รถในตำนาน ภาค2


          ต่อกันกับเรื่องรถในตำนานของคุณยักษ์เรื่องราวหลอนๆยังไม่จบถึงแม้ว่ารถจะไปที่ญี่ปุ่นแล้วกลับมาคราวนี้ เรื่องราวจะมาปะติดปะต่อกันสืบหาเรื่องราวหลอนๆกันว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะว่ารถคันนี้ทุกๆคนต่างลงความเห็นว่ามันคือรถผีสิงลองไปติดตามกันเลยครับว่าเรื่องราวสุดเฮี้ยนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปน่าติดตามมากครับ

           จากความเดิมคือรถคันนี้ถูกขายไปอยู่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว แล้วพอคุณยักษ์เล่าเรื่องจบไปในวันพฤหัสฯที่ผ่านมา (ก่อนมาเล่าภาคสอง) เช้าวันศุกร์วันต่อมาก็มีคนโทรเข้ามาหา มารู้จักทีหลังคือน้องคนนี้เคยมาหัดขับรถกับเจ้านายของคุณยักษ์ด้วยกัน แล้วน้องคนนี้เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วเค้าไปเจอรถคันนี้ในงานรถแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แล้วน้องคนนี้ค่อนข้างมีเงิน พอเห็นรถคันนี้เข้าก็เลยสนใจแล้วทำการซื้อไว้ ซึ่งการย้ายรถกลับเข้าเมืองไทยต้องใช้เวลานานหลายปี คือต้งซื้อรถทิ้งไว้ที่ญี่ปุ่นให้ครบกำหนดก่อแล้วรถถึงย้ายตามน้องกลับเมืองไทยมาทีหลัง ทีนี้น้องโทรมาเล่าให้พี่ยักษ์ฟังว่าภรรยาของเค้าได้ฟังเรื่องเล่าที่พี่ยักษ์เล่าทิ้งไว้ในรายการ แล้วพบว่าเหตุการณ์มันคล้ายๆกัน เลยโทรไปขอเบอร์พี่ยักษ์มาติดต่อกันที่อู่ แล้วติดต่อจะไปดูรถกัน ซึ่งรถคันนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านของน้องคนนี้แล้วเพราะไม่กล้าเอาไว้ที่บ้าน ที่พบว่าเป็นรถรุ่นเดียวกันกับที่พี่ยักษ์ขายไปคือ รถปกติจะไม่มีสีขาวมุก แต่เจ้านายเค้าได้เอาไปทำสีรถให้เป็นสีขาวมุก แต่ว่าตอนขายไปรถมันเป็นหลังแข็ง แต่ตอนนี้เป็นหลังคาประทุน ทำให้พี่ยักษ์ไม่คิดว่าเป็นคันเดียวกัน แต่น้องว่าเจอเหตุการณ์เดียวกันเลยนะ เค้าให้ไปคุยกับรปภ.ที่หมู่บ้าน รปภ.บอกว่าเค้าจะต้องไปไขเวลา (คล้ายตู้แดงของตำรวจ) ตามเวลา มุมนู่นมุมนี้ ทุกครั้งที่ผ่านรถคันนี้ก็จะเห็นไฟในเก๋งเปิดอยู่และจะเห็นผู้หญิงกับเด็กนั่งอยู่ในรถ เค้าก็คิดว่าเป็นแฟนเจ้าของบ้านหรือเปล่า เพราะน้องเค้าก็มีลูกเหมือนกัน เพราะเด็กอายุประมาณขวบสองขวบ ทีนี้รถคันนี้เป็นซูเปอร์คาร์ เวลารถสตาร์ทจะเสียงดังมาก ทีนี้รปภ.ผ่านหน้ารถตอนประมาณตีสอง ก็เห็นรถติดเครื่องอยู่แต่ไม่มีใครอยู่ในรถเลย เค้าก็เลยกดออดแล้วโทรเรียกคนในบ้าน แต่รถดับก่อนที่คนในบ้านจะออกมา รปภ.ก็ถามว่าสตาร์ทรถไว้เหรอ น้องเค้าก็ยืนยันว่าไม่ได้สตาร์ท รปภ.ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาประมาณอาทิตย์นึงก็พบว่ารถคันนี้ไม่ธรรมดา เพราะตอนกลางวันที่เจอครอบครัวของน้องคือไม่ใช่คนในรถเลย แล้วบางครั้งเวลาผ่านรถคันนี้ จะเห็นมีผู้ชายคนนึงเดินรอบรถ คือรปภ.ต้องไขกล่องทุกสองชั่วโมง พอผ่านไปสองชั่วโมงปุ้บก็ผ่านอีกรอบ ก็เห็นผู้ชายคนเนี้ยนั่งอยู่ในรถแล้วมองออกมานอกรถ หันหน้าออกนอกบ้าน แล้วรปภ.ต้องผ่านบ้านนี้ตลอดจนเค้าอยู่ไม่ได้ เลยบอกคนแถวนี้ว่าน่าจะใช่... รปภ.ก็เลยขอย้ายตัวเองไปอยู่อีกเฟตนึง คือทำยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องเดินผ่านบ้านหลังนี้ ภรรยาของน้องก็บอกว่าทุกคืนวันพระหมาที่บ้านจะหอน และลูกก็จะงอแง แต่พอพาออกมานอกบ้านปุ้บลูกจะเงียบ เหมือนต้องเปิดประตูรถให้ลูกเข้าไปนั่งเล่น เปิดประทุนให้ลูกเล่น เหมือนลูกเล่นกับใครสักคนโดยไม่สนใจภรรยาเลย พอวันอาทิตย์น้องเค้าก็ชวนคุณยักษ์ไปที่อำเภอพานทอง จ.ชลบุรี น้องเล่าว่าตอนได้รถมาใหม่ๆน้องเค้าก็เอารถไปขับเล่นกัน แต่พอขับรถมาถึงหน้าวัดวัดนึง รถก็ดับลงดื้อๆ ดับแบบไม่มีเหตุผล เค้าเลยตกลงว่าให้เพื่อนมารับ แล้วตรงช่วงวัดจะเป็นโค้ง เลยเอารถเข้าไปฝากในวัดเพราะต้องเอารถสไลด์มารับรถกลับอย่างเดียว พอเช้าวันต่อมาก็เอารถมารับ เจอกับเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสจำรถคันนี้ได้เพราะตอนที่รถคันนี้ชนผู้หญิงท้องตาย คือข้างวัดเป็นลักษณะคือทำเป็นห้องเล็กๆสี่มุมกำแพงวัด แล้วผู้หญิงที่โดนชนคล้ายๆเป็นออทิสติก แล้วถูกคนละแวกนั้นข่มขืน แม่ชีในวัดก็เลยให้อยู่แถวนี้ แล้วผู้หญิงคนนี้ก็โดนรถชนตอนเดินเล่นอยู่แถวๆหน้าวัด เพราะเลยหน้าวัดจะเป็นโค้งมุมอับ แต่ตอนที่โดนรถชนมันไม่ใช่หลังคาสีนี้ แต่เจ้าอาวาสจำหน้าตารถได้ เล่าย้อนนิดนึงคือตอนที่เอารถเข้าไปจอดเนี่ยเจ้าอาวาสไม่อยู่ กลับมาตอนดึกๆ ก็มาเห็นรถคันนี้จอดอยู่ใต้กุฎิและคืนนั้นหมาในวัดก็หอนทั้งคืนจนเณรในวัดอยู่แทบไม่ได้ หลังจากนั้นคุณยักษ์ก็ไปดูรถแถวย่านบางนา เพราะน้องไม่กล้าเอารถไว้ที่บ้าน คือรถคันนี้มีญี่ปุ่นซื้อกลับ รถคันนี้ไปจอดไว้ที่งานรถแห่งนึงแล้วมีผู้จัดการคนนึงอยากได้รถคันนี้ไปวิ่งที่งานในอเมริกา เพราะรถคันนี้เป็นหลังคาประทุน เค้าเลยติดต่อขอซื้อกลับ น้องเค้ากับแฟนก็เลยบอกว่า รถคันนี้เค้ากับแฟนไม่เอาแล้วแน่นอน ทีนี้อติดต่อซื้อขายก็ต้องรอทำเรื่องออก คือรถจะออกพรุ่งนี้แล้ว ก่อนจะเข้าไปดูรถต่างคนต่างติดธุระ ก็เข้าไปถึงลานจอดประมาณสองทุ่ม รถเอาใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปถามกับรปภ. รปภ.บอกว่าตอนเอาขึ้นตู้น่ะ ตู้มันอยู่ด้านหน้า แต่พอเข้าไปดู ตู้มันเข้าไปอยู่ด้านในสุด รปภ.ก็เล่าให้ฟังว่ามันไม่ไหวพี่ อยู่ไม่ได้เลย มีเสียงคล้ายคนเคาะออกมาจากในตู้ คุณยักษ์เลยขอเปิดดูรถให้ชัวร์ รปภ.ก็เลยให้กุญแจมา พอเห็นรถทีแรกปุ้บคุณยักษ์ขนลุกเลย คือสีใช่ ตัวรถใช่ แต่หลังคาไม่ใช่ คือพอเปิดดูในเครื่องรถก็เป็นคันเดิม แล้วช่วงจังหวะที่ยืนคุยกันอยู่ก็เลยบอกน้องว่าใช่ คันนี้แหละ คันเดียวกับพี่ เพราะตอนไปจากเมืองไทยมีบริษัทนึงนำรถไปทำเป็นหลังประทุนและทำเนียนมาก พอปิดตู้ปุ้บกำลังจะเดินออกก็ได้ยินเสียงเคาะจากในตู้สามทีดัง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ทุกคนก็เลยรีบเดินออกมา ตอนจะขายเนี่ย น้องก็มาปรึกษากับพี่ว่าทำยังไงดี ถ้ารถมันไปแล้วมันจะกลับมาอีกมั้ยพี่ จะมีคนซื้อกลับมาอีกมั้ย คนที่คุยขายเรื่องรถให้พี่ยักษ์คนแรกแนะนำให้ไปหาร่างทรง ร่างทรงบอกว่ารถคันนี้อยากกลับบ้าน คือผู้หญิงคนนี้อยากกลับบ้านก็ได้กลับแล้ว ตอนที่รถไปจอดดับอยู่หน้าวัด ร่างทรงก็บอกว่าให้กลับไปดูที่บ้านให้ดีๆ ไปดูในสัญญาเช่าบ้านของน้องเจ้าของรถคนล่าสุด ว่านามสกุลคนเช่าของบ้านที่น้องเช่าอยู่ กับนามสกุลของเจ้าของรถที่โดนยิงตายนั้นนามสกุลเดียวกัน...ซึ่งแปลว่ารถคันนี้กลับมาบ้านของตัวเอง ตอนนี้น้องเจ้าของรถคนล่าสุดก็ย้ายออกจากบ้านนั้นไปอยู่คอนโดเรียบร้อย ร่างทรงบอกว่าตอนน้องคนนี้เจอรถที่ญี่ปุ่น น้องเค้าไม่ได้เลือกรถเอง แต่รถน่ะเลือกเค้า เหมือนมีอะไรดลใจให้น้องเลือกรถคันนี้

          * ถ้าฟังในคลิปจะได้ยินเสียงคนร้องโอ้ยดังมากค่ะ ช่วงที่ฝนตก แต่คุณยักษ์บอกว่าที่บ้านไม่มีคนร้อง ขนลุกเลย เราฟังเราก็ยังงงว่าเสียงใครร้อง มันดังมากจริงจังนะ

ไม่มีความคิดเห็น