หอพักห้อง413


   เรื่องราวสุดสยองของคุณแท๊บกับหอพักแหน่หนึ่ง เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่ง แถวบางมด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บ้านของคุณแท็บจะอยู่แถวพระประแดง ไม่ไกลจากมหาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ในย่านบางมดมากนัก ใช้เวลาไปกลับประมาณครึ่งชั่วโมง

    คุณแท็บไปกลับแบบนี้ทุกวัน ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย คิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องอยู่หอ แล้วปีหน้าก็ต้องเริ่มทำวิจัย จึงได้หาหอพักอยู่แถวๆมหาลัย สิ่งที่คุณแท็บต้องการคือ ถูกและใกล้มหาลัย

    ก็เลยไปปรึกษากับเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนแนะนำให้คุณแท็บเข้ามาดูหอที่เพื่อนกำลังเช่าอยู่ก่อน เพราะว่าค่าเช่าค่อนข้างถูก และใกล้มหาลัย ตรงตามที่คุณแท็บเรียกร้องทุกอย่าง จึงได้เข้าไปดูก่อนตัดสินใจ

    อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้มีทั้งหมดสามตึก ห้องของเพื่อนอยู่ตึกที่สอง ห้องค่องข้างกว้าง ดูโปร่ง ขวามือจะเป็นเตียง ถัดจากเตียงจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ตรงข้ามเตียงจะเป็นชั้นวางทีวี ถัดจากชั้นวางทีวีจะเป็นตู้เสื้อผ้า ถัดออกไปอีกจะเป็นห้องน้ำ

    คุณแท็บเห็นแล้วก็รู้สึกถูกใจมาก จึงได้สอบถามราคากับเพื่อน เพื่อนบอกว่าราคาสองพันห้า ค่ามัดจำเจ็ดพัน คุณแท็บจึงเดินไปสอบถามคุณป้าที่เป็นคนดูแลอพาร์ทเม้นท์ว่า "ป้าครับ มีห้องว่างมั้ยครับ"

    คุณป้าตอบว่า "ไม่มีหรอก มันเต็มหมดเลย" แต่ด้วยความที่คุณแท็บอยากเช่าอยู่ที่นี่ จึงคะยั้นคะยอคุณป้าต่อว่า "ป้าครับ ถ้ามีเนี่ย รบกวนหน่อยนะครับ" แล้วคุณแท็บก็ทิ้งเบอร์โทรไว้ให้คุณป้า พร้อมกับเอาเงินให้อีกร้อยนึง เหมือนเป็นค่าดำเนินการ

    เสร็จแล้วคุณแท็บก็กลับบ้าน แล้วเวลาสองทุ่มของวันนั้นเอง คุณป้าโทรมาบอกกับคุณแท็บว่า "มีห้องว่างห้องนึง ห้องสี่หนึ่งสาม อยู่ตึกในสุด ชั้นสี่ เอามั้ย" คุณแท็บดีใจมาก ถึงแม้จะรู้สึกตะหงิดๆ แต่เพราะความอยากได้ห้อง จึงตอบตกลงไปทันที

    วันรุ่งขึ้น คุณแท็บก็ขึ้นไปดูห้อง โดยมีคุณป้าเดินนำหน้า แต่พอเดินมาถึงชั้นสาม คุณป้าหันกลับมายื่นกุญแจให้คุณแท็บ แล้วบอกว่า "อ่ะนี่ เดินขึ้นไปอีกชั้นนึงนะ ห้องสิบสาม อยู่ทางขวามือ เสร็จแล้วก็เดินลงมาหาป้าละกัน"

    พูดจบ คุณป้าก็เดินลงบันไดไป โดยที่ไม่รอฟังคำถามหรือคำตอบใดๆ จากคุณแท็บเลย ถึงคุณแท็บจะงงๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงเดินขึ้นไปชั้นสี่ มองหาห้องสิบสามทางขวามือ แล้วเสียบกุญแจไขเข้าไปในห้อง

    จังหวะที่เปิดประตู มีลมอุ่นๆ กลิ่นอับๆ พุ่งออกมาจากในห้อง เหมือนกับเป็นห้องที่ไม่ได้เปิดให้ใช้งานมาเป็นเวลาหลายปี คุณแท็บก้าวเข้าไปในห้อง ถึงแม้จะรู้สึกขนลุกแบบแปลกๆ ทั้งๆที่ภายในห้องก็เหมือนกับห้องของเพื่อนทุกอย่าง

    คุณแท็บเงยหน้ามองพัดลมบนเพดานเก่าๆ ที่อยู่กลางห้อง มันก็เป็นแค่พัดลมธรรมดา แต่มันกลับทำให้คุณแท็บเย็นวูบไปทั้งตัว เหมือนมีคลื่นอะไรสักอย่าง วิ่งตั้งแต่หัวลงไปถึงเท้า

    ความกลัวเล็กๆ เริ่มผุดขึ้นในใจของคุณแท็บ เป็นความกลัวที่หาสาเหตุไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังกลัวอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าภายในห้องจะดูโล่งกว้าง แต่เวลามองไปรอบๆห้องทีไร กลับรู้สึกอึดอัด เหมือนกับว่าผนังและเพดานห้อง มันค่อยๆบีบตัวเข้ามาเรื่อยๆ เป็นความรู้สึกที่คุณแท็บไม่เคยประสบมาก่อน

    ปกติแล้ว คุณแท็บเป็นคนที่ไม่มีเซ้นส์ แต่สัญชาตญาณกลับพยายามเตือนว่าให้ออกไปจากที่ให้เร็วที่สุด ทำให้เริ่มสองจิตสองใจ คิดว่าจะสามารถทนอยู่ในห้องนี้ได้นานแค่ไหน แต่เพราะความที่อยากมีห้องใกล้มหาลัย ประกอบกับค่าเช่าที่แสนถูก จึงปลอบตัวเองในใจว่า "ไม่เป็นไร มันคงไม่มีอะไรหรอก"

    คุณแท็บก้าวออกจากห้องแล้วปิดประตู แต่เหมือนจะเห็นอะไรสักอย่าง ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร จึงเปิดประตูกลับเข้าไปในห้อง แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมอง ปรากฏว่ามียันต์ท้าวเวสสุวรรณสีแดง แผ่นเท่าฝ่ามือ ติดอยู่เหนือวงกบประตู

    คุณแท็บหัวตื้อไปชั่วขณะ การที่มียันต์ติดอยู่หน้าห้องก็นับว่าหลอนพอแล้ว แต่นี่กลับติดอยู่ด้านในห้อง ตามความเข้าใจทั่วไป ถ้าติดไว้หน้าห้อง คือการป้องกันอะไรที่ไม่ดีต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในห้อง แต่การที่ติดไว้เหนือวงกบประตูภายในห้อง มันหมายความว่า กันอะไรบางอย่าง ออกไปนอกห้องหรือเปล่า

    ความสงสัยปนความกลัว ตีกันในหัวของคุณแท็บจนยุ่งไปหมด สุดท้ายก็ต้องกลับมาปลอบใจตัวเองเหมือนเดิม ว่ามันคงไม่มีอะไร จึงเดินลงไปทำสัญญากับคุณป้าข้างล่าง แต่ด้วยความสงสัย คุณแท็บจึงถามคุณป้าว่า "ป้าครับ ทำไมในห้องมียันต์ด้วย"

    ป้าหันมามองหน้าแล้วตอบว่า "ไม่มีอะไรหรอก น่าจะเป็นของเด็กคนเก่าที่เค้าเอามาติดไว้" แม้ว่าคุณแท็บพอจะมองออกว่าเป็นการตอบแบบปัดๆ แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ ถึงจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ที่มันดันมาติดอยู่ด้านใน

    คุณแท็บถามกับคุณป้าว่า "ป้าครับ ตกลงห้องนี้เท่าไหร่ ผมขอกลับไปคิดก่อนได้มั้ย ผมยังไม่แน่ใจ เพราะรู้สึกไม่ค่อยดีกับห้องนี้" คุณป้าพูดแบบตะกุกตะกักว่า "เออ งั้น เอางี้ ป้าลดให้เหลือเดือนละ...สองพันอะ ค่ามัดจำป้าเอาสี่พันพอ"

    มันเป็นโปรที่ค่อนข้างล่อตาล่อใจมาก สำหรับคนที่ต้องการของถูก ป้าพูดเสร็มขึ้นอีกว่า "ถ้าไม่รีบ มีคนอื่นมาจอง ป้าไม่รู้นะ" คุณแท็บที่ต้องการของถูก รีบตอบตกลงทันที ทำสัญญาเช่าเสร็จสรรพ

    แต่ตอนที่กำลังทำสัญญา วิธีการมันดูง่าย กิ๊กก๊อก แทบจะไม่มีอะไรเลย แต่เพราะความถูกมันบังตา คุณแท็บจึงไม่คิดอะไรมาก หลังจากนั้น ก็กลับไปเก็บของที่บ้าน และย้ายเข้าหอคืนวันนั้นเลย มีเพื่อนสองคนมาช่วยยกของ

    ตอนนั้นเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ในขณะที่กำลังถือของเข้ามา ก็เจอเข้ากับ รปภ คนหนึ่ง เข้ามาทักทายว่า "หวัดดีครับ ย้ายมาอยู่ใหม่เหรอครับ" แล้วก็เดินเข้ามาช่วยคุณแท็บถือของ

    คุณแท็บตอบว่า "ใช่ครับ" ทุกคนเดินหิ้วของไปที่ตึกหลัง เดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสาม อยู่ๆ รปภ ก็ถามขึ้นว่า "น้อง ย้ายเข้าไปห้องไหนครับ" คุณแท็บตอบว่า "ห้องสี่หนึ่งสามครับ"

    รปภ วางของลงบนพื้น แล้วก็พูดว่า "เดี๋ยวพี่ช่วยแค่นี้นะ" แล้วก็เดินจ้ำลงไปข้างล่างทันที คุณแท็บมองตามหลัง แล้วพูดออกมาเบาๆว่า "รีบไปไหนของเค้าวะ" แต่ตอนนั้นไม่อยากคิดอะไรมาก จึงรีบช่วยกันขนของเข้าไปในห้อง เสร็จแล้วเพื่อนก็ขอตัวกลับ

    คุณแท็บกวาดห้องจัดของเสร็จ ก็เข้านอนทันทีเพราะความเหนื่อย คืนนั้นเอง คุณแท็บฝันว่าเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียง มีผู้หญิงผมสั้น ตัวสูง ผิวขาว นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกข้างเตียง

    ในระหว่างที่คุณแท็บกำลังมองดูผู้หญิงคนนั้น กับตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง สักพักผู้หญิงคนนั้นก็ลุกเดินมาที่ปลายเตียง ส่งยิ้มให้คุณแท็บที่กำลังนอนอยู่บนเตียง แล้วพูดว่า "ขออยู่ด้วยได้มั้ย"

    คุณแท็บเห็นตัวเองตอบว่า "อยู่ได้ยังไง นี่ห้องผม" จากที่ผู้หญิงทำหน้าตายิ้มแย้ม แต่กลายเป็นว่าทำหน้าบึ้งตึงเหมือนโกรธจัด พูดแบบกระชากเสียงว่า "กูขอมาอยู่กับได้มั้ย" คุณแท็บมีความรู้สึกว่ากลัวผู้หญิงคนนี้มาก

    จนสะดุ้งตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องมืดๆ หายใจถี่ เหงื่อผุดออกเต็มตัว ความกลัวยังคงตามออกมาจากความฝัน ภาพของผู้หญิงคนนั้นเด่นชัดขึ้นในหัว จนคุณแท็บตัวสั่นเหมือนคนจับไข้

    คุณแท็บรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟทันที ตอนนั้นเวลาประมาณตีหนึ่งครึ่ง พยายามคิดทบทวนว่าความฝันเมื่อครู่มันคืออะไร หรือเป็นแค่อาการของคนที่กลัวจนเก็บเอาไปฝัน คุณแท็บนั่งสวดมนต์ทุกบทที่พอจะนึกออก แล้วล้มตัวลงนอน

    ตื่นเช้าขึ้นมา คุณแท็บคิดว่าเรื่องเมื่อคืนมันเป็นแค่ความฝัน พยายามอย่าไปคิดอะไรมาก จนตกกลางคืน ก่อนนอนคุณแท็บไหว้พระสวดมนต์ ปิดไฟนอน ปรากฏว่าฝันเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ตัวเองคือคนที่นอนอยู่บนเตียง พอมองไปที่ข้างๆเตียง

    ผู้หญิงผมสั้นก็ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกตามเดิม แต่นั่งก้มหน้า และเหมือนจะรู้ว่าคุณแท็บกำลังมองอยู่ ผู้หญิงผมสั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นเดินไปที่ปลายเตียง แล้วเงยหน้าขึ้นมองคุณแท็บ ภาพที่เห็นทำให้คุณแท็บหยุดหายใจไปชั่วขณะ

    ลักษณะใบหน้าขาวซีด ออกสีม่วงเป็นจ้ำๆ ริมฝีปากดำ ตาแดงก่ํา แล้วกระโจนขึ้นมานั่งคร่อมตัวคุณแท็บ จ้องหน้าด้วยความอาฆาต คุณแท็บตกใจกลัวจนแทบคลั่ง รู้สึกจุกที่หน้าอก หวาดกลัวกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

    พยายามนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆนาๆ แต่กลับไม่เป็นผล ผู้หญิงคนนั้นยังคงนั่งคร่อมอยู่บนหน้าอก ดวงตาแดงก่ําเหมือนคนเป็นโรคอะไรสักอย่าง จ้องคุณแท็บเหมือนคนที่กำลังโกรธจัด ทำเสียง "หื่มๆๆ" อยู่ตลอดเวลา

    คุณแท็บมีความรู้สึกเหมือนกับอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไป จังหวะนั้น ภาพของคุณแม่ก็แวบเข้ามาในหัว คุณแท็บตะโกนเรียกคุณแม่จนสุดเสียง ความกดดันทุกๆอย่าง หลุดออกทันที จนสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน

    คุณแท็บนั่งหายใจหอบ เหมือนคนที่ขาดอากาศหายใจจนเกือบจะหมดลม เนื้อตัวเย็นเฉียบ แต่เหงื่อกับผุดออกมาท่วมตัว อาจจะเป็นเพราะความกลัวที่มันมีอยู่มากจนเกินไป คุณแท็บรีบวิ่งไปเปิดไฟให้สว่าง เพื่อขับไล่ความมืดภายในห้อง ตอนนั้นเป็นเวลาตีหนึ่งครึ่ง

    คุณแท็บกดโทรศัพท์หาเพื่อนที่อยู่ตึกสองทันที แล้วบอกให้เพื่อนขึ้นมานอนด้วย เพราะจิตตกเกินกว่าจะอยู่คนเดียวได้ หลังจากที่เพื่อนขึ้นมาหาบนห้อง คุณแท็บก็เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง เพื่อนแนะนำว่าให้ลองไปไหว้เจ้าที่ดูก่อน

    จนถึงคืนต่อมา ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายที่คุณแท็บได้อาศัยอยู่ที่ห้องแห่งนี้ คืนนั้นคุณแท็บโทรไปชวนเพื่อนให้ขึ้นมานอนด้วยตั้งแต่หัวค่ำ แต่เพื่อนติดธุระออกไปเที่ยวข้างนอก คุณแท็บจึงต้องจำใจอยู่ห้องคนเดียว

    พยายามไม่คิดอะไรมาก เปิดบทสวดต่างๆในยูทูปฟังให้ใจสงบ แล้วก็ปิดไฟนอน ในขณะที่คุณแท็บกำลังเคลิ้มหลับ ผู้หญิงคนนั้นก็โผล่ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม ต่างจากเดิมตรงที่ครั้งนี้คุณแท็บยังไม่ได้หลับ

    คุณแท็บรีบนึกถึงคุณแม่ก่อนทันที แต่ครั้งนี้กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้ พยายามจะอ้าปากตะโกนเรียกให้คนข้างห้องเข้ามาช่วย แต่กลับทำไม่ได้ รวมไปถึงขยับเขยื้อนตัวด้วย

    ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืน ในขณะที่กำลังก้มหน้าอยู่ แล้วเดินลากเก้าอี้พลาสติกไปตรงกลางห้อง จากนั้นก็ขึ้นไปเหยียบบนเก้ากี้ แล้วใช้เชือกมัดที่พัดลมบนเพดาน เสร็จแล้วก็เอาอีกด้านมาคล้องคอตัวเอง ภาพทุกอย่างเปินไปอย่างเชื่องช้า

    เสี้ยววินาทีต่อมาก็ถีบเก้าอี้ที่ยืนอยู่จนล้ม ทำให้ตัวเองลอยแคว้งอยู่ในอากาศ ผู้หญิงคนนั้นดิ้นทุรนทุราย ยกมือขึ้นจับเชือก พยายามดึงตัวเองขึ้นไปเหมือนกำลังหาอากาศหายใจ ช่วงลำตัวกระตุกเกร็ง ถีบขาไปมา ลิ้นค่อยๆโผล่ออกมาจุกปาก จนมือทั้งสองข้างตกลงมาข้างลำตัว แล้วแน่นิ่งไป

    ศพของผู้หญิงคนนั้นโยกไปมาเล็กน้อย อยู่ตรงกลางห้อง เป็นภาพที่น่าหวาดผวาจนเกินจะรับไหว แต่อยู่ๆ ศพที่ห้อยไปมาอยู่ในอากาศก็ลืมตาจ้องมาทางคุณแท็บ แสยะยิ้มด้วยความสะใจ ที่เห็นคุณแท็บทำหน้าตกใจสุดขีด

    คุณแท็บมีความรู้สึกเหมือนคนหมดหนทาง ได้แต่พูดในใจว่า "ผมกลัวแล้ว ผมไม่อยู่ที่นี่แล้ว ผมขอโทษ" แล้วก็คิดถึง ร.ห้า สักพักภาพของผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆจางหายไป จนคุณแท๊บสามารถขยับตัวได้

    คุณแท็บรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟ แล้ววิ่งออกไปยืนตัวสั่นอยู่หน้าห้อง โดยที่ยังไม่ได้ปิดประตู ทำให้มองเห็นนาฬิกาภายในห้องบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง สิ่งที่ช่วยย้ำเตือนคุณแท็บว่ามันไม่ใช่ความฝันก็คือ เก้าอี้ที่ล้มอยู่กลางห้อง

    และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ พระพุทธรูปที่คุณแท็บเอามาตั้งไว้ตรงข้ามกับเตียงนอน ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา ตอนนี้กลับหันหน้าเข้าฝาผนัง เหมือนมีคนไปจับพระพุทธรูปหมุนกลับหลัง

    คุณแท็บเอื้อมมือเข้าไปปิดไฟ แล้วเดินลงมาหา รปภ ข้างล่าง ยืมโทรศัพท์มากดโทรหาเพื่อน ให้เพื่อนรีบมาหาตอนนี้เลย รปภ ก็ถามคุณแท็บว่าเป็นอะไร เพราะอาการของคุณแท็บดูไม่ปกติเอามากๆ คุณแท็บตอบแค่สั้นๆว่า "ผมไม่ไหวแล้ว"

    หลังจากที่เพื่อนกลับมาถึง คุณแท็บก็ขึ้นไปที่ห้องของเพื่อน เสร็จแล้วก็เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เจอมาให้เพื่อนฟัง และด้วยความเพลีย เหมือนกับว่าไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวัน พอหัวถึงหมอน คุณแท็บก็หลับทันที

    เช้าขึ้นมา สิ่งแรกที่คุณแท็บทำ คือเข้าไปคุยกับคุณป้า "ป้า ป้าบอกผมมาเลยนะ ห้องนั้นมันมีอะไร" คุณป้าตอบกลับมาว่า "ไม่มีอะไรหรอก" คุณแท็บพูดเสียงดังขึ้นอีกหน่อยว่า "ป้าไม่ต้องมาโกหกผม ผมนอนไม่ได้มาสามวันแล้ว ป้ารู้มั้ยผมเจออะไร" แล้วคุณแท็บก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณป้าฟัง

    พอคุณป้าได้ยินเช่นนั้นก็ทําหน้าเจื่อนๆ แต่ก็ยังพูดว่า "ไม่มีอะไรหรอก คิดไปเองดิ เล่นยาหรือเปล่า" คุณแท็บรู้สึกโมโห

ไม่มีความคิดเห็น