พระใหม่
เรื่องราวสุดหลอนกับเหตุการณ์ประหลาดที่คุณเก้งเจอ เมื่อเกิดเรื่องราวที่เขาไม่เชื่อและพิสูจน์ไม่ได้เมื่อครั้งที่เขาใกล้บวช เชื่อกันว่าช่วงก่อนบวชนั้น เป็นสิ่งหอมหวานมากสำหรับวิญญาณ มักมีเหตุการณ์ไม่ค่อยดีนักที่ส่วนใหญ่มักจะเจอเชื่อว่าจะทำให้ขัดขวางการบวชยิ่งนัก และเรื่องของคุณเก้งที่เขาเจอเมื่อบวชพระ มีเรื่องแปลกประหลาดมากมาย
ปัจจุบันนี้เก้งอายุ 23 ปีเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เกิดเหตุน้ำท่วม แต่ว่าจำไม่ได้ว่าเดือนอะไร ขณะนั้นเก้งได้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน โดยเก้งนั้นอาศัยอยู่ในหอพัก เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าปู่ของเก้งนั้นได้ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งในตอนนั้นทางบ้านครอบครัวของเก้งก็อยากจะให้เก้งนั้นบวชให้กับคุณปู่ เพราะว่าปู่มีหลานชายเพียงสองคนที่ยังไม่ได้บวชเรียน ก็มีเก้งกับบลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่ง ทางคุณพ่อและคุณแม่ก็เลยอยากจะให้บวชพร้อมกันไปเลย แต่ว่าในช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้สอบพอดี แล้วก็จะปิดเทอมเก้งก็เลยจะไปบวชที่บ้านของคุณปู่ก็คือจังหวัดนครสวรรค์ เป็นวัดแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในอำเภอลาดยาว
ตัวของเก้งเองนั้นก็อาศัยอยู่ในหอพักมาได้ 1 ปี ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย จนกระทั่งใกล้ช่วงที่จะบวช ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เก้งนั้นกลัวมาก เกิดขึ้นจนได้ ต้องบอกว่าเก้งนั้นอาศัยอยู่ในหอพักกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แต่ว่าเพื่อนคนนี้ก็จะไม่ค่อยอยู่ห้อง กว่าจะกลับก็เช้า ไม่ก็ดึกเนื่องจากว่าติดเล่นเกมคอมพิวเตอร์ โดยส่วนมากเก้งก็มักจะอยู่คนเดียวตลอด มีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่สอบเสร็จวันสุดท้าย เก้งก็นอนพักอยู่ที่หออยู่โดยจัดข้าวของเพื่อที่จะกลับบ้านแล้วเดินทางไปบ้านของคุณปู่ เวลาในขณะนั้นประมาณตี 2 กว่าแล้ว เก้งพึ่งจะดูฟุตบอลเสร็จก็เผลอหลับไปแต่แล้วเก้งก็ต้องรู้สึกตัวอีกที เมื่อรู้สึกได้ว่ามีมือมือหนึ่ง รู้สึกเลยว่าเล็บยาวมากๆ เก่งรู้สึกว่ามือนั้นกำลังมาลูบอยู่ที่ตัวของเก้ง ลูบจากหัวไหล่
ลงไปถึงช่วงเอวและเก้งก็ตกใจตื่น ตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเจออะไร เก้งก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นแค่ฝันร้าย
