หลอน3วัน


   เรามาดูกันว่าเรื่องของคุณนิคจะสยองหลอนแค่ไหน เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดแพร่ เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่คุณนิคกำลังศึกษาอยู่ มีโปรเจ็คที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนในตัวเมือง ส่วนบ้านของคุณนิคจะอยู่แถวๆชานเมือง จึงต้องกลับดึกอยู่เป็นประจำ

    วันนั้นช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ คุณนิคขี่มอเตอร์ไซต์กลับออกมาจากบ้านเพื่อน ทางค่อนข้างเปลี่ยวและมืดพอสมควร ส่องข้างทางจะเป็นทุ่งนาและป่า คุณนิคขี่มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงทางโค้ง แสงไฟหน้ารถสาดเข้าไปในหัวมุมโค้ง

    เห็นเป็นคนชรานอนอยู่ข้างทาง ด้านข้างมีมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่หนึ่งคัน คุณนิคจึงขี่ชลอลง คิดว่าอาจจะเป็นคนเมา จนผ่านทางโค้งไป แล้วมองที่กระจกหลัง ปรากฏว่าเห็นผู้ชายที่นอนอยู่ข้างทาง ค่อยๆคลานขึ้นมาบนถนน

    แต่ที่ทำให้คุณนิคตกใจจนผวาคือผู้ชายคนนั้นไม่มีหัว พอผู้ชายคนนั้นคลานกลับขึ้นมาบนถนนได้แล้ว ก็เลี้ยวตัวคลานตามหลังคุณนิคมาอย่างช้าๆ ลักษณะท่าคลานเหมือนสัตว์อะไรบางอย่าง

    คุณนิครีบบิดมอเตอร์ไซต์จนมิดคันเร่ง เสียวสันหลังจนต้องเกร็งตัวตลอดเวลา คิดในใจว่าโชคดีที่เจ้าตัวนั้นมันเคลื่อนที่ได้ช้า จนคุณนิคกลับถึงบ้าน แล้วได้โทรไปเล่าเรื่องนี้ให้คุณอาฟัง คุณอาก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก มันไม่มีอะไรหรอก

    เช้าวันต่อมา คุณนิคขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านตรงจุดเกิดเหตุเมื่อวาน อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมันยังติดอยู่ในหัว คุณนิคพยายามสังเกตเข้าไปตรงโพลงหญ้าที่ผู้ชายคนนั้นนอนอยู่

    แต่ก็ไม่ปรากฏร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุเลย คุณนิคจึงขี่รถไปเรียนแบบงงๆ ตกเย็นคุณนิคกลับมาถึงบ้าน จึงได้เล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่บอกว่า จุดนั้นมันเป็นโค้งอันตราย แถวนั้นจะมีทางแยกเล็กๆ เป็นทางขึ้นเขา จึงมีคนเข้าไปหาของป่ากันที่นั่นเสมอ เมื่ออาทิตย์ก่อน มีผู้ชายคนนึง ขี่มอเตอร์ไซค์เสียหลัก พุ่งชนหลักกิโลจนคอหัก

    วันต่อมา หลังจากเลิกเรียนกลับมา คุณนิคได้มาออกกำลังกายกับพวกพี่ๆหน้าบ้าน จนเวลาประมาณสี่ทุ่ม ทุกคนสักเกตเห็นดวงไฟกลมๆ สว่างวูบวาบอยู่แถวๆชายป่าหลังบ้าน แล้วแสงนั่นก็ค่อยๆลอยขึ้นเหนือต้นไม้ แล้วก็หายไป

    ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกกลัว จึงได้แยกย้ายกันเข้าบ้าน คุณอาเดินมาถามคุณนิคว่า "เห็นเหมือนกันใช่มั้ย" คุณนิคตอบว่า "ใช่" คุณอาจึงถามว่า "ตามไปดูมั้ย" คุณนิคลังเลอยู่ครู่นึง ก็ตัดสินใจตามไปด้วย

    ทั้งสองคนจึงเดินถือไฟฉายเข้าไปแถวๆจุดที่พบแสงก่อนหน้านี้ ช่วงนั้นเวลาประมาณห้าทุ่มครึ่ง ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง เพราะมืดมากจนมองไม่เห็นสิ่งต่างๆรอบตัว พอเดินเข้าไปได้สักพัก ก็เห็นดวงไฟกลมๆ ลูกเท่าหัวคน ลอยผุดขึ้นผุดลงอยู่แถวๆใต้ต้นไม้ใหญ่

    คุณอากับคุณนิคเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเดินกลับออกมาก่อน พอกลับมาถึงบ้านก็มานั่งคุยกันว่ามันคืออะไรกันแน่ จนวันต่อมา คุณนิคและเพื่อนๆ ก็ย้ายกันไปซ่อมเต้นที่ศาลาในวัด

    จนเวลาประมาณห้าทุ่ม จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน คุณนิคเดินกลับออกมาจากวัดกับเพื่อนอีกสองคน พอเดินพ้นซุ้มประตูวัดจนมาถึงถนน อยู่ๆเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า "อะไรไม่รู้ อยู่ตรงซุ้มประตูวัด"

    คุณนิคจึงหันหลังกลับไปมอง ปรากฏว่าเห็นคนตัวสูงประมาณสี่เมตร ลักษณะผอมแห้ง ผมยาวๆ ลูกกะตากลมโต ไม่มีปาก และไม่ใส่เสื้อผ้า ยืนแอบมองอยู่หลังซุ้มประตูวัด

    คุณนิคตกใจจนตาเบิกโพลง ขนตั้งชันไปทั้งตัว ร้องตะโกนโวยวาย วิ่งหนีไม่คิดชีวิตจนกลับถึงบ้าน รุ่นเช้าคุณแม่จึงได้พาคุณนิคไปรดน้ำมนต์ที่วัด พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า ช่วงนี้คุณนิคดวงตก จึงทำให้เห็นสิ่งเหล่านี้ได้ง่าย ให้ระวังเรื่องอุบัติเหตุไว้ด้วย ถึงสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเอาชีวิตเราได้โดยตรง แต่พวกมันก็สามารถฆ่าเราได้ทางอ้อมเหมือนกัน และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น