เธอคือ
เรื่องราวสุดหลอนของคุณโยธิน เมื่อห้าปีที่ผ่านมา คุณโยธินเป็นพนักงานเครื่องเสียงในโรงแรมแห่งนึง ในจังหวัดชลบุรี โรงแรมซื้อระบบไฟมาแล้วมีช่างจากบริษัทเข้ามาเช็คระบบไฟกันตอนบ่ายสอง จนถึงประมาณสามทุ่ม ก็ติดตั้งกันเสร็จ จึงได้มาลองบอร์ดไฟ ช่างที่มาติดตั้งก็ได้สอนระบบให้กับพนักงานโรงแรม
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เมื่อห้าปีที่ผ่านมา คุณโยธินเป็นพนักงานเครื่องเสียงในโรงแรมแห่งนึง โรงแรมแห่งนี้มีระบบเสียงอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีระบบไฟ ก็มีเซลเข้ามาขายระบบไฟให้
ทางโรงแรมก็ตกลง ซื้อระบบไฟมา แล้วมีช่างจากบริษัทเข้ามาเช็คระบบไฟกันตอนบ่ายสอง จนถึงประมาณสามทุ่ม ก็ติดตั้งกันเสร็จ จึงได้มาลองบอร์ดไฟ ช่างที่มาติดตั้งก็ได้สอนระบบให้กับพนักงานโรงแรม
ช่างของโรมแรมจะมีอยู่ประมาณหกคน ก็สอนกันจนถึงประมาณห้าทุ่ม แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจกัน ช่างติดตั้งก็เลยบอกให้แยกกัน โดยจะสอนทีละสองคน เพราะถ้าสอนพร้อมกันหมดจะทำให้เข้าใจยาก
คุณโยธินกับเพื่อนก็ได้มานั่งรอกันในออฟฟิศ ปล่อยให้ช่างติดตั้งสอนพนักงานรุ่นพี่สองคนก่อน ก็ได้นั่งรอกันจนถึงประมาณตีหนึ่ง คุณโยธินก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง ลักษณะการเคาะเสียงดังเหมือนรีบให้มาเปิด
คุณโยธินและเพื่อนจึงตกใจตื่น แล้วเดินไปเปิดประตู ก็เห็นรุ่นพี่สองคน แล้วรุ่นพี่ก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในออฟฟิศ เข้าไปนั่งเก้าอี้ด้านในสุด แล้วเอาผ้าห่มคลุมโปง นั่งตัวสั่นอยู่กับที่
แต่รุ่นพี่อีกคนไม่ได้เข้ามาในออฟฟิศ แต่เดินเลยออฟฟิศไปที่รถ แล้วสตาร์ทรถขี่ออกไปเลย คุณโยธินจึงชวนเพื่อนอีกคนไปดูบอร์ดไฟ เพระตอนที่สอนกันแรกๆ ก็พอจะรู้อยู่บ้างนิดหน่อย
คุณโยธินเดินออกจากออฟฟิศ ทางซ้ายจะเป็นห้องประชุมที่มีบอร์ดไฟวางอยู่ ทานขวาจะเป็นทางไปห้องน้ำ คุณโยธินจึงบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน เพื่อนจึงเดินไปที่ห้องประชุมก่อน
หลังจากที่คุณโยธินทำธุระเสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาจนถึงหน้าห้องออฟฟิศ ก็เห็นเพื่อนเดินแบบกึ่งวิ่ง ออกมาจากห้องประชุม แล้วรีบเข้าไปในออฟฟิศ คุณโยธินเข้าใจว่าเพื่อนคงจะไปเอาสมุดมาจดบันทึก
คุณโยธินจึงเดินเข้าไปในห้องประชุมก่อน แล้วกำลังจะเดินไปถึงส่วนหลังของห้องประชุม แต่ยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคุยกัน ประมาณสามถึงสี่คน คุณโยธินคิดว่าเป็นช่างอีดชุดนึง เข้ามาดูบอร์ดก่อน
คุณโยธินจึงผลักประตูเข้าไป ปรากฏว่าในห้องไม่มีใครเลย ภายในห้องมีไฟสลัวๆ แล้วมีควันที่เอาไว้จัดแสดง ลอยอยู่ทั่วห้อง คุณโยธินก็เอะใจ เมื่อกี้ได้ยินเสียงคน แล้วตอนนี้คนหายไปไหน
คุณโยธินรู้สึกเสียวสันหลัง แต่ก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะคิดว่าเดี๋ยวเพื่อนที่ไปเอาสมุดคงจะตามหลังมา จึงไปนั่งที่บอร์ดไฟ แล้วลองเล่นดู ใส่โปรแกรมเพลง แล้วลดแสงไฟลง มืดจนแทบจะมองมือของตัวเองไม่เห็น แล้วก็ดันไฟสีเขียวขึ้น ไฟสีเขียวก็จะค่อยๆสว่างขึ้นมา
แล้วคุณโยธินก็มองไปบนเวที เห็นเป็นผู้หญิงห่มสไบ ยืนอยู่ด้านซ้ายมือของเวที คุณโยธินตกใจมาก รีบลดแสงลง แล้วก็มานั่งคิดว่า อาจจะเป็นควันแสดง ที่มันลอยขึ้นมาเป็นลักษณะคล้ายคน
คุณโยธินก็ลองเร่งไฟสีแดงขึ้นบ้าง ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงกลางเวที คุณโยธินขนลุกทั้งตัว นั่งตัวแข็งอยู่กับที่ เริ่มมั่นใจแล้วว่าไม่ได้เกิดจากควันแสดง คุณโยธินรู้สึกคาใจมาก อยากจะรู้ให้มันชัวๆว่าเป็นคนหรืออะไรกันแน่
จึงได้ดันไฟทุกสีที่มือสามารถดันขึ้นไปได้ บนเวทีสว่างไสวไปด้วยไฟสีต่างๆ ก็เห็นผู้หญิงห่มสไบสีเขียว กำลังรำช้าๆอยู่กลางเวที คุณโยธินมองตาค้าง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
แล้วด้านล่างเวทีในไฟสลัวๆ คุณโยธินก็สังเกตเห็นผู้ชายถอดเสื้อสามคน นั่งอยู่ห่างจากเวทีประมาณสามเมตร คุณโยธินคิดว่าอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงรีบกระโดดข้ามบอร์ดไฟ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องออฟฟิศ แล้วคลุมโปง
จนตอนเช้า ประมาณแปดโมง รุ่นพี่สองคนกับเพื่อนก็ได้มานั่งคุยกัน แต่คุณโยธินนั่งฟังเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร รุ่นพี่เล่าว่า ตอนที่กำลังนั่งทำไฟกันอยู่ในห้องประชุม ก็ได้มองขึ้นไปบนเวที แล้วก็ไปสะกิดเพื่อนอีกคนว่าเห็นอะไรมั้ย
เพื่อนจึงมองขึ้นไปบนเวที แล้วดันไฟขึ้น ให้บนเวทีสว่าง เพื่อนก็ตอบขึ้นมาทันทีว่า เห็น แล้วก็ทิ้งของทุกอย่าง เดินออกจากห้องประชุมกัน
แล้วเพื่อนของคุณโยธินจึงเล่าขึ้นมาบ้างว่า ระหว่างที่กำลังเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคุนกัน แต่พอเปิดเข้าไปดู ก็ไม่เจอใคร เพื่อนรู้สึกคนลุกมาก แต่ก็ยังกัดฟันไปนั่งที่บอน์ดไฟ
แล้วหูก็ได้ยินเสียงคนปรบมือ ร้องรำทำเพลงกันอยู่ในความมืดบนเวที จึงรีบวิ่งออกมาจากห้องประชุม คุณโยธินจึงเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้คนอื่นๆฟัง
แล้วคุณโยธินก็ได้ทราบประวัติมาว่า ตอนที่ติดตั้งไฟด้านบนของเวที นั่งร้านได้ล้มลงมา จึงมีคนงานตกลงมาสองคน แล้วนั่งร้านก็ทับคนข้างล่างเสียชีวิตหนึ่งคน ส่วนอีกสองคนที่ตกลงมาจากนั่งร้าน ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
แต่ก็ไม่ทราบประวัติของผู้หญิงที่รำอยู่บนเวที หลังจากนั้น เวลาที่คุณโยธินทำงาน จะต้องเลี่ยงที่จะเดินผ่านห้องประชุมนี้ทุกครั้ง และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment