พรานผู้ฆ่าสมิง
เสือสมิ่ง ฃคือ ผีหรือปีศาจที่มีรูปร่างเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ อาละวาดกินคนเป็นอาหาร เชื่อว่า เสือสมิงเกิดจากเวทมนตร์คาถาทางไสยศาสตร์ หรือเป็นเสือที่กินคนเข้าไปมาก ๆ แล้ววิญญาณของคนที่ถูกกินไปสิงอยู่ในเสือตัวนั้นจนกลายเป็นเสือสมิง
เป็นเหตุการณ์ที่คุณยายของคุณเอ็ม เล่าให้คุณเอ็มฟัง เมื่อสมัยที่คุณยายยังสาวๆ สมัยนั้นมีแต่ป่ารก กลางค่ำกลางคืน ผู้ใหญ่จะไม่ให้ออกไปไหน พอตกเย็น ก็จะปิดบ้าน เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ เพราะเมื่อก่อนมันอันตรายมาก ไม่เหมือนกับสมัยนี้
เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ คุณปู่ของคุณยาย ชื่อเม่น เมียของแกชื่อยายใบ แกมีอาชีพเป็นพราน ล่าสัตว์ขายบ้าง แลกกับข้าวสารบ้าง รุ่งเช้าของทุกวัน แกจะเก็บห่อเก็บพาย เตรียมกับข้าว เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเข้าป่า กว่าจะกลับมาก็ตอนเย็น
ซึ่งวันที่เกิดเรื่องขึ้นนั้น แกก็ทำกิจกรรมเหมือนทุกๆวัน ซึ่งทุกๆวัน พรานเม่นจะออกจากบ้านเพียงคนเดียว แต่วันนี้แปลก ยายใบเมียแก เดินไปส่งแกที่ชายป่า ทางเข้าป่าจะมีลำธานสายเล็กๆ ซึ่งมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่
พรานเม่นก็แปลกใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เมียเดินมาส่งก็ดี พอถึงลำธารก็รีบเดินเข้าป่า แล้วหันมาบอกกับยายใบว่า "รีบเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แถวนี้มันอันตราย" ยายใบก็บอกว่า "ได้ๆ เดี๋ยวก็กลับแล้ว ว่าจะแวะเดินหาผักข้างทางก่อน"
พอยายใบพูดจบ พรานเม่นก็เดินเข้าป่า เพื่อจะไปหาสัตว์อย่างที่เคยทำทุกวัน วันนั้น ในขณะที่กำลังล่าสัตว์อยู่ ในใจพรานเม่นก็รู้สึกเหมือนเป็นพะวง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกใจหาย เป็นห่วงอะไรอยู่เนืองๆ อยากกลับแต่บ้าน
และวันนี้ สัตว์ก็ล่าไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีอารมณ์จะล่าสัตว์อีกต่อไป ก็เลยกลับแต่หัววัน เป็นเวลายังไม่ทันจะเย็นมากนัก สักพัก แกก็เดินมาถึงชายป่าทางออก เมื่อมาถึงลำธาร แกก็แปลกใจ ที่ยังเห็นยายใบนั่งหันหลัง เหมือนกำลังนั่งเล่นน้ำอยู่บนก้อนหินที่อยู่ริมฝั่ง
แกก็นึกในใจว่า ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับอีก มันอันตราย และนี่ก็ใกล้จะค่ำแล้วด้วย ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก แกจึงเดินไปหายายใบ กะจะด่าสะหน่อย พอแกเดินไปถึง แกก็เอามือจับที่แขนของยายใบ
แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ยายใบก็หันหน้ามา แต่สิ่งที่หันหน้ามา เริ่มเปลี่ยนจากหน้าคน กลายเป็นหน้าที่ยับยู่ยี่ แล้วกระโจนใส่แก แกตกใจสุดขีด คว้าเอาปืนได้ก็ยิงไปหนึ่งนัด จากนั้น มันก็กระโจนออกไปในทางเข้าป่า เป็นเงาดำๆ วิ่งหายเข้าไปในป่า
ส่วนพรานเม่นก็ยังตกใจไม่หาย พยายามรวบรวมสติ สิ่งที่เห็นเมื่อกี้มันคืออะไรกัน แต่สิ่งที่ทำให้แกช็อคยิ่งกว่า เมื่อเหลือบไปเห็นร่างของยายใบ ข้างหลังก้อนหินใหญ่ที่แกเห็นยายใบนั่งอยู่ก่อนหน้า
ร่างของยายใบถูกฉีกออกเป็นครึ่ง ส่วนหนึ่งหายไป เหมือนโดนสัตว์ตัวใหญ่ฉีกแล้วกินไปครึ่งตัว แกตกใจจบแทบช็อค ยืนนิ่ง ความรู้สึกแน่นจุกอก คับแค้น มันประดังเข้ามาในตัวแก จนสักพัก แกก็รวบรวมสติเดินเข้าไปหา แล้วอุ้มร่างของเมียแก
แกไม่มีความรู้สึก จะร้องไห้ แต่น้ำตามันกลับไม่ไหลออกมา แผลที่แขน ที่โดนเจ้าสิ่งนั้นกระโจนใส่ก็ยังรู้สึกเจ็บ แกเดินไปเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เริ่มมืด เมื่อชาวบ้านเห็นว่าแกอุ้มอะไรมา ต่างวิ่งเข้ามาถามกันอย่างอุตลุด "เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น ยายใบไปโดนอะไรมา"
ตอนนี้แกมึนงงไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่นึกในใจว่า จะต้องตามไปฆ่ามัน ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ที่ฆ่าเมียแก เมื่อพรานเม่นเริ่มตั้งสติได้แล้ว ก็เล่าสิ่งที่เห็นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟัง
ซึ่งสรุปกันได้ว่าเป็นเสือสมิงแน่ ตอนนี้ตัวแกเองรู้สึกโกรธจัด อยากตามไปฆ่าเสือสมิงตัวนี้ให้ได้ แกเข้าบ้านไปเอาอาวุธล่าสัตว์ทุกอย่าง เพื่อที่จะไปล่าเสือสมิงคืนนี้ พอแกเตรียมตัวเสร็จ แกก็ไปชวนเพื่อนๆพรานในหมู่บ้าน เพื่อไปช่วยกันล่าเสือสมิง
รวบรวมกันได้ประมาณห้าถึงหกคน พวกผู้หญิงในหมู่บ้านต่างห้ามกันใหญ่ บอกว่ามันดึกแล้ว อย่าออกไปกันเลย มันอันตราย ค่อยไปกันตอนกลางวันจะดีกว่า กลางคืนมันมองไม่เห็น แต่พรานเม่นก็บอกว่า "ต้องตามไปฆ่ามันตอนนี้ มันยังหนีไปไม่ไกล ยังตามรอยมันได้อยู่ พรุ่งนี้ไม่ทันแน่"
เมื่อเก็บข้าวของกันเสร็จก็ออกเดินทางทันที จุดตะเกียงแก๊ส หรือที่ภาคกลางเรียกกันว่าตะเกียงส่องกบ ที่เอาถ่านหินเป็นก้อนใส่น้ำ ใส่ในถังเหล็กเล็กๆ แล้วจุดไฟที่หัว เพื่อส่องแสงสว่าง
ทุกคนออกเดินทาง มุ่งตรงไปยังลำธารทางเข้าป่า พอเดินมาถึงลำธาร ก็เดินไปสำรวจร่องรอยของเจ้าเสือตัวนั้น ปรากฏว่า เห็นรอยเท้าเดินเข้าไปในป่าลึก ทุกคนก็เดินตามรอยกันไป ยิ่งเดินก็ยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ ป่าเงียบสนิท ไม่มีเสียงร้องของสัตว์ใดๆ
พรานที่อาวุโสกว่าคนอื่นก็พูดขึ้นมาว่า "ท่าไม่ค่อยดีแล้ว มันเงียบผิดปกติ" แล้วก็เอามือล้วงเข้าไปในย่าม หยิบลูกกระสุนเม็ดสีดำๆ ส่งให้พรานทุกๆคน คนละกำมือ แล้วบอกให้ใช้ลูกกระสุนนี้ยิง ถ้าหากเจอกับเสือตัวนั้นเข้า ทุกคนก็รับคำ ใส่กระสุนเตรียมพร้อม
ตามรอยกันไปสักพัก เริ่มเห็นอะไรบางอย่าง ทุกคนก็หยุดเดิน มองดูกันอย่างแน่นิ่ง เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้น คือร่างของหญิงคนหนึ่ง นั่นคือยายใบนั่นเอง แกหันมายิ้ม และก็เรียกชื่อพรานเม่นซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมา
ส่วนพรานอาวุโสก็พูดว่า "ยิงเลยๆ มันไม่ใช่คน" ทุกคนก็ลั่นไกปืนทันที "ปั้ง..ปั้ง..ปั้ง" ทั้งป่าได้ยินแต่เสียงปืน ส่วนร่างของหญิงสาวก็กลายเป็นร่างของเสือตัวใหญ่ วิ่งกระโจนเข้าไปหลังต้นไม้
พรานเม่นเห็นดังนั้น จึงวิ่งตามไป พร้อมกับยิงไล่ไปด้วย พรานอาวุโสก็ตะโกนบอกว่า "อย่าตามไปคนเดียว มันมาเพื่อล่อให้พวกเราแตกกลุ่มกัน" ตอนนี้พรานเม่นไม่ฟังใครแล้ว ในใจคิดอย่างเดียว ว่าต้องฆ่ามันให้ได้
พรานอาวุโสก็ให้พรานอีกคนนึงวิ่งตามไป ย้ำส่งท้ายว่า "ห้ามอยู่คนเดียว ต้องเกาะกลุ่มกันไว้" ไล่ตามมาสักพัก เสือตัวนั้นก็หายไป หันไปมองเพื่อนที่ตามมาก็หายไปด้วย พรานเม่นเดินไปมาแถวนั้นสักพักหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงปืนทางด้านหลัง จึงตกใจ รีบวิ่งตามเสียงปืนนั้นไปดู
เสียงปืนเริ่มเงียบไป พรานเม่นก็วิ่งมาถึงตรงจุดนั้น เห็นเพื่อนคนหนึ่งกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ ตามลำตัวมีแต่แผล รอยโดนข่วนลึก เลือดไหลท่วมเต็มตัว ปากก็ร้องว่า "เจ็บๆๆ" แล้วก็ชี้ไปทางซ้ายมือ บอกว่าเสือมันลากเพื่อนอีกคนไปด้วย
พรานเม่นบอกให้เพื่อนรออยู่ตรงนี้ก่อน แล้วแกก็วิ่งไปตามทางที่เพื่อนชี้ พรานเม่นเดินตามรอยเลือดไปเรื่อยๆ มันไปหยุดอยู่ตรงต้นไม้ต้นหนึ่ง พลันก็ได้ยินเสียงเบาๆ ร้องให้ช่วยเหลือ
พรานเม่นค่อยๆเดินไปที่หลังต้นไม้ เห็นเสือตัวนั้นกำลังฉีกร่างของเพื่อนอยู่ แกไม่รอช้า คว้าปืนยิงใส่เสือตัวนั้นเต็มๆ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือเสียงกรีดร้องของผู้หญิง เหมือนกำลังเจ็บปวดทรมาน เสียงนั้นดังไปทั่วทั้งป่า เป็นเสียงที่โหยหวน จนขนพองไปทั้งตัว
ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ต่อหน้าพรานเม่นนั้นไม่ใช่เสือ แต่ดันกลายร่างเป็นเด็กผู้หญิง นอนชักดิ้นชักงอ ร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วค่อยๆคลานมาตามพื้นดิน พร้อมกับพูดว่า "อย่าทำหนูเลย..อย่าทำหนูเลย..ปล่อยหนูไปเถอะ..หนูเจ็บ" พูดหลายรอบ ซ้ำไปซ้ำมา
พรานเม่นไม่รอช้า รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่คน ยัดกระสุนเข้ารังเพลิง เตรียมที่จะยิงซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ เด็กคนนั้นเห็นพรานเม่นเล็งปืนพร้อมยิง จากเสียงเด็ก ก็กลายเป็นเสียงผู้หญิงแก่ๆ พูดเสียงหยาบๆว่า "เอ็งอยากตายนักใช่มั้ย ข้าจะเอาเอ็งไป เหมือนเมียของเอ็ง" แล้วกระโจนพรวดใส่พรานเม่น
เมื่อพรานเม่นเห็นคนกลายเป็นร่างเสือ แล้วกระโจนเข้ามา จึงยิงสวนทันที แต่ด้วยความตกใน กระสุนจึงพลาดเป้าไปโดนขาหน้าของเสือตัวนั้นแทน พรานเม่นคิดในใจว่า แย่ละ ใส่กระสุนไม่ทันแน่
เจ้าเสือพุ่งตรงมาอยู่ตรงหน้า พรานเม่นรีบยกมือขึ้นป้องหน้าทันที จนโดนกัดเสียเต็มๆแขน แล้วฉีกเอาเนื้อออกไปก้อนหนึ่ง ส่วนแขนอีกข้างโดนข่วนจนแหก พรานเม่นล้มลง ในใจคิดว่าตายแน่นอน ต้องไม่รอดแน่ๆ
เมื่อล้มลง เสือตัวนั้นก็พุ่งตรงเข้ากัดฉีกใบหน้า จนลูกกะตาหลุดเข้าไปในปากเสือข้างหนึ่ง เลือดท่วมตัว ตามัว คิดว่าไม่รอดแน่แล้ว คิดถึงพ่อคิดถึงแม่ ด้วยความไม่อยากตาย สติและแรงเฮือกสุดท้าย คว้ามีดที่เอว ที่ส่วนมาก พรานจะมีมีดหมอพกติดตัวกันทุกคน
พรานเม่นใช้มีดหมอ จ้วงแทงไปที่คอของเสือตัวนั้นทันที แทงเข้าไปซ้ำๆ จนเสือตัวนั้นแน่นิ่งและหยุดหายใจ พรานเม่นรีบยันตัวลุกขึ้น ไปคว้าตัวเพื่อน แล้วพากันเดินออกไป จนไปเจอกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน พร้อมเลือดเต็มตัว กลุ่มเพื่อนที่เห็นต่างพากันยืนอึ้งกันสักพัก แล้วก็พากันออกมาจากป่า
รุ่งเช้า ชาวบ้านก็พากันเข้าไปในป่า เพื่อไปดูร่างของเสือตัวใหญ่ที่นอนตายอยู่ แต่ชาวบ้านทุกคนก็ต้องรู้สึกตกใจ ร่างเสือที่นอนตายอยู่ บัดนี้ กลายเป็นร่างของหญิงแก่คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน
พวกพรานที่เข้าไปล่าเสือเมื่อคืน ต่างพูดเป็นเสียงแข็งว่า ก่อนเดินออกจากป่า ยังเห็นเป็นเสือตัวใหญ่ นอนจมกองเลือดอยู่เลย จากการที่คนแก่ๆ และพวกผู้ใหญ่พูดกัน คิดว่าน่าจะเป็นพวกเล่นของ จนของเข้าตัว หรืออาจจะเป็นร่างของผู้หญิงที่เคยถูกเสือตัวนี้ฆ่าตาย และกลับเข้ามาสิงในร่างของเสือ
จากเหตุการณ์นั้น พรานเม่นได้เสียแขนและลูกกะตาไปอย่างละข้าง เสียภรรยา และเสียเพื่อนไปอีกหนึ่งคน และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment