สยองห้องข้าง
ที่คอนโดสยองแห่งหนึ่งไม่เอยนามย่านแจ้งวัฒนะ คุณลูกตาลก็ได้ไปซื้อห้องนึงในคอนโดนี้ อยู่ชั้นเจ็ด ในตอนที่คอนโดแห่งนี้กำลังสร้างเสร็จใหม่ๆ และก็อาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้มาประมาณห้าปี
เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ห้องข้างๆ เลขห้องเจ็ดศูนย์แปด เป็นแอร์โฮสเตสถูกสามีฆาตกรรม แล้วเอาศพยัดไว้ในห้อง แล้วตัวสามีก็หนี จนกระทั่งกลิ่นเริ่มออกจากห้อง จึงได้มีคนไปแจ้งตำรวจ มาเอาศพออกไป
หลังจากผ่านไปได้สักพัก คุณลูกตาลก็เริ่มได้ยินเสียงคนใส่รองเท้าส้นสูง เดินลากกระเป๋าอยู่ในห้องข้างๆ "คลืดดดดดด" แล้วคนที่อยู่ห้องใกล้ๆห้องเจ็ดศูนย์แปด จะได้ยินเสียงคนใส่รองเท้าส้นสูง เดินลากกระเป๋ามาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง แล้วเคาะประตูตอนดึกๆอยู่เป็นประจำ "คลืดดดดดดด..ก๊อก..ก๊อก" แต่พอเปิดออกไปดู ก็ไม่เจอใคร
วันนึงคุณลูกตาลเดินออกไปคุยโทรศัพท์อยู่ที่หน้าลิฟท์ ข้างๆลิฟท์จะเป็นบันไดหนีไฟ ก็สังเกตเห็นอะไรแวบๆ อยู่ตรงชั้นบนของบันได จึงหันไปมอง ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงผมยาวๆ ตัวดำๆ โยกตัวออกมามองครึ่งลำตัว แล้วโยกตัวหลบเข้าไป
คุณลูกตาลยืนตัวแข็งอยู่กับที่ แล้วก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน คุณลูกตาลได้สติ จึงรีบวิ่งเข้าห้อง จนกระทั่งคุณลูกตาลอยู่ที่ห้องนี้ครบเจ็ดปี
วันนั้นเวลาประมาณห้าทุ่ม คุณลูกตาลนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียง กล่องเหล็กที่วางอยู่บนชั้นวางของ ก็ตกลงมาเอง คุณลูกตาลจึงเดินไปหยิบมาวางไว้ที่เดิม แล้วกลับไปนอนคุยโทรศัพท์ต่อ
สักพักก็ตกลงมาอีก คุณลูกตาลเริ่มรู้สึกตงิดๆ จึงลุกขึ้นมาเก็บ แล้วเอาไปวางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จึงเดินไปส่องดูที่ตาแมว แต่ก็ไม่เจอใคร คุณลูกตาลไม่อยากคิดอะไรมาก
จึงกลับมานอน จนเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูอีกครั้ง คราวนี้คุณลูกตาลไม่กล้าลุกไปดู จึงได้นอนอยู่ที่เตียง แล้วเสียงเคาะมันก็เริ่มเคาะไล่เข้ามา จากประตูมาจนถึงผนังข้างห้องเจ็ดศูนย์แปด
ลักษณะเหมือนคนเดินเคาะจากประตูหน้าห้อง แล้วเดินทะลุเข้าไปในห้องข้างๆ แล้วเคาะไล่ตามกำแพงมาเรื่อยๆ แล้วเสียงมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนใช้กำปั้นทุบผนัง ไล่จนมาถึงหัวเตียงของคุณลูกตาล แล้วก็ทุบรัวๆอยู่ตรงนั้น
คุณลูกตาลนอนตัวสั่นคลุมโปง ความกลัววิ่งไปทั่วร่างกาย จึงรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อน ให้มารับตอนนี้เลย ไม่ไหวแล้ว แต่เพื่อนก็บอกว่าอย่าคิดมาก อยู่มาตั้งนานแล้ว คงไม่มีอะไรหรอก
สักพักเสียงก็เงียบ คุณลูกตาลจึงรู้สึกหายใจได้ทั่วท้องขึ้น แต่แค่พักเดียว เสียงเคาะก็กลับมาอีก แต่คราวนี้ลักษณะการเคาะ เหมือนใช้ทั้งสองกำปั้นทุบผนัง เหมือนคนโกรธจัด คุณลูกตาลตกใจสติเกือบหลุด
พยายามสวดมนต์พระพิฆเนศ จนไม่รู้กี่จบต่อกี่จบ แล้วเสียงก็เงียบไป คุณลูกตาลรู้สึกอยากออกไปจากที่นี่มาก แต่ไม่กล้าขยับตัว ต้องนอนขดตัวคลุมโปงอยู่แบบนั้น จนเคลิ้มหลับ
มารู้สึกตัวอีกที เหมือนมีคนมายืนอยู่ข้างๆเตียง จึงลองมองลอดผ้าห่มออกไป เห็นเป็นเงาดำๆ ยืนอยู่ข้างๆเตียง ด้วยความตกใจจึงลุกพรวดขึ้นมา แต่ก็ไม่เจออะไร ภายในห้องยังพอมีแสงไฟจากด้านนอก ฉายเข้ามาสลัวๆ
ก็คิดว่าตัวเองคงจะฝันไป จึงได้นอนต่อ แต่ยังไม่ทันหลับ ก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ทั่วห้อง "แกร่บๆๆๆๆ" คุณลูกตาลไม่กล้าลืมตาขึ้นมาดู เพราะกลัวว่าจะเจอกับภาพที่รับไม่ได้ จึงได้แต่นอนตัวแข็งอยู่แบบนั้น อยากจะวิ่งออกไปให้มันพ้นๆจากที่นี่ แต่ก็ขยับตัวไม่ได้
สักพักก็รู้สึกว่าเตียงข้างๆมันยวบลง เหมือนมีคนลงมานอนด้วย จนคุณลูกตาลรู้สึกอยากร้องไห้ คิดว่าทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงควานหาโทรศัพม์ข้างตัวมากดโทรหาเพื่อนให้มารับ เพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวจะออกไปหา และไม่ต้องวางหูโทรศัพท์
คุณลูกตาลจึงค่อยๆเลื่อนตัวลงไปนั่งกอดเข่าร้องไห้ พนมมืออยู่ข้างๆเตียง แต่ก็ยังได้ยินเสียงเดินไปมาอยู่รอบๆตัว "แกร่บๆๆๆๆ" คุณลูกตาลจึงคิดในใจว่า ทำไมต้องมาทำแบบนี้ด้วย อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยไปลบหลู่อะไรเลย
แล้วก็มีเสียงหัวเราะเบาๆที่ข้างหู "ฮิฮิฮิ" เหมือนหัวเราะเยาะเย้ย คุณลูกตาลจึงค่อยๆคลานขึ้นไปนอนคลุมโปง ร้องไห้อยู่บนเตียง แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่าง มานาบที่ผ้าห้ม ลักษณะเหมือนคนเอาหน้ามาถู
จนคุณลูกตาลไม่รู้จะทำยังไง ต้องรอให้เพื่อนมารับอย่างเดียว จนสักพักเพื่อนก็มาเคาะประตู แล้วเรียกอยู่หน้าห้อง คุณลูกตาลรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ลุกพรวดขึ้นจากที่นอน แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูให้เพื่อนเข้ามา
แล้วเพื่อนก็ถามว่า ทำไมในห้องมีกลิ่นแปลกๆ กลิ่นอับๆสาบๆ บอกไม่ถูก แล้วตอนที่กำลังเดินทางมาหา ก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงพูดอะไรสักอย่าง ฟังไม่ออก ผ่านโทรศัพท์ คุณลูกตาลยังไม่อยากคุยอะไรตอนนี้ จึงรีบไปที่บ้านของเพื่อนกันก่อน
หลังจากวันนั้นมา คุณลูกตาลก็ได้ย้ายออก แล้วปล่อยให้คนอื่นมาเช่าแทน วันที่มาขนของย้ายออก คุณลูกตาลได้สังเกตที่ห้องเจ็ดศูนย์แปด ไม่มีลูกบิดประตู ทางโรงแรมน่าจะมาถอดออกไปเอง ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment