เรื่องจากช่างฝ้า
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณบอยโดยตรงเหตุการณ์เกิดขึ้นต้นเดือนมกราคมปี 2015 คุณบอยมีอาชีพเป็นช่างทำฝ้าเพดานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต คุณบอยเป็นลูกจ้างอีกที บอยรังทำเพดานอยู่โครงการหนึ่งแถวป่าตอง วันหนึ่งเพื่อนหัวหน้าได้ยื่นข้อเสนอให้เขาว่ารับงานนอกไหมเวลาเริ่มงานหลัง 6 โมงเย็น ไม่กระทบต่องานโครงการที่ทำประจำป่าตอง อยู่ในตัวเมืองอยู่ในซอยหนึ่ง บอยตอบรับทันที และบอยได้จ้างลูกจ้างเป็นชาวพม่าไปด้วยอีก2คน
ไปวันแรกพอเห็นสภาพของบ้านโทรมมากๆ แต่ว่าเจ้าของบ้านบอกว่าคนเก่าย้ายไปตอนปีใหม่ บอยก็ไม่คิดอะไร กะว่ารื้อให้เสร็จโดยเร็วจะได้กลับบ้านไวหน่อย ไฟในบ้านหลังนั้นติดแค่ 2 ดวง นั่นก็คือดวงหน้าบ้านกับหลังบ้าน ตรงกลางบ้านนั้นไฟจะออกสลัวๆ ก้าวแรกที่บ่อยย่างเข้าไปในตัวบ้านนั้น ก็รู้สึกหวั่นๆใจเนื่องจากหลังบ้านมีบ่อน้ำอยู่ บ่อน้ำนั้นก็เหมือนกับในหนังเรื่อง the ring เลย ดูแล้วน่ากลัวแถมกลิ่นก็ไม่ค่อยจะดีนัก มีประตูมุ้งลวดปิดอยู่ บอยก็เริ่มทำงานจากห้องนอนด้านหลัง ไฟนั้นไม่มีก็เลยต้องเอาสปอตไลท์ของช่างเสียบปลั๊กเปิดทำงานไปด้วย ตอนระหว่างคลำหาปลั๊กบอยก็เอามือเป็นลูบบริเวณสวิตช์ไฟเพื่อที่จะหาปลั๊กเสียบ แล้วก็รู้สึกเหมือนโดนอะไรเย็นๆ นิ่มๆคล้ายกับมือคน บอยรีบชักมือออกแล้วก็หันหลังเดินออกจากห้อง ไปเรียกเพื่อนที่อยู่บริเวณหน้าบ้านให้มาเปิดไฟให้
ในตอนนั้นบอยรู้สึกขนลุกไปหมดทั้งตัว หน้าของบอยนั้นถอดสีจนเพื่อนทักว่า "เป็นอะไรหน้าซีด" บอยรีบบอกว่า "ไม่มีอะไร เปิดไฟหน่อย เดี๋ยวจะรื้อหน้าบ้านเอง" หลังจากนั้นเพื่อนอีก 2 คนที่ว่าจ้างมาก็เดินนำไปที่ห้องนอนหลังบ้าน ด้วยความกลัวบวกกับความสงสัยบอยก็เลยเดินตามเข้าไปด้วย พอเพื่อนเข้าไปถึงควานหาสวิตช์ไฟ พอเสียบไฟได้เรียบร้อยไฟสปอตไลท์ก็ติดขึ้น แล้วบอยก็ต้องขนลุกอีกรอบเนื่องจากห้องทั้งห้องนั้นเป็นสีแดง มีเสื่อน้ำมันเป็นลายหมากรุก แต่ว่าเสื่อน้ำมันที่พื้นนั้นถูกตัดแหว่งไปประมาณเกือบจะครึ่งห้อง ได้เห็นแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกไม่ดี จึงรีบเดินไปหน้าบ้านลงมือทำงานรื้อฝ้า รื้อไปก็คิดไปถึงสิ่งที่มาสัมผัสมันเหมือนกับมือของคนจริงๆ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรทำต่อไปจนเสร็จ
ล่วงเข้าวันที่ 2 พอรื้อฝ้าเสร็จก็เอาบันไดมาตอกฉากฝ้า บอยนั้นยึดที่ทำงานจุดเดิมคือจุดที่หน้าบ้าน แล้วก็ให้เพื่อนร่วมงานนั้นไปทำในห้องแทน บอยก็พยายามลืมๆเรื่องเหล่านั้นไป พยายามคิดอะไรเพลินๆแทน แล้วบอยก็ได้ยินเสียงดังโครมๆ บอยรีบวิ่งเข้าไปดูในห้อง ก็ปรากฏว่าไฟดับ ได้ยินเสียงของเพื่อนคนงานร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด บอยก็รีบเปิดไฟฉายมือถือขึ้นมาดู เพื่อนนั้นตกจากบันไดลงมาทับสายไฟสปอตไลท์หลุด เพื่อนคนงานอีกคนหนึ่งก็เลยเดินไปเสียบปลั๊กใหม่ พอไฟติดเพื่อนก็บอกว่าอย่าเพิ่งถามอะไรพาไปหาหมอก่อน บอยก็เลยพาเพื่อนไปโรงพยาบาลเนื่องจากเห็นเลือดตรงบริเวณเหนือส้นเท้าออกมาก ทุกคนก็ทิ้งเครื่องมือเอาไว้ที่นั่นก่อนเลย
พอบอยไปถึงโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยเพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า ช่วงตอนที่กำลังตอกฉากอยู่เผอิญว่าตะปูที่อยู่ในกระเป๋าของช่างนั้นหมด ก็เลยจะปีนบันไดลงมาเอาใหม่ ระหว่างลงมานั้นเพื่อนรู้สึกเหมือนเหยียบมือคนก็เลยก้มลงไปดู สิ่งที่เห็นก็คือมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ระหว่างบันไดช่างที่กางอยู่ มือข้างหนึ่งจับขาบันไดที่อยู่อีกฝั่งนึงแล้วมืออีกข้างนึงก็ถูกเท้าของเพื่อนเหยียบอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้มันตกใจมากก็คือคนคนนั้นตัวดำไม่มีหน้าตา เพื่อนก็เลยตกใจพลัดตกจากบันได ค่ำวันนั้นบอยก็เลยไม่กล้ากลับไปเอาเครื่องมือที่บ้านหลังนั้น รอจนเช้าซึ่งเป็นวันหยุดของบอย ก็ได้พาเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้บาดเจ็บกลับไปที่บ้านหลังนั้นด้วยกัน เหลือเพียง 2 คนเนื่องจากอีกคนหนึ่งเจ็บเท้าอยู่ก็เลยไม่มา
วันนั้นรีบไปกันแต่เช้ากะทำให้เสร็จเลย ไม่มีอะไรผิดสังเกต ทุกอย่างดำเนินไปตามงานของมันแบบปกติ จนกระทั่งช่วงหลังบ่ายโมงบอยก็ออกไปกินข้าว ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งนั้นห่อข้าวมาด้วย หลังจากนั้นบอยก็กลับเข้าไปทำงานตามปกติ กะว่าให้เสร็จก่อนค่ำ เพื่อนอีกคนก็เดินถือเครื่องไม้เครื่องมือออกมาจากห้อง บอกกับบอยว่า "พี่ ในห้องทุกอย่างเสร็จหมดแล้วนะ อ้าว แล้วพี่ไม่ไปกินข้าวหรอ เดี๋ยวผมทำต่อข้างนอกนี่ให้เอง" บอยก็ตอบเพื่อนกลับไปว่า "พี่กินแล้ว เนี่ย เพิ่งกลับเข้ามาเอง" เพื่อนนั้นก็ทำหน้าเหวอใส่บอยเลย บอยสังเกตสีหน้าของเพื่อนได้ว่าไม่ปกติ ก็เลยรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ้พื่อนคนงานนั้นก็ถามกลับไปว่า "แล้วพี่ได้เปิดประตูห้องให้ผมหรือเปล่า" บอยได้ยินแบบนั้นก็งงเนื่องจากไม่ได้เดินเข้าไปในตัวบ้านเลย
เพื่อนคนงานบอกต่อว่า ตอนที่กำลังใส่แผ่นฝ้าก็ได้ยินเสียงเหมือนกับมีคนกำลังค้นของในกล่องเครื่องมือดังก๊อกๆแก๊กๆ แล้วก็ปิดประตูดังปั้ง เพื่อนนั้นก็นึกว่าบอยเดินเข้าไปหาอุปกรณ์ และเนื่องจากไฟในห้องนั้นมันมองไม่ชัดมากเพื่อนก็เลยบอกให้บอยนั้นช่วยเปิดประตูทิ้งเอาไว้ให้ด้วย พอเพื่อนตะโกนบอกแบบนั้นเสร็จประตูห้องก็ถูกเปิดออก บอยรีบบอกกับเพื่อนคนงานว่า "ไม่ใช่แล้ว พี่ออกไปกินข้าวมา แล้วก็ไม่ได้เฉียดเข้าไปที่ประตูห้องนั้นเลย" และงานของบอยที่เหลือนั้นก็มีเพียงแค่ใส้ฝ้า ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรแล้ว เพื่อนก็คิดว่าบอยนั้นแกล้ง บอยก็เลยแกล้งเออ ออ ยิ้มๆไป แต่ว่ารู้ในใจว่าไม่ได้เข้าไปแน่นอน สักพักหนึ่งพี่เจ้าของบ้านหลังนั้นก็มาพอดี บอยก็เลยขอเบิกค่าแรงก่อนเพราะว่าเดี๋ยวก็
จะเสร็จงานแล้วเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น เจ้าของบ้านนั้นก็ให้เงินมาตามตกลง บอยก็เลยแบ่งเงินค่าแรงให้กับเพื่อน
ตอนที่กำลังแบ่งเงินกันนั้นมีเสียงดังขึ้นจากหลังบ้านดัง ตุ้บ ดังมากๆ บอยรีบไปดูแต่ไม่เห็นอะไร แต่ว่าเจ้าของบ้านนั้นไม่ดูงานเลยพอให้เงินค่าแรงเสร็จก็รีบขึ้นรถ บอกแค่ว่าให้ปิดประตูบ้านด้วยนะ แล้วก็รีบขับรถออกไปอย่างเร็ว บอยก็ได้แต่งงๆ รีบลงมือทำงานที่เหลืออีกนิดหน่อยให้เสร็จ พองานเสร็จทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยบอยก็ปิดประตูบ้าน ก็ได้เอาเครื่องมือทั้งหมดขึ้นรถ หางตาของบอยก็ได้ไปสะดุดกับสิ่งหนึ่งที่มองผ่านบานเกร็ดหน้าบ้านออกมา มีร่างร่างหนึ่ง ร่างใหญ่ อยู่ในบ้าน ร่างนั้นเป็นสีดำ ดำสนิทเลย บอยไม่คิดที่จะเห็นภาพแบบนั้นคนเดียวจึงรีบสะกิดเพื่อนอีกคนนึงให้ดู แต่ว่าร่างนั้นก็หายไปแล้ว บอยจึงรีบกลับ แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็ผ่านไปไม่มีอะไร และก็ไม่ได้ถามคนแถวนั้นว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านหลังนี้
เวลาผ่านไปเกือบเดือน วันนั้นเป็นวันเงินเดือนออก หัวหน้าก็เลยพาคนงานไปเลี้ยงข้าว ก็นั่งกินนั่งคุยกันไปเรื่อย จนกระทั่งคนงานคนหนึ่งซึ่งไปทำงานกับบอยแล้วพลัดตกบันไดบาดเจ็บ ได้ก็บอกกับหัวหน้าว่า "ผมเคยเจอผีบ้านเพื่อนหัวหน้า" หัวหน้านั้นก็ถามว่า "อย่าบอกนะว่าพวกเมิงไปทำฝ้าบ้านมันในเมือง" เพื่อนคนงานที่ขาบาดเจ็บนั้นก็รีบหันมามองหน้าบอย บอยก็เลยบอกว่า "ใช่ครับ ตั้งแต่ต้นเดือน" หัวหน้านั้นถามกับบอยว่า "แล้วเมิงเจออะไรบ้างไหม" บอยก็เลยบอกว่า "ไม่เจอครับ ทำไมหรอ" ทีนี้หัวหน้าก็เลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ตอนเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว เจ้าของบ้านเข้าไปเก็บค่าเช่าบ้านที่บ้านหลังนั้น แต่ว่าประตูมันล็อค เจ้าของบ้านก็เลยเอากุญแจสำรองไขเข้าไป แค่เปิดประตูเท่านั้นกลิ่นเหม็นเน่าก็พุ่งปะทะออกมาทันที เจ้าของบ้านไม่เข้าไปในตัวบ้าน แต่ว่าได้แจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่มา เจ้าหน้าที่มูลนิธิก็มา สภาพศพนั้นไม่ต้องพูดถึง เน่าจนดำ
เรื่องก็มีอยู่ว่า มีผู้ชายอยู่คนหนึ่งเป็นคนเช่าห้อง แล้วเค้าก็มาอยู่กับแฟน ซึ่งแฟนเขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงมายังไง อยู่ดีๆชายผู้เช่าห้องนั้นก็กลับกลายเป็นศพ เพื่อนบ้านละแวกนั้นบอกว่าได้กลิ่นมาหลายวันแล้ว แต่ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำเน่าคลองหลังบ้าน ไม่ได้คิดว่ามีคนตาย เนื่องจากรถนั้นไม่อยู่ก็คิดว่าไปทำงาน และเพื่อนบ้านแถวนั้นบางคนก็ยังเห็นผู้ที่เสียชีวิตนั้นเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน ส่วนแฟนของผู้เสียชีวิตนั้นก็หนีหายไปเป็นเดือนแล้ว เจ้าของบ้านหลังนั้นเคยติดต่อหัวหน้าให้ไปทำฝ้าที่บ้านหลังนั้นให้ แต่ว่าหลังจากดูสภาพแล้ว หัวหน้าไม่ทำ เนื่องจากดูออกว่าผู้ตายนั้นถูกผูกคออยู่กับฝ้าส่วนกลางตรงหลอดไฟกลางบ้าน มันพังลงมาหมด บอยก็เลยหันหน้าไปมองกับเพื่อนที่ไปทำงานด้วยกันที่เหลือ แล้วก็คิดได้อย่างเดียวว่า สิ่งที่พวกตนได้เจอนั้นไม่ใช่คนแน่ๆ
Post a Comment