ผีเข้าฝันคลี่คลายคดีคนหาย
เรื่องราวของคุณกิ๊ฟนี้เข้มข้นและตื่นเต้นราวกับหนังเลยก็ว่าได้ เมื่อเธอเขาไปพัวพันกับเหตุการณ์สุดสยองที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เธอพบกับเหตุการอันเหลือเชื่อมาก และเธอคือบุคคลสำคัญที่จะคลี่คลายคดีคนหายนี้ได้ ขอย้ำว่านี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ 5 ถึง 6 ปีที่แล้ว ทุกอย่างนั้นเริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดตาก ตอนนั้นกิ๊ฟยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง อยู่ชั้นปี 2 เรื่องเกิดขึ้นประมาณช่วงปลายปี เท่าที่จำได้นั้นน่าจะเป็นช่วงประมาณเทศกาลลอยกระทงสายของจังหวัดตาก กิ๊ฟต้องขอเท้าความไปสักหน่อย กิ๊ฟนั้นได้เดินทางกลับบ้าน บ้านของกิ๊ฟนั้นอยู่ที่แม่พริกจังหวัดลำปาง ระยะทางน่าจะประมาณ
60 กม. ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะในการเดินทางกลับบ้าน ตอนนั้นเวลาน่าจะซักประมาณบ่าย 2 โมง ออกเดินทางจากจังหวัดตากกิ๊ฟขับรถกลับบ้านคนเดียวแล้วก็ยังมีลูกหมาพันธุ์พุดเดิ้ลนั่งอยู่ตะกร้าที่หน้ารถอีกด้วย
ออกเดินทางมาได้ยังไม่ถึง 20 กม. ก่อนถึงน้ำดิบประมาณ 500 เมตรก็ได้เจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์มาเหมือนกัน แต่ว่าเค้าขับมาเทียบด้านข้าง ตอนนั้นสายตาของกิ๊บก็เหลือบไปเห็นว่าผู้ชายคนนั้นเขาได้แอบปิดกุญแจรถของเขาด้วย แล้วชายแปลกหน้าก็พูดขึ้นมาว่า "น้องๆช่วยพี่หน่อยสิ น้ำมันรถพี่หมด ช่วยดันรถพี่ไปส่งที่แยกน้ำดิบหน่อย" ณ เวลานั้นกิ๊ฟใช้ความเร็วรถไม่เกิน 60 กม./ชั่วโมงแต่ก็สามารถมองเห็นเกย์น้ำมันรถของชายแปลกหน้าว่ามันไม่กระดิกเลย น้ำมันที่เขาบอกว่าหมดนั้นหมดจริงหรือเปล่า และป้ายทะเบียนของรถคันนั้นก็พ่นสีขาวมองแทบจะไม่เห็นตัวเลข ในใจของกิ๊ฟก็เริ่มรู้สึกตะหงิดๆนิดหน่อยตอนที่เห็นชายคนนั้นปิดกุญแจรถ ท้ายที่สุดกิ๊บก็ยอมช่วยเหลือ
ชายคนนั้นให้กิ๊ฟช่วยดันรถให้แต่ว่าเขาได้ถามกับกิ๊ฟว่า ดันรถเป็นหรือเปล่า ถ้าเกิดดันรถไม่เป็นชายคนนั้นจะมาขับรถของกิ๊ฟเองแล้วให้กิ๊ฟไปนั่งที่รถของเขาแล้วชายคนนั้นจะเป็นคนดันรถเอง แต่ด้วยความที่กิ๊ฟเป็นคนที่ค่อนข้างจะหวงรถแล้วก็ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้ามากนักจึงไม่ยอมสลับรถ ขอเป็นคนดันให้เองจะดีกว่า แล้วกิ๊บก็เริ่มต้นใช้เท้าดันรถมอเตอร์ไซค์ของชายคนนั้นเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตรได้ในระหว่างทางนั้นชายแปลกหน้าก็เริ่มบทสนทนากับกิ๊บว่า จะไปไหน บ้านอยู่ที่ไหน กิ๊ฟก็บอกไป แต่ว่าไม่ได้บอกไปตามความเป็นจริงแกล้งบอกไปคนละหมู่บ้านเลย บอกว่าจะไปรับเพื่อนที่อยู่บ้านตาด ในตอนนั้นลูกหมาของกิ๊ฟที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถก็เห่าผู้ชายคนนั้นตลอด
พอถึงแยกน้ำดิบกิ๊ฟก็ปล่อยรถของชายคนนั้นแล้วรีบจะขับรถออกไป แต่ว่าชายแปลกหน้าก็รีบเรียกกิ๊ฟว่า "เดี๋ยวๆ ขอไปส่งที่โป่งแดงหน่อย ไม่ไกลกันเลยแค่นี้เอง ก่อนถึงน้ำดิบ" ตอนนั้นกิ๊ฟก็รู้แล้วว่าเริ่มจะไม่ใช่แน่ๆ เนื่องจากกิ๊ฟรู้ว่าโป่งแดงนั้นมันอยู่ไกลเข้าไปอีกแล้วข้างทางก็เปลี่ยวแทบจะไม่มีบ้านคน จะไปบอกว่าอยู่ก่อนถึงน้ำดิบได้ยังไง ก็ก่อนจะไปโป่งแดงก็ต้องผ่านบ้านน้ำดิบก่อน ในใจของกิ๊ฟ
ตอนนั้นเริ่มจะคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ อาจจะเป็นโจร ก็เลยตะโกนกลับไปว่า "ขอโทษทีนะค๊า หนูรีบไปรับเพื่อน" แล้วก็ขับรถไปด้วยความเร็วสูงทันที ประมาณอีก 1 ชั่วโมงครึ่งต่อมากิ๊ฟก็ขี่รถถึงบ้าน ก็เลยโทรศัพท์เราเรื่องที่เจอมาให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่าดีแล้วที่ไม่เข้าไปส่ง ทางข้างในนั้นมันเปลี่ยวมาก ในคืนนั้นกิ๊ฟก็รีบไปช่วยบ้านคุณอาเตรียมงานเพื่อจะทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ในวันรุ่งขึ้น พอเสร็จงาน
กิ๊บก็เดินทางกลับ แต่ว่าในขากลับนี้กิ๊ฟไม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับ เนื่องจากพี่สาวต้องขับรถยนต์เข้ากรุงเทพก็เลยขับมาส่งกิ๊ฟที่หอพัก
ล่วงเข้าสู่วันรุ่งขึ้น กิ๊ฟก็ไปเรียนตามปกติ แต่ว่ามีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้กิ๊ฟใจคอไม่ดีก็คือ มีรุ่นพี่คนนึงเค้าเรียนอยู่คนละคณะกำลังติดป้ายประกาศตามหาคนหายอยู่ใต้หอพัก กิ๊ฟก็เดินเข้าไปถามรุ่นพี่ว่าใครหรอที่หาย รุ่นพี่ก็บอกว่า "เป็นเพื่อนของพี่เอง เขาหายตัวไปเมื่อวานช่วงบ่ายๆประมาณ 2 โมงครึ่ง เพื่อนที่หายไปนั้นเขาเดินทางกลับจากบ้านเพื่อจะมายังหอพักที่จังหวัดตาก" บ้านของพี่คนที่หายตัวไปนี้อยู่หมู่บ้านแม่สะเรียงระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรได้ โดยสรุปก็คือรุ่นพี่คนนี้ได้หายตัวไปจากการขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะกลับมาที่มหาลัยตัวเขาเองนั้นออกจากบ้านประมาณ 2 โมงครึ่ง ซึ่งจริงๆแล้วเวลาในช่วงนั้นก็เป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่กิ๊ฟได้เดินทางกลับไปที่บ้าน ถนนนั้นก็ใช้เส้นเดียวกัน ซึ่งตามความคิดของกิ๊ฟนั้น ทั้งคู่ก็น่าจะขับรถสวนกัน แต่ว่ากิ๊ฟไม่เห็น รู้สึกตะหงิดใจขึ้นมาเล็กๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เนื่องจากอาจารย์ก็ได้เดินเข้ามาสอนในห้องพอดี
พอเลิกเรียนก็จะชวนกันไปทานข้าว คราวนี้พอออกมาจากห้อง รูปรุ่นพี่คนที่หายตัวไปนั้นได้ถูกติดเต็มมหาวิทยาลัยเลยทีเดียวพอทุกคนได้ไปนั่งทานข้าวกันที่ร้านประจำก็ได้เห็นรูปรุ่นพี่ที่หายตัวไปนั้นถูกติดเอาไว้ที่เสา ก็เลยกลับมาคุยหัวข้อนี้กันใหม่ แล้วจู่ๆก็ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจกิ๊ฟให้พูดคำนี้ออกไปว่า "พี่เขาตายแล้วมั้ง" พร้อมกับชี้นิ้วเข้าไปที่รูป ให้ดูหน้าตาของรุ่นพี่ว่านัยตาของพี่เค้าดูเศร้าๆ
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปเรียนตามปกติ ในคืนนั้นเองกิ๊ฟก็ได้ฝันว่าเดินเข้าไปในป่า เดินไปเดินมาก็ได้ไปเจอเข้ากับรุ่นพี่คนที่ถูกติดประกาศทั่วมหาวิทยาลัยว่าหายตัวไป ในฝันนั้นกิ๊ฟมองเห็นรุ่นพี่คนนี้กำลังยืนร้องไห้ เสื้อผ้าไม่ได้ใส่ ดูจากใบหน้าแล้วเหมือนกับว่ากรามของรุ่นพี่เขาหัก มีร่องรอยเชือกรัดที่คอ แล้วรุ่นพี่คนนั้นก็หันมาบอกกับกิ๊ฟว่า "ช่วยด้วย" แค่นั้นเองกิ๊ฟก็ตกใจตื่นขึ้น เวลาประมาณตี 2
ได้ยินเสียงหมาหอนก้องไปทั้งหอ กิ๊ฟตกใจรีบปลุกเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆให้เป็นขึ้นแล้วก็เล่าความฝันให้เพื่อนฟังทั้งหมด เพื่อนก็บอกกับกิ๊ฟว่าสงสัยจะเห็นภาพรุ่นพี่เขามากไปก็เลยเก็บเอามาฝันเป็นตุเป็นตะ ในคืนแรกก็จบไปแบบนี้
เข้าสู่คืนที่ 2 คราวนี้กิ๊ฟไม่ได้ฝันแต่ว่าได้ยินเป็นเสียง กิ๊ฟกับเพื่อนนั่งดู tv กันอยู่ประมาณซัก 4 ทุ่มกว่า เพื่อนปิดทีวีเสร็จกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงว่า "ช่วยด้วย" พร้อมด้วยหมาที่หอพักก็ทั้งเห่าทั้งหอน ทั้งกิ๊ฟและเพื่อนนั้นนอนไม่ได้ต้องไปขอนอนห้องเพื่อนอีกคนหนึ่งแต่ว่าถึงจะย้ายไปนอนห้องเพื่อนรวมกันเป็น 4 คนก็ยังคงได้ยินเสียง "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" ทั้งคืน คราวนี้ไม่ใช่แค่กิ๊ฟและเพื่อนเท่านั้น เจ้าของห้องอีก 2 คนก็ได้ยินด้วยกันทั้งหมด 4 คน
เข้าสู่เช้าวันที่ 3 กิ๊ฟก็ได้นั่งคุยกับเพื่อนๆ เพื่อนก็บอกว่ามันดูชักจะยังไงๆอยู่ มีเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับรุ่นพี่ที่หายตัวไปเขาได้ยินว่าวันนั้นกิ๊ฟได้เจอเหตุการณ์กับชายแปลกหน้าตรงนี้ก่อนจะถึงบ้านน้ำดิบ เขาก็อยากให้กิ๊ฟนั้นลองคุยกับพ่อของเขาดู ซึ่งพ่อของเพื่อนคนนี้เป็นตำรวจ เนื่องจากเพื่อนก็ได้คุยกับพ่อแล้วลองปรึกษากันดูว่า ถ้าเกิดรุ่นพี่คนที่หายตัวไปใช้เส้นทางเดียวกับกิ๊ฟ แล้วเวลาก็ไล่เลี่ยกันอาจจะสามารถพบเบาะแสอะไรบ้างก็ได้ ท้ายที่สุดกิ๊บก็ตัดสินใจให้ข้อมูลทั้งหมดกับคุณพ่อของเพื่อน แล้วก็เลยมีการนัดกันให้กิ๊ฟออกไปพบข้างนอก แล้วให้เล่าเหตุการณ์ที่ไปดันรถให้ชายแปลกหน้าคนนั้น พร้อมกับบอกลักษณะรูปร่างหน้าตา และลักษณะของรถมอเตอร์ไซค์ที่กิ๊ฟได้พบได้เจอโดยละเอียด
หลังจากให้ข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ตามมาด้วยก็เอาสำเนาบัตรประชาชนแบบขยายใหญ่ให้กิ๊ฟดู รู้สึกว่าทั้งหมดจะมีประมาณ 10 รูป เพื่อหาลักษณะที่สำคัญของผู้ต้องสงสัย กิ๊ฟก็หยิบมาดูใกล้ๆ พลิกดูทีละรูปทีละคน จนมาสะดุดตากับรูปๆหนึ่งซึ่งหน้าตาคนในนั้นเหมือนกับคนที่กิ๊ฟได้ดันรถให้เลย หลังจากนั้นตำรวจก็บอกกิ๊ฟว่าไปไหนมาไหนให้ระวังตัวให้ดี เนื่องจากคนร้ายยังตามจับไม่ได้คดีก็ยังไม่คลี่คลาย
พอเข้าสู่วันที่ 4 ทางตำรวจก็ได้โทรศัพท์มาบอกกับกิ๊บว่าจับคนร้ายได้แล้ว และก็พบศพรุ่นพี่คนที่หายตัวไปด้วย เจอที่โป่งแดงตอนนั้นกิ๊ฟมีความรู้สึกชาไปทั้งตัว เนื่องจากการสืบสวนของตำรวจสรุปออกมาได้ว่าชายคนเดียวกับพี่กิ๊ฟได้ดันรถให้นั้นเขาเป็นคนฆ่ารุ่นพี่คนที่หายตัวไป แล้วตำรวจก็ได้ให้กิ๊ฟไปชี้ตัวชี้รถ ใช่เลย ทุกอย่างตรงกันทั้งหมด สรุปเรื่องราวทั้งหมดในวันทำแผนดังนี้ คนร้ายที่ก่อคดีนี้ขึ้น
มีทั้งหมด 3 คน คนร้ายนั้นออกอุบายใช้วิธีให้เหยื่อนั้นดันรถเหมือนที่กิ๊ฟเคยเจอ แต่เหยื่อที่เป็นรุ่นพี่นั้นเขาดันรถไม่เป็น ก็เลยยอมสลับไปนั่งรถของคนร้าย คนร้ายจึงได้โอกาสเหมาะ พอดันรถไปเรื่อยๆถึงทางโป่งแดงเป็นทางที่เปลี่ยวมาก คนร้ายก็ดันรถที่รุ่นพี่นั้นเป็นคนขับให้ตกลงไปข้างทาง แล้วก็ลากเหยื่อเข้าไปในป่า หลังจากนั้นจึงเอาไม้ฟาดไปที่หน้าของรุ่นพี่จนกรามหัก แล้วคนร้ายทั้งหมดก็สลับหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันข่มขืน เสร็จแล้วก็ใช้เชือกรัดคอรุ่นพี่คนนั้นแล้วข่มขืนขืนอีกจนเสียชีวิต
ลักษณะทุกอย่างของศพรุ่นพี่นั้นเป็นเหมือนกับในฝันที่กิ๊ฟมองเห็นทุกประการ และเหมือนกับว่าวิญญาณของรุ่นพี่ไปไหนไม่ได้เนื่องจากเหมือนกับโดนสะกดเอาไว้ วิญญาณของรุ่นพี่ไปได้แค่เสียงกับเข้าฝันเท่านั้น อันนี้เป็นส่วนที่กิ๊ฟได้คุยกับคุณแม่ของรุ่นพี่ในวันที่ไปเป็นพยานให้ในชั้นศาลก็ต้องเจอบุคคลอีก 2 คนซึ่งมีส่วนร่วมในคดี ก็คือคุณลุงเลี้ยงวัวกับคนที่รับซื้อโทรศัพท์จากผู้ชายคนที่ฆ่ารุ่นพี่
คุณลุงคนเลี้ยงวัวนั้นเป็นผู้พบศพ เนื่องจากวันนั้นก็ได้พาวัวออกไปเลี้ยงตามปกติ แต่ว่าพอถึงจุดเกิดเหตุที่ซ่อนศพวัวที่แกพาไปรู้สึกตื่นๆแกเลยลองเข้าไปดูก็ปรากฏศพของผู้หญิงนอนเปลือยเปล่าในป่า พร้อมทั้งมีแบงค์ 50 วางอยู่บนหน้าผากของผู้ตาย เขาเล่ากันว่านั่นคือการสะกดวิญญาณโดยการใช้แบงค์
หลังจากขึ้นศาลพิจารณาคดีเสร็จเรียบร้อย กิ๊ฟกลับบ้าน คืนนั้นกิ๊ฟก็ยังฝันแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น ว่ารุ่นพี่คนที่เสียชีวิตนั้นมายืนอยู่ที่ปลายเตียง รุ่นพี่นั้นมายืนยิ้มให้แล้วก็บอกว่า ขอบคุณมากที่ช่วยเขาเอาไว้ แล้วรุ่นพี่ก็หายตัวไป ณ เวลานั้นเมื่อหลายปีที่แล้ว คดีนี้เคยลงหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว และอาจจะเป็นเพราะว่ากิ๊ฟนั้นได้ใช้เส้นทางเดียวกับรุ่นพี่ที่เสียชีวิต แล้วเวลานั้นก็ใกล้เคียงกันทำให้กิ๊ฟสามารถสื่อกับพี่ที่เป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายรายนี้ได้ เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...
Post a Comment