคุณหมอก็ให้คุณแม่ของพี่นุนั้นนอนพักฟื้น เนื่องจากแม่มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ พี่นุก็เลยจำเป็นต้องโทรไปหาหัวหน้าเพื่อเบิกเงินเป็นค่าใช้จ่าย

            เวลาผ่านไปประมาณ 5 วัน พี่นุนั้นต้องมาเฝ้าคุณแม่ทุกวันจนงานเริ่มจะเสียเนื่องจากนอนไม่เต็มที่ พอเห็นอาการของคุณแม่เริ่มจะดีขึ้นก็เลยขอหมอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ด้วยความที่เงินก็มีไม่มากพอและยังต้องจ่ายค่ายาอีกหลายพันการกลับไปพักฟื้นที่บ้านน่าจะประหยัดกว่านี้หลังจากจัดการค่าใช้จ่ายที่ รพ.เรียบร้อยแล้วพี่นุก็อุ้มคุณแม่ขึ้นรถแท็กซี่กลับไปพักฟื้นที่บ้าน และเรื่องราวไม่คาดฝันมันก็อยู่ตรงนี้นั่นเอง พี่นุไม่อยากให้คุณแม่เดินอีก กลัวว่าคุณแม่จะล้มลงอีกครั้ง ก็เลยพยายามเสาะหารุเข็นวีลแชร์ราคาถูกๆเนื่องจากเงินไม่ค่อยจะมี ก็ปรากฏว่ามีเพื่อนของพี่นุคนหนึ่งบอกว่า "เออ มันมี รพ.ร้างอยู่แถวๆนี้ เครื่องไม้เครื่องมือก็ยังพอมีเห็นอยู่ ลองเข้าไปดูสิ เผื่อจะได้มาใช้" พี่นุด้วยความที่ไม่อยากจะเสียเงินจึงเห็นดีด้วย

            เที่ยงวันหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุด พี่นุก็นัดกับเพื่อนไปที่ รพ.ร้างแห่งนั้น ก็ปรากฏว่าได้เจอกับรถวีลแชร์จริงๆ มันเป็น รพ.ร้างย่านนวนคร ก็ไม่ยากนักที่จะไปหยิบของนั้นออกมา หลังจากนั้นก็นำมาขัดล้างกันนิดหน่อยพอให้แม่ได้ใช้ หลังจากนั้นก็เอาใส่รถเพื่อนนำกลับมาที่บ้าน ซ่อมนิดๆหน่อยๆ ก็สามารถนำมาใช้งานได้ พี่นุนั้นเอามาไว้ให้คุณแม่นั่งเวลาอยากออกไปตากลมหน้าบ้านจะได้สะดวกขึ้น

            วันเวลาก็ล่วงผ่านไป 7-8 วัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นปกติ จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่นุกลับไปถึงที่บ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณแม่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์คันนั้น หันหลังให้กับประตู และก็กำลังโบกมือปัดๆ เหมือนกับกำลังปัดแมลง พี่นุจึงรีบเดินเข้าไปดูก็เห็นคุณแม่กำลังหรี่ตาและก็พยายามปัด แม่เห็นพี่นุก็เลยตะโกนบอกว่า "นุๆ แม่แสบตา เค้าเอาไฟมาส่องตาแม่" พี่นุได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ ถามแม่กลับไปว่า "ส่องตาอะไรแม่แสงอะไร" แม่ก็ตอบกลับไปม่ "หมอไง หมอพาแม่มานอน แม่แสบตา" พี่นุได้ยินแบบนั้นเริ่มใจไม่ดี ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากห่วงแม่ก็เลยถอดสร้อยพระออกมาคล้องคอให้แม่แล้วก็พาแม่ไปนอน

            คืนนั้นพี่นุก็นอนคิดอยู่ทั้งคืนเรื่องที่แม่เพ้อ จนเวลาเข้าสู่ประมาณตี 1 พี่นุก็รู้สึกตัวตื่นเนื่องจากปวดท้องเบา แต่ในจังหวะที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั้นพี่นุก็ได้ยินเสียงดัง แกร๊กๆ แอ๊ดๆ ซึ่งเสียงนั้นมันเป็นเสียงที่คุ้นหูเวลาพี่นุพาคุณแม่นั่งบนรถวีลแชร์ก็จะมีเสียงแบบนี้ทุกครั้ง พี่นุเตรียมจะลุกขึ้นแต่แล้วก็ตัดสินใจนอนต่อ แล้วสายตาก็จับจ้องมองไปยังที่ที่แม่นอนอยู่ ก็ปรากฏว่าแม่ไม่อยู่เหลือแต่ที่นอน แค่นั้นเองพี่นุก็รีบลุกพรวดพราดเดินไปเปิดไฟ แล้วก็เห็นแม่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พี่นุถามแม่ว่า "แม่ ลุกมาทำอะไร" แม่ตอบกลับมาว่า "ก็พยาบาลเขามาปลุกแม่ เขาบอกให้แม่มารอผ่าตัด" พี่นุได้ฟังแค่นั้นก็ถึงกับตัวชา เริ่มจะเครียด แล้วบอกกับแม่ว่า "แม่ เราอยู่บ้าน ไม่ได้อยู่โรงพยาบาล เดี๋ยวผมจะพาไปนอนนะ" พอพี่นุอุ้มแม่
กลับไปนอนเป็นที่เรียบร้อย รอจนแม่หลับ พี่นุก็กลับไปนอนต่อที่นอนของตัวเอง แล้วก็คิดในใจว่า แม่อาจจะเพ้อยา  พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้จนกระทั่งพี่นุผล็อยหลับไป

             แล้วคืนนั้นพี่นุก็ฝัน ความฝันนั้นมีดังนี้ พี่นุเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาแตะบ่า ชายคนนั้นใส่ชุดแบบบุรุษพยาบาล แล้วชายคนนั้นก็พูดกับพี่นุว่า "ของใช้ของโรงพยาบาลเมิงหยิบเอามาบ้านได้ยังไง" ความฝันมีเพียงเท่านั้น รุ่งเช้าวันต่อมา พี่นุตื่นขึ้นก็คิดไปคิดมาเกิดความไม่สบายใจก็เลยปรึกษากับเพื่อน คิดว่าให้ช่วยกันนำรถเข็นคันนี้กลับไปคืนที่เดิมจะดีกว่า หลังจากนั้นพี่นุกับเพื่อนก็นำรถเข็นวีลแชร์คันนั้นกลับเอาไปคืนที่โรงพยาบาลร้าง

             เวลาผ่านไปประมาณซัก 2-3 วัน อาการของแม่พี่นุนั้นก็ไม่ดีขึ้น มีแต่กลับแย่ลง และเช้าวันหนึ่งก่อนที่พี่นุจะออกจากบ้านไปทำงานนั้นแม่ก็ได้บอกกับพี่นุว่า "วันนี้จะมีคนเข็นรถพาแม่ไปเที่ยว" พี่นุนั้นก็คิดว่าแม่อาจจะเพ้อยาแบบที่เคยเป็น ก็ออกไปทำงาน และวันนั้นพอพี่นุเลิกงานกลับมาถึงที่บ้านก็พบกับคุณแม่ซึ่งไม่หายใจอีกต่อไป นอนเสียชีวิตอยู่ตรงบริเวณที่นอนในอาการที่เหมือนกับคนนอนหลับไปเฉยๆ พี่นุรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...

ไม่มีความคิดเห็น