แต่ว่าวันที่ 2 เป็นวันศุกร์ เก้งตัดสินใจบอกแม่ว่าจะอยู่หออีกหนึ่งวัน เพราะว่าต้องทำวิจัยกับเพื่อนๆที่มาหาลัย เหตุการณ์ในวันนี้แรงมาก ขณะที่เก้งกำลังหลับอยู่เวลาประมาณสักเที่ยงคืน ความรู้สึกที่มีมือมาลูบไล้ตามตัวก็มีมาเหมือนเดิม โดยที่เก้งนั้นขยับตัวไม่ได้ลักษณะเหมือนโดนผีอำ พยายามสวดมนต์แต่ก็ไม่สำเร็จ พยายามพูดแต่ก็ไม่มีเสียง และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นก็เกิดขึ้น มีเสียงกระซิบเบาๆ
ที่ข้างหูของเก้งว่า "ไม่ต้องกลัวหรอก มาอยู่กับพี่เถอะ จะได้สบาย" เสียงที่ว่านั้นแหลมและทรงพลังมากๆ ลักษณะของเสียงนั้นเหมือนเสียงของผู้หญิงที่ฟังดูแล้วน่าจะมีอายุสักหน่อย เก้งไม่รู้ว่าจะทำยังไงก็ได้แต่สวดมนต์จนหลุดจากวังวนนั้นมาได้ แล้วก็รีบลุกขึ้นมาเปิดไฟทำทุกอย่างที่จะให้ตัวเองนั้นไม่หลับ แต่ว่าเก้งก็เผลอหลับไปอีกจนได้
และต่อจากนั้นสิ่งที่ได้สัมผัสก็ยิ่งแย่กว่าเดิม เก้งนั้นเหมือนไม่รู้สึกตัว ทำอะไรไม่ได้ มีแต่เสียงของผู้หญิงคนนั้นคนเดิมกระซิบอยู่ตลอดเวลา คำซ้ำๆ คำเดิมๆ อยู่อย่างนั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จับมือของเก้ง จูงมือเก้งเดินออกไปจากห้อง จะเหมือนกับความฝันก็ไม่ใช่ เหมือนกับว่าเก้งได้ถูกจูงมือออกไปจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นจูงมือของเก้งออกจากห้อง เท่าที่เก้งจำลักษณะของเธอได้ก็คือ เธอใส่เสื้อสีขาว
ชุดยาว ผมยาว เล็บยาว แขนของเธอซีดเซียวไปหมด มือของเธอกำลังจับแขนของเก้งอยู่ ลักษณะเหมือนกับว่าวิญญาณของเก้งได้หลุดออกมาจากร่าง ขณะที่เธอกำลังจูงมือของเก้งอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงอยู่ตลอดเวลาไม่เคยขาด พูดย้ำๆคำเดิมว่า "ไม่ต้องบวชหรอก มาอยู่กับพี่จะได้สบาย" เก้งเดินไปกับเธอจนถึงบันไดเกือบที่จะถึงทางเข้าที่ต้องใช้คีย์การ์ดอยู่แล้ว แต่ว่าจู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็กรี๊ดดังมากแบบโหยหวนเธอร้องแบบไม่ได้ศัพท์ เท่าที่จับใจความได้ก็ประมาณว่า "กูอยู่ไม่ได้แล้ว กูอยู่ไม่ได้แล้ว" เสียงนั้นก็เงียบหายไป แล้วเก้งก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อแตกเต็มตัวไปหมด
เช้าวันนั้นเก้งก็ได้ไปนั่งคุยกับแฟนของเพื่อน ซึ่งแฟนของเพื่อนนั้นอาศัยอยู่ที่หอใกล้ๆกัน พอเก้งเล่าเรื่องทุกอย่างจบแล้วแฟนของเพื่อนนั้นถึงกับหน้าซีดเผือด พอเก้งถามว่าเป็นอะไร เธอก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนนี้กลับหอมาดึก ก็เลยคิดว่าจะขออาศัยเก้งเข้าไปนั่งรอจนเช้าแล้วค่อยกลับ แต่ว่าโทรไปตั้งหลายสายเก้งก็ไม่รับโทรศัพท์ แล้วระหว่างที่โทรอยู่นั้นก็เดินมุ่งหน้าไปที่หอของเก้ง จนกระทั่ง
เดินไปถึงทางเข้าตรงที่ต้องใช้บัตรคีย์การ์ด เธอก็รู้สึกตกใจ ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาวนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า ตอนแรกก็นึกว่าคนที่อยู่ในหออาจจะทะเลาะกับแฟน แต่ว่าพอเธอเดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตา เธอตกใจมากรีบวิ่งกลับหอไปเลย หลังจากวันนั้นเก้งก็เดินทางกลับบ้านแล้วก็มุ่งหน้าไปที่จังหวัดนครสวรรค์เพื่อเตรียมตัวบวช
ในแวบแรกที่เก้งเห็นวัดก็รู้สึกกลัวไม่น้อย เป็นวัดชนบทห่างจากหมู่บ้าน เก้งนั้นได้ไปเก็บตัวที่บ้านปู่อยู่ 3 วันเพื่อรอบรรดาญาติๆที่จะตามมา แต่อยู่คืนแรกก็เกิดเรื่องเลย มีญาติคนหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านตามบ้านนอกที่นี่ก็จะเหมือนครอบครัวเดียวกัน หลายๆคนก็จะสนิทและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี มีป้าอยู่คนหนึ่ง ป้าคนนี้เป็นญาติห่างๆ จู่ๆป้าคนนี้ก็โดนสามีของตัวเองฆาตกรรม โดยที่วันนั้นเก้งก็ยังได้คุย
กับป้าคนนี้อยู่เลย พอตกค่ำป้าก็โดนฆ่า ลักษณะของศพนั้นเหมือนโดนบีบคอ ตรงคอนั้นเขียวช้ำไปหมด เก้งปั่นจักรยานไปดูด้วย รู้สึกไม่ดีว่ากำลังจะบวชแต่มีคนรู้จักตายซะอีก หลังจากนั้นเก้งก็กลับไปนั่งท่องบทสวดมนต์ตามหนังสือเพื่อเตรียมตัวบวช
จนกระทั่งถึงวันบวชทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งวัดนั้นมีพระอยู่ 4 รูป มีพระเก้ง มีพระลูกพี่ลูกน้อง หลวงพี่ แล้วก็หลวงตาเจ้าอาวาสตัวของพระเก้งนั้นได้อาศัยอยู่ในกุฏิหลังหนึ่งซึ่งติดอยู่กับศาลาเก็บศพ คือพอเปิดประตูออกไปก็จะพบกับศาลาเลย ห้องที่พระเก้งนอนนั้นทางเข้าจะมีประตู แล้วก็จะมีประตูห้องกระจกอีก 1 บานคือประตูที่นอน ด้านหน้าของประตูนั้นก็เหมือนเป็นชั้นวางของ มีหม้อ กระทะ อะไรพวกนี้ของวัดวางอยู่ พระเก้งกับพระลูกพี่ลูกน้องนั้นจริงๆแล้วกลัวผีด้วยกันทั้งคู่ พระใหม่ทั้งสองรูปก็เลยรีบสรงน้ำ ในต่างจังหวัดนั้น 6 โมงก็มืดแล้วมันน่ากลัวด้วย บรรยากาศภายในวัดก็น่ากลัวอยู่ แถมหลวงพ่อและโยมลุงก็เคยแย่เอาไว้ว่า "หลวงพี่ระวังเจอดีนะ" เหตุการณ์คืนแรกก็ผ่านไป
ได้ด้วยดี ถึงแม้จะนอนไม่ค่อยหลับ
ตื่นเช้ามาก็มีงานเข้า มีศพมาตั้ง เป็นศพของคนหมู่บ้านอื่น เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ศพนั้นเป็นศพผู้ชายวัยกลางคน พระเก้งจึงคุยกับพระลูกพี่ลูกน้องว่า "มีคนตายอีกแล้ว ศพของป้าเพิ่งจะเผาไป ทำไมเราบวชมีคนตายเยอะจัง" พระใหม่ทั้งคู่นั้นก็มีอาการตื่นกลัวอยู่บ้างก็รีบทำกิจของสงฆ์เสร็จ แล้วก็รีบสรงน้ำแต่หัววัน คืนนั้นพระใหม่ทั้งคู่นอนคุยกันอยู่เวลาประมาณ 5 ทุ่ม จู่ๆก็มีเสียงหม้อใบหนึ่งหล่นลงมาจากด้านนอกเสียงดัง แล้วกลิ้งมาชนกับกระจกหน้าห้องเสียงดัง ปัง!! ในตอนนั้นเกิดอาการกลัวโจรมากกว่ากลัวผี ทั้งคู่ก็เลยชวนกันเดินไปดูก็พบกับหม้อ 1 ใบตกอยู่หน้าประตู ก็เลยเก็บขึ้นแล้วเอาไปวางไว้กับพื้นหน้าชั้นวางของเหมือนเดิม แล้วคืนนั้นก็ผ่านไป
รุ่งขึ้นช่วงสายๆก็มีศพมาอีกแล้ว เป็นศพของคนแก่อายุซัก 90 กว่าได้ สาเหตุการตายน่าจะมาจากความชราภาพ คุณย่าก็รู้จักผู้ตายด้วยก็ตามเคย ศพนั้นก็ได้มาตั้งอยู่บนศาลา พอตกกลางคืนก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไอ้หม้อใบเดิมที่วางอยู่บนชั้น ขณะที่พระใหม่กำลังสวดแผ่เมตตากันอยู่ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเหมือนกับคนเตะหม้อดัง ปัง!! แล้วก็กระเด็นมาตรงกระจกหน้าประตู คราวนี้ทั้งคู่ไม่ออกไปดู ต่างคนต่างรีบเข้านอนพอตอนเช้าก็ออกไปเก็บหม้อที่หน้าประตู เคยคุยกับหลวงพี่ที่บวชอยู่วัดนี้ หลวงพี่บอกว่าน่าจะเจอดีเข้าแล้ว หลวงพี่เล่าให้ฟังว่า "เวลามาบวชใหม่ๆให้สวดแผ่เมตตาให้วิญญาณบ่อยๆ เป็นแบบนี้แหละ วัดตามบ้านนอกไม่เหมือนในเมือง ผีสางเยอะ ต่างมาขอส่วนบุญกันให้ว่อน แต่ว่าเวลาใครเรียกหรือว่ามีเสียงอะไร ห้ามขานรับเด็ดขาด"
แล้วก็มีเรื่องอีก 1 ครั้ง ในคืนวันก่อนที่จะเผาศพยายชราที่ตั้งอยู่บนศาลานั้น เวลาประมาณตี 3 จู่ๆพระเก้งก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพลิกตัวหันหน้าไปมองทางประตู แล้วก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวนอนเพื่อจะดูนาฬากาว่าเช้าแล้วหรือยัง แต่ว่าพระเก้งก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า พระเก้งมองเห็นหญิงชราคนหนึ่งมานั่งยองๆอยู่บริเวณหน้าประตู ห่างจากพระเก้งแค่ไม่กี่เมตร ยายคนนั้นกำลังยิ้ม ใบหน้านั้นดู
แจ่มใสมาก ซึ่งหน้านั้นก็เป็นคนเดียวกับในกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนศาลา คุณยายนั่งยิ้มให้กับพระเก้ง พระเก้งตกใจรีบหันกลับมา คิดในใจว่าตาฝาดรึเปล่า ประตูก็ล็อค ใครจะเข้ามาได้ ก็เลยพยายามสะกิด ปลุกพระลูกพี่ลูกน้อง เรียกเบาๆ "ท่าน ท่าน" พระลูกพี่ลูกน้องก็ไม่ตื่นนอนหันหน้าหากำแพง ก็เลยเอามือสะกิดท่านแล้วพูดเบาๆว่า "ท่าน เห็นคนมานั่งอยู่หน้าประตูไหม" พระลูกพี่ลูกน้องตอบกลับมาเบาๆว่า
"เขามานั่งตั้งนานแล้วท่าน" พูดแค่นั้นแล้วเงียบเลย พระเก้งถึงกับนอนตัวแข็งไม่กล้าหันกลับไปดู พยายามข่มตานอนจนเช้า
หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้เจออะไรอีก คุณปู่ก็มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น อาจจะเป็นเพราะผลบุญจากพระทั้งสองรูปที่ตั้งใจบวชและปฎิบัติศีล ปฎิบัติธรรม เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...
Post a Comment