เสียงคนเดินจากชั้นบน
ประสบการณ์หลอนเมื่อครั้งต้องไปต่างจังหวัดเพื่องทำงานของคุณตั้มที่เขาเช่าบ้านหลอนราคาประหยัด เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดน่าน เมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมา คุณตั้มทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่ฝ่ายโปรโมชั่น วิ่งงานทั่วประเทศ
หัวหน้าคุณตั้มบอกกับคุณตั้ม "ตั้ม เดี๋ยวช่วงเดือนพฤศจิกาเนี่ย พี่มีงานที่จังหวัดน่าน ไปให้พี่หน่อยได้มั้ย เดือนนึง" คุณตั้มก็อ้ำๆอึ้ง แต่ก็ตอบไปว่า "โอเคพี่ ผมว่างพอดีเลย เดี๋ยวผมไปให้ก็ได้"
หัวหน้าก็ถามว่า "ตั้มมีที่พักอยู่แถวนั้นหรือเปล่า" คุณตั้มตอบว่า "ผมไม่มีครับ ว่าจะไปหาเช่าที่นั่นแหละ" หัวหน้าจึงบอกมาว่า "ตั้มไปพักบ้านแม่พี่มั้ย อยู่ห่างจากตัวห้างไม่ไกลมาก" คุณตั้มก็เลยตกลง เพราะจะได้ประหยัดไปด้วยในตัว
พอถึงวันกำหนด คุณตั้มก็ขี่บิ๊กไบค์จากกรุงเทพขึ้นไปจนถึงน่าน ช่วงนั้นกำลังเห่อบิ๊กไบค์อยู่ด้วย ก็ได้โทรถามทางเป็นระยะๆ จนไปถึงบ้านคุณแม่ของหัวหน้า ซึ่งหัวหน้าได้โทรบอกคุณแม่ไว้ก่อนเลย
เป็นบ้านหลังใหญ่มาก ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ มีคนอยู่ประมาณสามสิบหลังคาเรือน คุณแม่จะอาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ลักษณะเป็นบ้านสองชั้น ยกใต้ถุนสูง ชั้นแรกเป็นปูน ชั้นบนจะเป็นไม้สัก พื้นที่บ้านเกือบๆหนึ่งร้อยตารางเมตร ชั้นล่างจะมีประมาณสิบกว่าห้อง ชั้นบนจะมีห้าห้อง คุณแม่จะนอนอยู่ชั้นบน
เวลาที่คุณตั้มจะไปทำงาน จะต้องขี่รถข้ามไปอีกอำเภอนึง ระยะทางประมาณเกือบๆห้าสิบกิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง คุณแม่ของหัวหน้าเป็นคนใจดีมาก ต้อนรับคุณตั้มอย่างดี มีอาหารให้ทานทุกวัน
คุณแม่ก็ถามคุณตั้มว่า "ตั้มจะนอนที่ไหน" คุณตั้มตอบว่า "งั้นผมขอนอนชั้นล่างละกัน" คุณตั้มจึงเอาข้าวของเข้าไปเก็บในห้อง ก็รู้สึกว่าบ้านหลังนี้ใหญ่มากก็จริง แต่ก็มืดมาก ดูอึบทึบ มืดมน ไม่โปร่ง เพราะไม่ได้เปิดหน้าต่างเลย
ตกกลางคืนจะหนาวมาก เกือบๆสิบองศา คุณตั้มก็นอนพักผ่อนปกติ เวลาประมาณห้าทุ่ม แต่หูได้ยินเสียงคนเดินอยู่ชั้นบน ลักษณะเหมือนคนเดินทิ้งน้ำหนักลงบนแผ่นไม้ จนไม้ลั่นดัง "เอี๊ยดดดด" คุณตั้มคิดว่าคุณแม่อาจจะยังไม่นอน
เช้าวันต่อมา คุณแม่ก็ลงมาทำกับข้าวให้ทาน คุณตั้มจึงถามว่า "แม่ครับ ปกติแม่เป็นคนนอนดึกเหรอครับ" คุณแม่ก็ตอบว่า "สองทุ่มครึ่งแม่ก็นอนแล้ว" คุณตั้มจึงถามไปอีกว่า "แต่ห้าทุ่มผมยังได้ยินเสียงคนเดินอยู่เลยนะครับแม่" คุณแม่ก็ตอบว่า "อ๋อ สงสัยเป็นเสียงไม้ลั่นน่ะ"
คุณตั้มคิดในใจว่าเสียงที่ได้ยิน มันเป็นเสียงของคนลงฝีเท้า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วออกไปทำงาน คุณตั้มจะอยู่ที่ห้างเวลาสิบโมงจนถึงหนึ่งทุ่ม กว่าจะขี่รถกลับมาถึงบ้านก็ประมาณสองทุ่ม
คุณแม่จะขึ้นบ้านนอนประมาณทุ่มครึ่ง แต่คุณแม่ก็ได้บอกไว้ว่าถ้าเกิดมาถึงบ้านแล้ว ให้เรียกคุณแม่ก็ได้ ส่วนบ้านจะไม่ได้ล็อกประตู คุณตั้มก็งงว่าบ้านนี้ทำไมถึงไม่ล็อกประตูเลยสักบาน
แต่คุณตั้มเกรงใจก็เลยไม่กล้าเรียก จังหวะที่กำลังเปิดประตูเข้าไป ก็สังเกตเห็นไฟบนชั้นสอง เปิดไว้อยู่ห้องนึง แล้วมีคนชะโงกหน้าออกมาดู แล้วก็หายไป คุณตั้มคิดว่าเดี๋ยวคุณแม่ก็คงจะลงมา จึงเข้าไปเก็บมอเตอร์ไซค์
แล้วไปนั่งทานข้าวที่คุณแม่เตรียมไว้ให้ในห้องครัว ทานไปสักพักก็คิดว่า ทำไมคุณแม่ยังไม่ลงมาสักที หรือว่าแค่ชะโงกออกมาดูเฉยๆ สักพักก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นๆลงๆอยู่ตรงบันได ซึ่งโต๊ะที่คุณตั้มนั่งทานข้าวอยู่ สามารถมองเห็นบันได แต่ก็ไม่เห็นมีใครลงมาสักที "แอ๊ดดด..แอ๊ดดด..กร็อบ..กร็อบ"
จนคุณตั้มเริ่มรู้สึกผิดสังเกต จึงเปิดไฟฉาย แล้วหาอะไรใกล้ตัวที่พอจะใช้ทุบตีได้ คิดในใจว่าต้องมีโจรหรืออะไรสักอย่างแน่ แล้วค่อยๆเดินย่องเข้าไปใกล้ๆบันได แต่อยู่ดีๆก็เหมือนมีคนวิ่งหนีขึ้นบันได "ตึ้งๆๆๆๆ"
คุณตั้มคิดว่าต้องเป็นขโมยแน่ๆ จึงรีบวิ่งตามขึ้นไปชั้นบน แล้วมาหยุดอยู่ที่กลางบ้าน พยายามมองฝ่าความมืดรอบๆตัวหาเจ้าของเสียง แต่ก็ไม่เจอใคร สักพักคุณแม่ก็เปิดประตูออกมา แล้วถามคุณตั้มว่า "ตั้ม มีอะไร เห็นวิ่งขึ้นบันไดมาเสียงดัง"
คุณตั้มจึงบอกว่า "แม่ ผมเห็นมีคนวิ่งขึ้นมาข้างบนนี้ แม่เห็นมั้ย" คุณแม่ก็ตอบว่า "ไม่เห็นนะ ไม่มี" คุณตั้มจึงสังเกตไปรอบตัว ก็พบว่านอกจากห้องนอนของคุณแม่แล้ว ห้องที่เหลือถูกคล้องกุญแจไว้หมดทุกห้อง
คุณตั้มจึงเดินลงไปนอนด้วยอาการงงๆ ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที คุณตั้มก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ชั้นบนในห้องที่อยู่ตรงกับห้องของคุณตั้มพอดี ลักษณะเหมือนมีหลายคน "แอ๊ดๆ กร๊อกๆ แอ๊ดๆ"
เสียงนั้นค่อยๆเดินลงมาจากบันได แล้วมาเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องคุณตั้ม "กร๊อกๆๆ" สักพักก็เดินขึ้นบันไดกลับไปชั้นบน และไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูด้วย คุณตั้มแปลกใจมาก แต่ก็ไม่อยากคิดอะไร
วันต่อมา คุณตั้มกลับเข้าบ้านประมาณสี่ทุ่ม นั่งเคลียร์งานอยู่ในห้อง อยู่ๆก็ได้ยินเสียง "ตึ้ง!!" ลักษณะคล้ายๆเสียงคนล้ม คุณตั้มคิดว่าเป็นคุณแม่ จึงรีบวิ่งขึ้นบันได ไปหยุดอยู่ตรงพื้นที่โล่งๆกลางชั้นสอง
แล้วเสียงก็ดังขึ้นอีก "ตึ้ง!!" ครั้งนี้มันดังออกมาจากห้องหนึ่ง ที่คราวแล้วมันล็อกอยู่ แต่คราวนี้ประตูมันเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย จึงรีบวิ่งพรวดเข้าไปในห้อง คุณตั้มรู้สึกเข่าอ่อนทันที เนื้อตัวเย็นเฉียด
ภายในห้องมืดทึบ เหมือนอับ มีโกศตั้งเรียงรายอยู่ในตู้ข้างห้องเกือบๆยี่สิบอัน มีทั้งโกศไม้และโกศที่เก่ามากจนแตก รวมถึงผ้าห่อกระดูกสีขาว ฝั่งตรงข้ามมีรูปภาพขาวดำ เกือบเท่าจำนวนเดียวกับโกศตั้งอยู่ในตู้ มีชุดไทยโบราณหลายชุด แขวนอยู่ที่ผนังของฝั่งที่เป็นหน้าต่าง
คุณตั้มนั่งตัวสั่นอยู่หน้าประตู ไม่มีแรงเหลือที่จะลุกเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วรู้สึกมีคนมาจับที่หัวไหล่ คุณตั้มสะดุ้งสุดตัว เหลียวกลับไปมอง เห็นคุณแม่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วถามว่า "ตั้ม เป็นอะไร แล้วตั้มเปิดห้องนี้ได้ยังไง"
คุณตั้มตอบด้วยเสียงสั่นๆว่า "ผมเปล่าเปิด ผมได้ยินเสียงดังออกมาจากในห้องนี้ ผมคิดว่าแม่ล้ม ก็เลยขึ้นมาดู" คุณแม่จึงพูดว่า "อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก สงสัยบรรพบุรุษของแม่เห็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็เลยออกมาทักทาย"
หลังจากนั้น คุณตั้มต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกหนึ่งเดือน และทุกคืนจะได้ยินเสียงคนเดินจากชั้นบน ลงบันไดมาอยู่ที่หน้าห้องคุณตั้ม แล้วเดินกลับขึ้นไปชั้นบนเหมือนเดิม และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment