แกะผ้ายันต์
ความเชื่อที่มีมาช้านานหลากหลายประทศที่ยันต์สามารถสะกดความชั่วร้าย เรื่องของคุณวิน เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา คุณวินเรียนอยู่มหาลัยปีสี่ อายุยี่สิบสอง เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นที่คอนโดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี คุณวินได้มีโอกาสไปรู้จักกับพี่ผู้ชายคนนึง อายุห้าสิบต้นๆ และคบกันในสถานะแฟน
แฟนของคุณวินจะทำงานไปกลับต่างประเทศบ่อยๆ และได้ชวนคุณวินมาอยู่ที่ห้องด้วย ลักษณะจะเป็นคอนโด ปลูกติดกันสองตึก อยู่ชั้นห้า แถวๆถนนเส้นนึงในจังหวัดนนทบุรี และส่วนมากคนที่มาเช่าอยู่ในคอนโดแห่งนี้ จะเป็นคนที่เกษียณอายุแล้ว จะไม่ค่อยมีวัยรุ่น
สไตล์ของห้อง จะจัดเป็นแนววินเทจ ขาวสลับดำ ถ้าเดินเข้าไปในห้อง จะมีทีวีตั้งอยู่ขวามือ และโซฟาอยู่ซ้ายมือ ตรงเข้าไปอีกหน่อยจะมีหิ้งพระอยู่สองหิ้ง เอาไว้เก็บพวกพระเครื่องกับเครื่องราง และอีกหิ้งจะเป็นรูป ร.5
ในตอนที่แฟนไปทำงานต่างประเทศ คุณวินจะพักอยู่ที่ห้องคนเดียว แล้วมีอยู่วันนึง คุณวินไม่มีเรียน จึงได้ทำความสะอาดห้อง และไปเจอยันต์อยู่ผืนนึง ประมาณเท่าฝ่ามือ สีแดง ติดอยู่ตรงใต้ฐานของพระพุทธรูป
ด้วยความอยากรู้ ก็เลยแกะยันต์ออกมา บนผ้ายันต์ มีตัวหนังสือที่อ่านไม่ออกอยู่เต็มผืน คุณวินจึงใช้ผ้าเช็ด แล้ววางไว้บนหิ้ง คืนวันนั้น ตอนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง กำลังเคลิ้มหลับ
ก็รู้สึกว่ามีคนมายืนจ้องหน้า อยู่ตรงระเบียงหลังห้อง จึงผงกหัวขึ้นมาดู ก็ไม่เจอใคร จึงได้นอนต่อ เช้าวันต่อมา แฟนก็ได้กลับมาจากต่างประเทศ คืนนั้นเวลาประมาณตีสาม แฟนก็ได้นอนละเมอพูดอยู่คนเดียว ลักษณะเหมือนกำลังพูดโต้ตอบอยู่กับใครสักคน คุณวินก็ไม่ได้สนใจ
จนเช้ามา ก่อนที่แฟนจะออกไปทำงาน ก็ได้พูดกับคุณวินว่า "ทีหลัง ตอนกลางคืนอย่าไปเล่นโทรศัพท์หน้าโต๊ะกระจกนะ ไฟมันแยงตา" คุณวินก็พูดว่า "ละเมออะไรหรือป่าว เมื่อคืนยังไม่ได้ไปเล่นอะไรอยู่หน้าโต๊ะกระจกเลยนะ"
จนแฟนของคุณวินกลับไปทำงานต่อที่อังกฤษ วันนั้นเป็นวันศุกร์ คุณวินต้องอยู่ทำงานที่มหาลัยจนดึก พอเสร็จจากงาน เวลาประมาณสี่ทุ่ม ก็ได้ออกมาหาอะไรทานที่ตลาด แล้วไปเจอกับเด็กผู้ชายคนนึง อายุประมาณสิบหกปี
ยืนจ้องหน้า คุณวินก็ไม่ได้คิดอะไร จึงเลือกซื้อของต่อ แล้วน้องผู้ชายก็เดินพุ่งเข้ามาหา แล้วพูดว่า "พี่ครับ ผมขอเงินเจ็ดสิบบาท" คุณวินก็คิดว่าเป็นพวกเด็กติดเกม จึงไม่สนใจ แล้วก็เดินหนี
แต่น้องผู้ชายก็ยังยืนจ้องคุณวินอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่คุณวินเลือกซื้อของเสร็จแล้ว ก็เดินกลับห้อง ก็สังเกตว่าน้องผู้ชายกำลังเดินตามหลังมา ห่างกันประมาณหนึ่งร้อยเมตร คุณวินก็กลัวว่าจะโดนจี้
จึงเร่งฝีเท้าขึ้น จนถึงคอนโด ก็หันกลับไปมอง ก็เห็นน้องผู้ชายยืนอยู่ใต้ต้นไม้ข้างคอนโด หยิบหมวกขึ้นมาคลุมหัว แล้วยืนสั่นหัวอยู่กับที่ คุณวินจึงรีบเดินขึ้นคอนโดไปกดลิฟท์
แล้วก็ได้ยินเสียงตะโดนตามหลังมาว่า "พี่ ผมขอเงินเจ็ดสิบบาทกลับบ้าน ทำไมไม่ให้" คุณวินไม่กล้าหันกลับไปมอง จึงรีบเข้าไปในลิฟท์ พอถึงชั้นห้า ก็รีบเข้าห้อง คืนนั้น ตอนที่คุณวินกำลังจะหลับ
เวลาประมาณตีหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูหลังห้อง จึงได้ลืมตาขึ้นมาดู ก็เห็นเงาคนดำๆเดินไปเดินมาอยู่ตรงแถวๆหน้าประตูหลังห้อง คุณวินคิดว่าเป็นขโมย จึงรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟ แต่ก็ไม่เจอใครในห้อง
จึงพยายามไม่คิดอะไรมาก แล้วข่มตานอน หลังจากวันนั้น คุณวินรู้สึกว่ามีคนอยู่ในห้องด้วยคลอดเวลา เห็นเป็นเงาดำๆ แอบอยู่ตามซอกตู้เสื้อผ้า หรือตามข้างๆเตียง หนักสุดคือตอนที่คุณวินตกใจตื่นมากลางดึก ก็เห็นเงาของใครสักคน ยืนสั่นหัวอยู่ปลายเตียง
พอรีบลุงขึ้นไปเปิดไฟ ก็ไม่เจอใคร คุณวินจึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับลูกน้องเก่าของแฟน ชื่อคุณจิ๊บ ตอนนี้ไม่ได้ทำงาร่วมกันแล้ว คุณจิ๊บจึงเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณสองปีก่อน แฟนของคุณวินได้คบกับเด็กผู้ชายอยู่คนนึง อายุสิบแปดปี อาศัยอยู่ในห้องนั้นด้วยกัน
แล้วมีอยู่วันนึง ได้เกิดมีปากเสียงกันขึ้น แฟนของคุณวินก็ได้หนีออกไปจากคอนโด ทิ้งให้น้องอยู่ในห้องคนเดียว แล้วน้องเป็นโรคหอบหืด อาการกำเริบขึ้นมาพอดี จึงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จนเสียชีวิตลงในห้องนั้น
หลังจากนั้น แฟนของคุณวินก็โดนน้องผู้ชายมารบกวนทุกคืน ตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงเดินอยู่รอบห้อง และเสียงเปิดปิดประตูห้องน้ำ บางคืนก็รู้สึกเหมือนมีคนมาขย่มเตียงนอน พอตื่นขึ้นมาก็เห็นน้องผู้ชายกำลังกระโดดเล่นอยู่บนเตียง จนอยู่ไม่ได้
แฟนคุณวินจึงได้ไปเล่าให้คุณจิ๊บฟัง แล้วชวนคุณจิ๊บไปปรึกษาเรื่องนี้กับพระอาจารย์ที่นับถือท่านนึง ในจังหวัดนครปฐม ท่านก็ได้ให้ผ้ายันต์สีแดงมาผืนนึง แล้วบอกว่าให้เอาไปติดไว้ใต้ฐานพระพุทธรูป แล้วดวงวิญญาณของน้องจะไม่มารบกวน
หลังจากนั้น คุณวินจึงได้เอาผ้ายันต์ไปเปะไว้ที่ใต้ฐานพระพุทธรูปเหมือนเดิม น้องผู้ชายก็ไม่ได้มารบกวนอีกเลย และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment