ซากนกที่เน่าเหม็น


     ลางสังหรณ์เกิดขึ้นมาจากหลานสิ่งเช่นเรื่องของคุณทิว เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมุกดาหาร เมื่อสามสิบแปดปีที่ผ่านมา คุณทิวกำลังเรียนจบใหม่ๆ จึงได้ไปสมัครเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าอุปโภคบริโภค สมัยนั้นห้างตามต่างจังหวัดยังเป็นแค่ห้างเล็กๆ

    คุณทิวก็จะไปจัดบูทตามร้านที่ใหญ่ๆหน่อย จนถึงเย็นก็กลับโรงแรม ช่วงนั้นทางบริษัทให้คุณทิวเลือกคนขับรถไปคนนึง คุณทิวจึงเลือกเอาคนที่สนิดที่สุด เป็นคนตัวใหญ่ สักเต็มตัว ก็ได้มาขับรถให้คุณทิวอยู่หลายปี

    สมัยนั้นมุกดาหารจะมีโรงแรมไม้อยู่แห่งหนึ่ง ผู้แทนทุกคนจะต้องเข้าพักโรงแรมนี้ วันนึงที่คุณทิวและคนขับรถได้ขับผ่านอําเภอนาแก ไปเจอเข้ากับนกเหยี่ยวที่ขายอยู่ร้านข้างทาง คุณทิวใฝ่ฝันว่าอยากจะเลี้ยงมานาน

    ทางร้านขายแบบเป็นคู่ คุณทิวจึงหันไปถามคนขับรถว่าซื้อไปคนละตัวดีมั้ย คนขับรถก็ตกลงซื้อด้วย จึงได้เอาเชือกผูกขา แล้วใส่ไว้ในกล่อง พอขับรถผ่านตลาดสดนาแก ก็ได้แวะซื้อเนื้อแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่จะเอาไว้เลี้ยงนก

    ถึงโรงแรมเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม คุณทิวและคนขับรถจึงเอานกใส่ไว้ในลัง ลังละตัว แล้วก็นั่งทำงานต่อ ส่วนคนขับรถก็นั่งดื่มอยู่ข้างๆ จนเวลาประมาณเกือบสองทุ่ม อยู่ๆไฟก็ดับ แล้วคนขับรถก็วิ่งสวนออกไปนอกห้องทันที โดยที่ไม่พูดอะไรกับคุณทิวเลย

    คุณทิวจึงไปเอาเทียนไขมาจุด แล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานจะหันหน้าไปทางโต๊ะกระจกแต่งตัว ด้านหลังจะเป็นเตียงนอน คุณทิวนั่งทำงานไปสักพัก ก็รู้สึกเมื่อยตัว จึงเงยหน้าขึ้นมา สายตาก็เหลือบไปมองกระจกที่โต๊ะแต่งตัว เห็นเป็นลักษณะเงาของผู้หญิงดำๆ นั่งอยู่บนเตียงด้านหลัง

    คุณทิวเห็นเช่นนั้นก็รีบก้มหน้าลง พยายามข่มความกลัวที่เริ่มทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็พยายามคิดว่ามันเป็นเงาของตัวเองหรือเปล่า จึงค่อยๆเหลือบตาขึ้นไปมองในกระจก ปรากฏว่าเห็นเป็นเงาของผู้หญิงชัดเจน จนแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่เงาของตัวเองแน่ๆ

    ตอนนั้นเริ่มเสียวสันหลังจนยืดตัวตรง รู้สึกเหมือนมีไอเย็นพุ่งเข้ามาปะทะที่ท้ายทอยเป็นระลอกๆ เหมือนสิ่งนั้นกำลังหายใจจ่ออยู่ที่ต้นคอ เปลวเทียนสั่นไหววูบวาบ เหมือนกำลังจะดับแหล่มิดับแหล่

    คุณทิวหยุดคิดทุกอย่าง ทำให้ภายในหัวโล่งที่สุด แล้วพยายามคิดถึงคำสอนของคุณพ่อที่เคยสอนไว้ว่า ถ้าเจอเข้ากับสิ่งพวกนี้ ให้ใจเย็นๆ ค่อยๆกลั้นลมหายใจ คุณทิวจึงทำเช่นนั้นได้สักพัก จนรู้สึกสงบขึ้นมาก แล้วคว้าเหรียญหลวงพ่อวัดบ้านแหลมมาคล้องคอ

    แล้วนึกขึ้นในใจว่า "หลวงพ่อ ช่วยลูกด้วย" จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆ เงานั้นก็หายไป แล้วได้ยินเสียง "พรึ่บพั่บๆๆๆ" คุณทิวจึงหันไปมองตามเสียง เห็นนกเหยี่ยวที่อยู่ในลังทั้งสองตัว บินไปมา เหมือนกำลังดิ้นรนเอาตัวรอด

    จนเชือกที่ผูกขาของมันขาด แล้วมันก็บินมาเกาะอยู่กับเก้าอี้ที่คุณทิวนั่งอยู่ คุณทิวก็คิดในใจว่า ตามสัญชาตญาณของสัตว์ มันจะหนีสิ้งที่มันคิดว่าอันตราย แล้วจะอยู่กับสิ่งที่มันคิดว่าเป็นมิตร งั้นมันหนีอะไรมากันแน่

    คุณทิวลุกขึ้นยืนมองเจ้านกตัวน้อย ใช้มือลูบหัว แล้วอุ้มมันเอากลับเข้าไปไว้ในลัง จากนั้นก็กลับมานั่งทำงานต่อ นกมันก็ดิ้นอยู่ในลังจนเสียงดัง "กึกกักๆๆๆ" คุณทิวจึงถือเทียนเดินเข้าไปดู

    เห็นนกของตนเองนอนตะแคง กระพือปีกเบาๆ จึงได้หยิบขึ้นมาดู ก็เห็นมีรูเท่าหัวแม่โป้งอยู่ที่บริเวณคอ มีน้ำเหลืองไหลออกมา ส่งกลิ่นเน่าอบอวล เหมือนกับนกที่ตายมานานจนเน่าแล้ว ส่วนอีกตัวของลูกน้องที่วางอยู่ติดกันก็นอนตะแคงตาย

    คุณทิวงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพยายามเอานกมาพิจารณาดู สักพักไฟก็ติด จึงได้เอาไฟฉายมาส่องดูที่บริเวณของแผล ลักษณะแผลเป็นวงกลม ไม่น่าจะเกิดจากโดนสัตว์ทำร้าย ขอบแผลออกสีช้ำๆ เหมือนเนื้อที่เน่าแล้ว

    สักพักคนขับรถก็ขึ้นมา คุณทิวจึงถามไปว่า "เมื่อกี้เอ็งวิ่งพรวดพราดลงไปทำไมว๊ะ" คนขับรถตอบว่า "พี่ ผมไม่กล้าบอกพี่ ผมนั่งกินเหล้าอยู่ พอไฟดับ ผมเห็นเงาดำอยู่ที่หน้าประตู วิ่งเข้ามาในห้อง แล้วผมรู้สึกร้อนจนอยู่ไม่ได้"

    คุณทิวจึงบอกไปว่านกได้ตายไปทั้งสองตัวแล้ว คนขับรถจึงเข้ามาดูนกของตนเอง ก็เห็นว่าที่คอเป็นรูใหญ่ๆ แล้วมีน้ำเหลืองไหลออกมาเช่นกัน คุณทิวจึงได้เอานกทั้งสองตัวใส่ลงในกล่อง แล้วเอาไปวางไว้ที่หน้าห้อง

    ประมาณแปดโมงเช้า แม่บ้านมาทำความสะอาดทางเดินหน้าห้อง คุณทิวจึงวานให้แม่บ้านเอากล่องไปทิ้ง แล้วก็แต่งตัวออกไปทำงาน หลังจากเลิกงานกลับมาที่โรงแรม

    คุณทิวจึงได้ไปถามบ๋อยว่า "น้อง ถามจริง ห้องที่พี่นอน มันมีอะไรเปล่า" บ๋อยทำตาเลิ่กลั่ก แต่ก็ไม่พูดอะไร คุณทิวจึงบอกว่า "งั้นเอางี้ ถ้าเอ็งพูดมา รับรองเรื่องนี้ พี่ไม่แพร่งพรายให้เจ้าของโรงแรมรู้" แล้วยัดเงินใส่มือให้

    บ๋อยก็เล่าว่า "ก่อนที่พี่จะเข้ามาอาทิตย์นึง หนุ่มสาวคู่นึงทะเลาะกันในห้อง แล้วผู้ชายก็ยิงผู้หญิงสองนัด พี่ลองไปเปิดเสื่อน้ำมันดูสิ คราบเลือดยังล้างออกไม่หมดเลย" คุณทิวจึงขึ้นไปสำรวจฝาผนังในห้อง หารอยกระสุนปืน ปรากฏว่าเจออยู่จริงๆ สองจุด ถูกทาสีทับไปแล้ว แต่จะมีรอยบุ๋มลงไปนิดนึง

    จนทุกวันนี้ คุณทิวก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าทำไมนกถึงมีรูอยู่ที่คอ แล้วเหมือนกับว่าตายมาหลายวันจนมันเน่า และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น