ปากดีได้เรื่อง
เรื่องราวและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงของคุณทอย เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วในสมัยที่คุณทอยเรียนอยู่โรงเรียนเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โรงเรียนอยู่ย่านสหนามหลวง โรงเรียนมีชื่อเสียงในด้านดนตรีนาฏศิลป์ โรงเรียนเก่าแห่งนี้มีเรื่องเล่า และประวัติความเป็นมาและเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆมากมาย และคนที่อาศัยอยู่แถบย่านั้นจะรู้จักกันดี ทุกๆปีโรงเรียนจะมีกิจกรรมการไหว้ครูดนตรีไทยและนาฏศิลป์ ทอยได้สัมผัสถึงประเพณีอันดีงามเมื่อปีแรกเข้าทอยต้องร่วมพิธีไหว้ครูดนตรีไทยที่สนามหลวงด้วย ก่อนงานวันไหว้ครู 1 คืน นร.ที่ไปร่วมงานจะต้องไปนอนค้างที่ รร.ด้วย ซึ่งเขาจะเรียกกันว่า "คืนสุกดิบ" ตึกที่ทอยต้องอาศัยนอนในคืนนั้นก็คือเรือนนอนเก่า
ในคืนนั้นเองเหล่าบรรดารุ่นพี่ก็เล่าให้ฟังว่าตึกนี้ในทุกๆคืนจะมีเสียงดนตรีไทยบรรเลงทั้งคืน ทั้งๆที่ตึกนี้ไม่มีใครนอนอยู่ชั้นบนเลย และหลายๆจุดใน รร.แห่งนี้ก็เป็นอย่างที่บอกไปในตอนต้นว่ามีประวัติมากมาย เคยมีคนตายอยู่หลายจุด แต่เนื่องด้วยในขณะนั้นทอยยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยคะนอง เป็นวัยที่ยังไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แถมทอยเป็นคนปากเสียและก็ไม่มีความเชื่อในเรื่องผี เลยพูดท้าทายออกไปว่า "ถ้าเกิดที่ รร.แห่งนี้มีผีอยู่จริงๆ คืนนี้มาให้เจอหน่อย ถ้าเกิดมาจริงจะขอหวยให้ดู" เหล่าบรรดารุ่นพี่ที่นั่งอยู่ในวงสนทนาก็พูดสวนขึ้นมาว่า "ระวังให้ดีเหอะ ปากเสียแบบนี้ เห็นคนที่พูดอย่างนี้เจอดีมาหลายคนแล้ว" และด้วยความที่ทอยไม่สนใจในคำพูดเหล่านั้นจึงไม่คิดอะไร เดินแยกออกมาจากวง
ทอยเดินออกมาข้างนอกตึก ระหว่างที่เดินออกมาก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยจริงๆ ทอยจึงพูดออกไปว่า "โห เสียงเพลงเพราะจัง คืนนี้ขอเพลงหวานๆนะมากล่อมที" พอพูดจบ ทอยก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างตกลงมาจากตึกเรือนนอน ทอยหันไปดูเป็นเทปคาสเซ็ท ในใจทอยก็คิดว่า เอ๊ะ ใครมาทำเทปอะไรตกไว้แถวนี้ หันไปมองรอบๆก็ไม่มีใครเลย ทอยจึงหยิบเทปนั้นขึ้นมา หน้าปกเป็นเทปที่เอาไว้สำหรับอัด
เป็นกระดาษขาวๆเขียนไว้ว่า "เดี่ยวกราวใน ครูสอน" ทอยก็คิดเอาเองในใจว่า ด้วยความที่เพลงนี้เป็นสุดยอดเพลงเดี่ยวและในบริเวณนั้นก็ไม่ได้มีเจ้าของ พลอยจึงเก็บไปโดยที่ไม่ได้บอกใคร
ในสมัยนั้นยังใช้ซาวด์อะเบาท์หรือเครื่องเล่นเทปขนาดพกพากันอยู่ ตอนที่ทอยจะเข้านอนนั้นพลอยก็หยิบมาฟัง ตอนแรกที่ฟังก็ได้ยินเสียงคนตีฆ้อง ทอยฟังไปได้สักพัก อยู่ดีๆก็มีเสียงคนไอขึ้นมาดังมาจากในเทป ทอยไม่ได้สนใจอะไรนั่งฟังไปเรื่อยๆ เสียงไอก็เริ่มดังขึ้น ดังขึ้นและไอถี่มากกว่าเดิม แล้วเสียงเทปนั้นก็ขาดหายไปเหมือนยังไม่จบเพลง แต่ในขณะเดียวกัน บรรยากาศรอบๆในตอนนั้นกลับมีเสียงหมาหอนดังมากแล้วก็มีเสียงคนเดิน เสียงคนเดินอยู่ในห้องในขณะที่ทุกๆคนเข้านอนกันหมดแล้ว ตอนนั้นในใจของทอยเริ่มกลัว กลัวกับสิ่งที่รุ่นพี่เคยพูดไว้ สิ่งที่รุ่นพี่พูดนั้นจะเป็นเรื่องจริงรึเปล่า ขณะนั้นในหัวของทอยคิดวนไปวนมาแต่เรื่องนี้ เริ่มกลัวอยู่เหมือนกันจึงพยายามปลุกรุ่นพี่ ให้รุ่นพี่ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อน แต่รุ่นพี่ก็ยังคงหลับไม่รู้สึกใดๆทั้งสิ้น
ในระหว่างที่กำลังปลุกรุ่นพี่อยู่นั้น สายตาของทอยหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้ชายแก่ๆ อายุมากแล้ว แต่ข้างๆมีนางรำอีก 2 ตน นางรำทั้งสองที่อยู่ข้างๆนั้นมีผิวขาวซีด ร่างกายมีรอยช้ำเลือดช้ำหนองเต็มตัวไปหมดกำลังเดินเข้ามา ชายคนนั้นแต่งตัวเหมือนคนโบราณพูดขึ้นมาเบาๆว่า "เอาเทปข้าคืนมาก่อน" ในขณะนั้นนางรำทั้ง 2 ตนได้ดึงหัวของตัวเองออกมาแล้วก็วางกลับที่เดิม แล้วก็ดึงออกมาวางกลับที่เดิม ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้ง พร้อมๆกับชี้นิ้วมาทางหน้าของทอย สายตาของพวกเขาน่ากลัวมาก ตอนนั้นทอยตกใจกลัวสุดขีดจึงตะโกนลั่นห้องว่า "อยากได้ก็เอาคืนไป" พร้อมกับปาเทปไปที่ชายคนนั้น เท่านั้นแหละทุกคนในห้องตื่นขึ้นพร้อมกับมารุมถามทอยว่า "เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดขนาดนั้น" แล้วทอยก็เป็นลมหมดสติไปยันเช้าเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันไหว้ครู ระหว่างที่ไหว้ครูอยู่นั้นพลอยก็มองไปเห็นภาพของผู้ชายคนหนึ่ง เป็นภาพผู้ชายแก่ๆที่เจอเมื่อคืนนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเวที ทอยจึงบอกกับรุ่นพี่ว่า "นี่แหละ ผู้ชายคนนี้แหละที่ผมเจอเมื่อคืน" รุ่นพี่ก็พูดว่า "เห้อ โดยกันอีกแล้วละสิ" ภายหลังต่อมาทอยมาทราบความจริงทั้งหมดว่าผู้ชายคนนั้นก็คือครูสอนวงฆ้อง ท่านหัวใจวายเสียชีวิตในฆ้องวงระหว่างอัดเพลงเดี่ยวกราวใน รุ่นพี่คนนั้นบอกว่าครูสอนตายจึงไม่ได้ต่อเพลงเดี่ยวนี้ใคร แล้วก็ไม่ให้ใครฟังทั้งนั้น สิ่งที่ทอยได้เจอคืนนั้น อาจเป็นเพราะว่าครูท่านนี้อาจจะหวงเพลงที่ตนรักมาก และนางรำที่เห็นอยู่ก็มาทราบภายหลังเหมือนกันว่านั่นคืออดีตครูที่ รร.เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปแสดงที่ต่างประเทศ
ปัจจุบันนี้หุ่นตัวพระตัวนางที่พูดถึงอยู่ที่ตึกอำนวยการแห่งนี้ แหละเหตุการณ์ทั้งหมดมันก็ได้สอนให้ทอยไม่ปากดีอีกแล้ว
Post a Comment