โค้งตายโหง
โค้งอันตรายมีวิญญาณตายโหงสิงอยู่มากมาย เช่นเรื่องของคุณปู คุณปูอาศัยอยู่ในอำเภอหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เมื่อประมาณยี่สิบห้าปีที่ผ่านมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังเลิกเรียนก็ได้เดินกลับบ้านกับเพื่อน และผ่านหมู่บ้านหนึ่ง ก็เห็นเค้ามาตั้งจอหนังกลางแปลง
หมู่บ้านนี้จะเป็นทางผ่านระหว่างอำเภอและโรงเรียน เพื่อนของคุณปู จึงชวนกันว่า เย็นนี้เดี๋ยวมาดูหนังกัน พอกลับถึงบ้าน ทำธุระกันเสร็จแล้ว ช่วงเวลาประมาะสองทุ่ม ก็ได้ไปที่หมู่บ้านแห่งนี้กันกับเพื่อนอีกสามคน จนหนังจบก็เดินกลับบ้าน
ระหว่างทางเดินกลับบ้าน สองข้างทางจะเป็นทุ่งนาที่ปลูกถั่วเขียว และจะไม่มีคนเลย นอกจากคุณปูเและเพื่อนอีกสามคน สักพักคุณปูรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังมาเงียบๆ จึงหันไปดู ก็เห็นน้องผู้ชายคนนึง อายุประมาณเจ็ดขวบ กำลังเดินตามหลังมาด้วย
คุณปูจึงบอกเพื่อนว่า เดี๋ยวหยุดรอเด็กก่อน จะได้มีเพื่อนกลับบ้านด้วยกัน เพื่อนก็หันกลับไปดู แล้วก็บอกว่า ไม่เห็นมีใครตามมาเลย พอคุณปูหันกลับไปดู ปรากฏว่าเด็กคนนั้นหายไปแล้ว ด้านหลังมีแต่ความมืด
คุณปูก็คิดว่า สงสัยน้องเค้าจะแวะลงทุ่งนาข้างทางไปแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจ แล้วเดินกลับกันต่อ จนถึงทางโค้ง ตรงหัวมุมโค้งจะมีแต่กระทงไหว้ผีเก่าๆอยู่เต็มไปหมด เพราะมักจะเกิดอุบัติเหตุที่โค้งนี้บ่อยมาก
จังหวะที่กำลังเดินผ่านโค้ง คุณปูเหลือบไปเห็นเงา นั่งกอดอดอยู่บนเสาหลักกิโล ตรงหัวมุมทางโค้ง ห่างจากคุณปูประมาณห้าวา ลักษณะคล้ายผู้ชาย แต่มองเห็นไม่ชัด จะเป็นเงาดำๆขมุกขมัว คุณปูขนลุกตั้งไปทั้งตัว รู้สึกเย็นวูบวาบอยู่ตรงบริเวณท้ายทอย
จนเดินผ่านมาได้สักพัก คุณปูอยากจะถามเพื่อนตอนนั้นเลยว่า เห็นกันมั้ย แต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรออกไป ทุกคนจึงเดินกันอย่างเงียบๆ ทุกอย่างรอบตัวก็เงียบลงไปหมด ได้ยินแต่เสียงฝีเท้ากับลมหายใจของทั้งสี่ชีวิต
ทั้งสี่คนเดินไปได้สักพัก หูลองเท้าของเพื่อนก็หลุด เพื่อนจึงได้ไปหยิบไม้ข้างทางมาแยง ระหว่างนั้น คุณปูพยายามเหลือบตากลับไปมองทางที่พึ่งเดินผ่านมา ปรากฏว่าเห็นผู้ชายคนนั้น ที่นั่งอยู่บนเสาหลักกิโล ใส่เสื้อสีขาว เปื้อนๆขาดๆ หน้าดำๆ กางแขนทั้งสองข้าง เหมือนหุ่นไล่กา เดินโยกแยกตามหลังมาด้วย จนเกือบจะถึงตัวเพื่อน
พอเพื่อนเห็นเข้า ก็กวาดก้อนหินบนพื้นขึ้นมาเขวี้ยงใส่ทันที แล้วต่างก็วิ่งหนีกันไม่คิดชีวิต จนมาถึงสี่แยกทางเข้าวัด เพื่อนจึงถามว่า เข้าวัดกันมั้ย ผีมันไม่กล้าเข้าวัด ทุกคนจึงไปหมอบดูอยู่ที่พุ้มไม้ต้นเตย ด้านในประตูวัด
สักพักก็เห็นเป็นเงาดำๆ เดินมาตามทาง แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูวัด เหมือนว่าจะเข้ามาในวัดไม่ได้ ทุกคนจึงหมอบหลบอยู่ในพุ้มต้นเตย จนผ่านไปสักพักก็ลุกขึ้นมาดู เงานั้นก็หายไปแล้ว
ทุกคนจึงนั่งมองหน้ากัน ต่างคนต่างก็กลัว ทำอะไรไม่ถูก จึงคิดว่ากลับบ้านกันก่อนดีกว่า จนเช้ามา เพื่อนนอนจับไข้กันทั้งสามคน แต่คุณปูไม่เป็นอะไร จึงได้เล่าให้คุณยายฟัง
คุณยายบอกว่า สงสัยจะเป็นวิญญาณของคนตายโหงแถวๆนั้น คุณยายจึงพาคุณปูไปอาบน้ำมนต์กับหมอธรรม และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment