บ้านพักครูหลังโรงเรียน


     เรื่องราวการเล่นซ่อนหาของ คุณเคนเมื่อครั้งสมัยยังเยาวัย เขาและเพื่อนๆเล่นกันตามประสาเด็กจนค่ำมืด และก่อนพวกเขาจะกลับนั้นได้ชวนกันไปเล่นซ่อนหา และการเล่นซ่อนหานี่แหละที่ทำให้เขา แลคนอื่นต่างก็เจอกับเรื่องราวหลอนๆนี้กันไปตามกัน เมื่อพบว่าสถาที่ซ่อนตัวนั้นมีเรื่องประวัติหลอนๆเกิดขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว สมัยที่เคนยังอยู่ในวัยเรียน เคนมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่งชื่อว่านที นทเป็นเด็กที่ย้ายมาจากโรงเรียนอื่นก็เลยไม่ค่อยจะมีเพื่อนมากเท่าไหร่นัก มีแต่เคนเนี่ยแหละที่ค่อนข้างจะสนิทกับนทีมากกว่าเพื่อนๆคนอื่น ชีวิตในช่วงเวลานั้นสนุกมากเวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์เคนและเป็นเพื่อนอีก 3 4 คนรวมทั้งทีก็มักจะชวนกันไปเล่นตามทุ่งนา ยิงนก ตกปลา ตามประสาวัยเด็กพอตกเข้าตอนเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บรรยากาศบ้านนอกสมัยนั้นพอตะวันตกดิน ฟ้ามืด เสียงจิ้งหรีดเรไรก็เดิมร้องกันระงมก็ไม่ค่อยจะมีใครอยากออกมานอกบ้านแล้ว ชีวิตในวัยเด็กของเคนและเพื่อนๆก็ดำเนินไปตามปกติเหมือนที่เคยเป็น

             จนกระทั่งวันนั้นเป็นวันหยุดวันหนึ่ง เคนและเพื่อนๆก็ชวนกันไปเล่นตามไร่ตามทุ่งนาเหมือนเช่นเคย พอตกเย็นเริ่มเหนื่อยก็ชวนกันกลับบ้าน ในระหว่างทางกลับบ้านนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าต่อ เขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า "นี่เพิ่งจะ 4 โมงเย็นเองพวกเราไปเล่นกันต่อที่โรงเรียนเอาไหม"แต่ว่านทีก็พูดขึ้นมาว่า "แม่เราไม่ให้กลับบ้านเย็นมาก เดี๋ยวแม่เป็นห่วง เรากลัวแม่ดุ" ต่อก็เลยพูดขึ้นมาว่า "เอาหน่า ไปเล่นกันแป๊บเดียวเองแล้วเดี๋ยวค่อยกลับบ้านพร้อมกัน" นทีก็เลยบอกว่า "ก็ได้ แต่อย่าให้มืดนักนะ" ทุกคนก็เลยตกลงไปเล่นกันต่อที่โรงเรียน พอไปถึงก็กำลังประชุมกันว่าจะเล่นอะไรกันต่อดี ในระหว่างนั้นเคนเกิดปวดฉี่ ก็เลยเดินไปที่ห้องน้ำของโรงเรียนโดยที่ชวนนทีมาเป็นเพื่อนด้วย ระหว่างขากลับนั้นก็เดินมาเจอเข้ากับลุงภารโรงที่ดูแลโรงเรียน เดินสวนกับแกพอดี ลุงคนนี้ชื่อว่าลุงหล่อ ระหว่างที่เดินสวนกันนั้น ลุงหล่อก็ยิ้มให้กับเด็กทั้งคู่แล้วนทีก็บอกกับเคนว่า "แกจะยิ้มให้เราทำไม ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย" เคนก็ตอบกลับไปว่า "ก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าแกสติไม่ค่อยดี อย่าไปถือสาอะไรแกเลย" ตัวของเคนนั้นเห็นลุงหล่อมาตั้งแต่เด็ก ก็จะไม่กลัวเท่าไหร่

                 พอเดินกลับไปรวมกับเพื่อนทุกคนก็ตกลงกันได้แล้วว่าจะเล่นซ่อนหากัน โดยที่มีข้อกำหนดว่าจะเล่นกันบริเวณใต้ถุนโรงเรียนแล้วก็อย่าไปซ่อนไกลเดี๋ยวจะหากันไม่เจอ แล้วก็เริ่มเล่นกัน เล่นกันไปได้สักพักนึงช่วงครั้งสุดท้ายต่อต้องเป็นคนหา ทุกคนรีบวิ่งไปหาที่ซ่อนของแต่ละคน เคนเห็นตู้ล็อคเกอร์ที่ตั้งอยู่ ในตู้มีที่ว่างอยู่ก็เลยเลือกที่จะเข้าไปหลบอยู่ด้านไหน แล้วก็ปิดประตูจากด้านในล็อกเกอร์บรรยากาศตอนนั้นเริ่มเย็นมากแล้ว เคนได้แต่ภาวนาว่า ขอให้หาเจอเร็วๆ อยากกลับบ้านแล้ว

                  ในระหว่างที่รออยู่นานนั้น ช่วงที่เคนกำลังจะเปิดประตูล็อกเกอร์ออกไป เคนก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาที่ตู้ที่เคนกำลังซ่อนอยู่ โดยที่เคนนั้นก็กำลังมองลอดผ่านช่องลมของประตูออกไป แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นหน้าของชายคนนั้นได้ เนื่องจากว่าชายคนนั้นตัวสูงใหญ่มาก แล้วผู้ชายคนนั้นก็เริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูตู้ล็อคเกอร์ที่เคนซ่อนอยู่ด้านใน แล้วก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "กำลังทำอะไรอยู่" วินาทีนั้นเคนตกใจมาก หลับตาปี๋จากความกลัว ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว เคนพยายามเปิดประตูล็อกเกอร์ออก แต่ว่าประตูตอนนี้ถูกล็อคจากด้านนอก เคนจึงพยายามเรียกหาให้เพื่อนมาช่วย พร้อมกับเรียกชื่อเพื่อนทุกๆคน แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับ เคนจึงใช้ตัวกระแทกประตูจากด้านในอย่างแรง จนประตูนั้นหลุดออก แล้วก็รีบวิ่งออกมาจากบริเวณนั้น
ด้วยอาการกลัวจนสติแตก

                  พยายามมองหาเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เจอใคร ยืนคุมสติอยู่พักนึงก็เห็นต่อกับต๋องวิ่งหน้าตาตื่นมาหา แล้วก็ถามว่า "ไปซ่อนที่ไหนมาหากันแทบตาย นึกว่ากลับบ้านไปกับนทีแล้ว" เคนก็รีบบอกว่า "เดี๋ยวค่อยกลับไปเล่าที่บ้านละกัน เอ้า แล้วนทียังหาไม่เจอหรือ" ต๋องก็เลยตอบกลับไปว่า "เห็นเดินไปด้วยกัน นึกว่าไปซ่อนด้วยกันซะอีก" เคนก็เลยพูดว่า "ตอนแรกก็เดินตามหลังมาอยู่ดีๆ หันหลังไปอีกทีนทีก็หายไปแล้ว"ณ เวลานั้นฟ้าเริ่มมืดลง บรรยากาศก็เริ่มสงัด ทุกคนก็เลยแยกย้ายกันไปหาอีกครั้ง แต่ก็ไม่เจอนที คิดว่านทีอาจจะกลับบ้านไปก่อนแล้วก็ได้ในใจของเคนคิดแบบนั้น ก็เลยบอกทุกคนว่า "ลองไปหาที่บ้านกันดูก่อนจะดีกว่าไหม เห็นนทีบอกว่ากลับบ้านมืดไม่ได้" ทุกคนก็เลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่บ้านของนที

                 ระหว่างทางไปบ้านของนทีนั้นสองข้างทางเป็นป่าตาลสูง และก็หนาทึบมาก ในยุคสมัยนั้นไฟฟ้าตามบ้านเรือนยังมีน้อยยิ่งเข้าไปลึก ทางก็ยิ่งเปลี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆต๋องก็พูดขึ้นมาว่า "เฮ้ย เรากลับบ้านกันเถอะ กูกลัว" ในใจของเคนนั้นก็ได้แต่ภาวนาขอให้ไปถึงบ้านของนทีเร็วๆ อีกใจหนึ่งก็ยังคงคิดถึงเรื่องที่เจอมาตอนเย็น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับทุกคนกันแน่ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมลุงหล่อ
แกถึงยิ้มให้กับเคนและนทีแบบนั้น  แล้วเพื่อนทั้งกลุ่มก็ขี่จักรยานไปจนถึงหน้าบ้านของนที เห็นแม่ของนทียืนอยู่หน้าบ้าน เคนจึงเดินเข้าไปถามกับแม่ว่า "นทีกลับมาถึงบ้านหรือยังครับ" แต่ว่าคุณแม่ก็ถามกลับมาว่า "อ้าว นทีไม่ได้ไปเล่นกับพวกเธอหรอ" เคนนั้นยืนอ้ำๆอึ้งๆ อยู่พักนึงก็เลยตัดสินใจบอกกับแม่ของนทีว่า "นทีหายตัวไประหว่างที่ทุกคนกำลังเล่นกันอยู่ครับ" คุณแม่ได้ยินแค่นั้นก็ตกใจมาก รีบไปตามผู้ใหญ่บ้านเพื่อนำชาวบ้านในละแวกนั้นช่วยกันหา เวลาก็เริ่มดึกลงทุกที สถานการณ์ก็เริ่มตึงเครียด ตกลงแล้วนทีตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่  เมื่อชาวบ้านที่จะออกตามหานทีพร้อมแล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนทันที แล้วก็ต่างแยกย้ายกันออกตามหาอย่างเต็มที่

                และแล้วฝนก็ตกทำให้การตามหาเงินยากขึ้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังหานทีกันอยู่นั้น หางตาของเคนก็เหลือบไปเห็นลุงหล่อลุงภารโรงแกเดินตากฝนตรงเข้ามาทางเคนและเพื่อนๆ แค้นจึงรีบถามกับแกว่า "ลุงเห็นเพื่อนผมไหม" ลุงหล่อค่อยๆหันหน้ามาแล้วก็ยิ้มให้กับเคนในมือนั้นกำของบางสิ่งบางอย่างเอาไว้แน่นจนมือสั่น แล้วแกก็พูดออกมาลอยๆว่า "พวกทำอะไรกูไม่ได้หรอก" เคนได้ยินแค่นั้นก็ขนลุกทันทีในใจก็ได้แต่คิดว่าแกอาจจะเสียสติจนพูดไม่รู้เรื่อง แล้วสายฝนก็เริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ พร้อมกับความหวังที่เหลือน้อยเต็มที แล้วสิ่งที่ทำให้เคนหดหูมากยิ่งขึ้นก็คือ ภาพของแม่ของนทีร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า ตะโกนเรียกชื่อลูกจนเสียงจะไม่มีอยูแล้ว ถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปได้ น่าจะเชื่อคำพูดของนทีว่า "เรากลับบ้านกันเถอะ เรากลับบ้านเย็นมากไม่ได้ เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง"

              แต่แล้วจู่ๆก็เหมือนมีอะไรสักอย่างดลใจให้เคนนึกถึงบ้านหลังนั้น เป็นบ้านพักครูที่อยู่ในสวนมะม่วงหลังโรงเรียน บ้านพักหลังนี้ถูกปิดตายมานานตั้งแต่รุ่นพ่อของเคนยังเรียนอยู่ ครูของเคนก็จะบอกเสมอว่า "ห้ามเข้าไปเล่นอะไรแถวนั้นเด็ดขาด" ซึ่งเคนก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเคนจึงบอกกับแม่ของนทีว่า "ลองให้คนไปหาตรงนั้นรู้ไหมครับ เผื่อจะเจอ" แล้วผู้ใหญ่บ้านก็พาทุกคนไปหานทีที่บ้านหลังนั้น พอไปถึงลักษณะของบ้านเป็นบ้านไม้เก่าสองชั้น ประตูนั้นถูกตรึงด้วยโซ่ และก็ถูกล็อกด้วยแม่กุญแจโบราณลูกใหญ่มาก เวลาตอนนั้นน่าจะสัก 3-4 ทุ่มได้อากาศนั้นเย็นยะเยือก บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัด มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมิด ทุกคนยืนปรึกษากันอยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจพังประตูบ้านไม้นั้นเข้าไป ด้วยความเป็นเด็กเคนได้แค่หวังว่า หลังประตูบานนั้นจะเจอเพื่อนของเคนอยู่ ทั้งๆที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้

               แต่แล้วพักเดียวเท่านั้นก็มีคนตะโกนลงมาว่า "เจอแล้ว เจอแล้ว" เคนได้ยินถึงกับมือไม้สั่น ชาวบ้านคนหนึ่งอุ้มตัวนทีเดินลงมาจากบันไดชั้น 2 นทีนอนเหมือนคนไม่ได้สติ ตามเนื้อตัวมีแต่ดินมีแต่โคลน และก็มีรอยช้ำตามแขนขา มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเคนกันแน่หลังจากนั้นนทีก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เคนมีโอกาสไปเยี่ยมนทีครั้งหนึ่งกับคุณพ่อก่อนที่นทีจะหายดี มีคำถามที่เคนสงสัยมาก ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับนทีกันแน่ ก็เลยถามออกไปว่า "ทำไมคืนนั้นเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ยังไง" นทีเล่าให้ฟังว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังเล่นซ่อนหากันอยู่นั้น ก็มีเด็กคนหนึ่งชวน นทีไปเล่นด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องแปลกที่จะมีเด็กมาเล่นคนเดียวในเวลานั้น เด็กแปลกหน้าคนนั้นจูงมือของนทีตรงไปที่บ้านพักหลังนั้นด้วยอาการเบลอๆ แล้วก็เดินขึ้นไปบนบ้าน นทีเห็นว่ามันเริ่มแปลกๆ ก็เลยขอตัวกลับ แต่ว่าเด็กคนนั้นไม่ยอมให้กลับ ตัวของนทีเองพยายามวิ่งออกไปเปิดประตูหน้าบ้าน แต่ว่าประตูนั้นถูกล็อคจากด้านนอกแล้ว พักเดียวเท่านั้นก็มีมือสีดำโผล่ออกมาจากด้านหลังของนที แล้วก็ดึงนทีเข้าไปในห้อง นทีพยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงนั้นได้ จนสลบไป ตื่นมาอีกทีก็เห็นมีคนมาช่วยแล้วนทีเล่ามาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

                 หลังจากนั้นเคนก็ย้ายไปอยู่กับแม่ที่อยุธยา ส่วนนทีก็ย้ายไปเรียนที่อื่น แล้วประวัติเดิมของบ้านพักครูหลังนี้ก็ถูกเฉลยออกมาว่าเคยมีคุณครูใหญ่ท่านหนึ่งมาพักอาศัยอยู่กับครอบครัว ซึ่งมีลูกชาย 1 คน เนื่องจากท่านเป็นคนชอบดื่มเหล้า และชอบทะเลาะตบตีภรรยาอยู่เป็นประจำจึงทำให้เด็กคนนั้นมีปมด้อยมาตั้งแต่เกิด ต่อมาไม่นานก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เนื่องด้วยวันนั้นคุณครูใหญ่คงจะดื่มสุราเข้าไป
อย่างมากประกอบกับทะเลาะกับภรรยา จึงเกิดความเครียด ใช้อาวุธปืนสั้นยิงกรอกปากของภรรยาและลูกของตัวเอง แล้วคุณครูก็จัดการผูกคอตายตาม แต่เนื่องจากว่าท่านเป็นคนร่างใหญ่ จึงทำให้เชือกที่ผูกนั้นขาดออก ท่านจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับของตัวเองจนเสียชีวิต เมื่อคดีนั้นจบลง บ้านหลังนี้ก็ถูกปิดตาย ข้าวของเครื่องใช้ก็ยังอยู่ครบทุกอย่าง ต่อมาภายหลังก็ได้ทราบข่าวว่าลุงหล่อลุงภารโรง
แกเสียชีวิตเพราะไปผูกคอตายที่บ้านหลังนั้น กว่าจะมีคนไปเจอก็หลายวัน จนศพเน่าส่งกลิ่นเหม็น โดยที่ในมือของลุงหล่อนั้นยังคงกำสิ่งของบางอย่างเอาไว้แน่น สิ่งของสิ่งนั้นก็คือสร้อยพระ คาดว่าลุงหล่อน่าจะเจอมาเยอะ...       



ไม่มีความคิดเห็น