ตำนานสยองมหาลัยภาคใต้
แนะนำตำนานสยองของมหาลัยดังภาคใต้ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและเล่าส่งกันต่อมา ถึงความสยอง ความเฮี้ยนที่ไม่สามารถอธิบายได้ ลองไปติตามกันเลยครับ
นอกจากจะเป็นมหาวิทยาลัยแล้ว ยังเป็นโรงพยาบาลประจําจังหวัดอีกด้วยนะครับ (เช่นกันครับ ที่นี่คือโรงพยาบาลที่ ใหญ่ที่สุดของภาคใต้) เพราะงั้นเรื่องคนเจ็บคนตายนี้หายห่วง มีมาให้เห็นกันทุกวัน
- ด้ายแดง
เริ่มกันที่ ตึก MNL ครับ เป็นตึกสําหรับวิชากายวิภาคศาสตร์ ก็แปลว่าเป็นตึกที่ใช้เก็บรักษาร่างของอาจารย์ใหญ่นั่นเอง (อาจารย์ ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทําการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาคครับ ใช้ทําการผ่า ทําการศึกษาผ่านร่างกายจริง นักศึกษาจึงเรียกร่างเหล่านี้ว่าอาจารย์ใหญ่ ในฐานที่อุทิศร่างกายให้พวกเค้าได้เรียนรู้ ว่ากันว่าใครที่บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ ใหญ่นี่จะได้บุญน่าดู) สําหรับตํานานของตึกนี้เค้าก็เล่ากันมาว่า...
เคยมีนักศึกษาปี 1 ครับ ก็มาเรียนที่ตึกเป็นวันแรก ไปถามยามว่าลิฟต์อยู่ทางไหน ยามก็บอกทางไปตามปกติ ก่อนจากนักศึกษาคน นั้นสังเกตเห็นว่า ที่ข้อมือของยามคนนี้ มีด้ายสีแดงผูกอยู่เป้าหมายของนักศึกษาคนนี้อยู่ที่ชั้น 5 ครับ ก็กดลิฟต์เปิดเข้าไป กดชั้น 5 แต่ลิฟต์กลับไปเปิดที่ชั้น 2 (ชั้น 2 จะเป็นชั้นที่ใช้เก็บร่างอาจารย์ใหญ่ครับ ซึ่งตอนนั้นไอ้น้องคนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่รู้เรื่อง มา เสียวแทบช็อกเอาตอนรู้ทีหลัง ว่าทําไมลิฟต์ถึงได้จอดชั้นนั้น) เรียนเสร็จลงมาก็ไม่เจอยามคนนั้นแล้วครับ และก็ไม่เคยได้เจอ แกอีกเลยไม่ว่าจะกลับไปเรียนที่ตึกอีกกี่ครั้ง จนในที่สุด ก็ได้มารู้ความจริงจากปากรุ่นพี่ว่า ที่ตึก MNL ไม่เคยมียามประจํา การอยู่ (!?) ก็งงสิครับ แล้วยามคนที่เค้าเห็นคืออะไร ก็เลยเล่าให้รุ่นพี่ฟัง จนมาได้รู้ความจริงว่า การผูกด้ายสีแดงที่ข้อมือน่ะ คน เป็นจะไม่ผูกกัน ด้ายแดงจะใช้สําหรับผูกข้อมืออาจารย์ใหญ่ (ผมได้ไปสถานที่จริงมาด้วยนะครับ กลางคืนเข้าไม่ได้ เลยต้องกลับไป อีกทีตอนกลางวัน ไปเดินชั้น 2 มา รอบๆสองข้างทางก็แบ่งเป็นห้อง ๆ ล่ะครับ แอบเห็นห้องปฏิบัติการแวบนึงด้วย (ห้องผ่า) บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบแบบพิลึก ๆ ชวนวังเวงโดยไม่มีเหตุผล)
- ตึกฟักทอง
มากันที่ภาคเคมีของคณะวิทยาศาสตร์ครับ ที่นี่จะมีตึกที่เปรียบเป็นดั่งสัญลักษณ์ ของมหาลัย คือตึกฟักทอง (ตามชื่อเลยครับ ตึกจะ มีรูปร่างเป็นฟักทอง) ตึกฟักทองนี้มีตํานานด้วยนะครับ เห็นว่าถ้าเด็ก ม.6 เตรียมเอนท์มาเดินนับกลีบเค้าว่าจะเอนท์ไม่ติด ขณะ เดียวกันถ้าเป็นนักศึกษาของมหาลัย มาเดินนับกลีบก็จะเรียนไม่จบ ห้องหับใต้ตึกฟักทองจะเรียกเป็น L1-L5 ทั้ง 5 ห้องนี้จะมีม่าน เป็นสีน้ําเงินหมดครับ แต่จะมีเพียงห้องเดียวที่มีม่านเป็นสีดํา ว่ากันว่าเคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยเสียชีวิตลงที่ห้องนั้น ทางคณะก็เลย ไว้อาลัยให้ ด้วยเปลี่ยนม่านเป็นสีดํา (ใครเรียนอยู่ที่นั่น ว่าง ๆ ลองไปเดินสํารวจดูนะครับ ผมไปมาละ มีห้องหนึ่งม่านสีต่างจากห้อง อื่นจริง ๆ) ใต้ตึกฟักทองนี่ก็ตํานานเยอะพอตัวเลยครับ ทั้งว่าหากไปอ่านหนังสือวิชาเคมีตอนดึก ๆ แล้วจะมีวิญญาณอาจารย์วิชาเคมี ที่เสียไป มาสอนพร้อมสมุดปกสีแดง (ตอนไปนี่เจอคนนึงครับ เล่าให้ฟังว่าเคยนั่งอ่านหนังสือดึก ๆ แล้วเห็นควันลอยออกมาจากเสา ไม้)
- ควนมดแดง
คําว่าควน สําหรับคนใต้ก็หมายถึงเนินเตี้ย ๆ ครับ ที่ตึกวิศวะจะมีถนนเส้นเล็ก ๆ เส้นหนึ่ง มุ่งไปยังเป็นที่เรียกว่า “ควนมดแดง” ระหว่างถนนสองข้างทางก็ป่ารกทึบล่ะครับ มาตอนกลางคืนมองไปไม่เห็นอะไรเลย ตํานานที่ควนมดแดงนี่น่ากลัวนะครับ ฟังแล้วไม่ กล้ไปลองคนเดียวเหมือนกันจ๊ะ นักศึกษาที่ มอ. เล่าให้ฟังครับ ว่าเคยมีรุ่นพี่กลับจากเตะบอลตอนดึก ๆ ก็เดินขึ้นควนมดแดงมา ระหว่างทางก็เป็นป่ามืด ๆ ครับ จะมีแสงไฟก็เพียงจากเสาไฟฟ้า ที่ต้นหนึ่งทิ้งห่างกันพอสมควร และก็ที่เสาไฟต้นที่ 3 นี่ละครับ ที่พี่ เค้าเห็นนักศึกษาผู้หญิงคนนึงกวักมือเรียกให้ไปหา พอเดินเข้าไปผู้หญิงคนนี้ก็เงยหน้าที่มีเลือดโชก แล้วก็หายไป
คนเก่าคนแก่เล่าให้ฟังครับ ว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นนักศึกษาที่ถูกคนงานฆ่าข่มขืนสมัยที่สร้างตึกวิศวะฯ ขึ้นมานั่นเอง พวกผมได้ ไปลองเดินที่ควนมดแดงที่ว่านี้ด้วยนะครับ ซึ่งสถานที่จริงเปลี่ยวโคตร น้องสาวผมคนนึงก็ได้ไปลองยืนที่เสาไฟต้นที่ 3 มาครับ ไป ยืนแล้วก็โบกมือเลียนแบบตามตํานาน ก็ไม่พบอะไรครับ แต่ระหว่างโบกได้ยินเสียงวดแหลมสูงเป็นระยะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปยืนที่เสา ไม่มีเสียงอะไรเลยก็แปลก ๆ นะครับ
ก่อนจะไปถึงเรื่องสุดท้ายผมขอทิ้งไว้ เรื่องครับ ด้วยความที่ มอ. หาดใหญ่มีโรงพยาบาลอยู่ในตัว ก็เลยจะมีเรื่องผีพยาบาล ผีคุณ หมอ ผีคนไขอะไรมากมายครับ ซึ่งหลายๆ เรื่องก็สมจริงบ้าง เหนือจริงบ้าง และวิธีที่เค้าว่าถ้าอยากเห็นผีเหล่านี้ ก็ให้ไปตามตึกต่าง ๆ และมองลอดหว่างขาไปที่ดาดฟ้า ถ้าดวงดีจริง ๆ เค้าว่าผีสาวพยาบาลชุดขาวทั้งหลาย จะมีน้ําใจโผล่มาให้เห็นครับ มาถึงเรื่อง สุดท้ายแล้วนะครับ ผมว่าตํานานเรื่องนี้ ทุกคนน่าจะเคยมีโอกาสได้ยินกันมาบ้างสักครั้งในชีวิต มาหาดใหญ่ครั้งนี้ผมประทับใจ หลายอย่างครับ ทั้งโรตีทิชชู ทั้งไก่ทอดหาดใหญ่ต้นตํารับ ทั้งร้านน้ําชาที่อลังการมาก แต่ที่ประทับใจที่สุด ก็คือการที่ได้มาลอง ของกับโคตรผีในตํานานของไทย คุณยายสปีดครับ
ยายสปีดนี่ไปจังหวัดไหน จังหวัดนั้นต้องอ้างว่าจังหวัดตัวเองมียายสปีดครับ แต่ของแท้และดั้งเดิมต้องที่นี่ครับ หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่นี่มีซอย ๆ หนึ่ง ชื่อซอยว่า ซอยคุณยายสปีดครับ ไปไล่สัมภาษณ์มาหลายคน ทุกคนตอบเหมือนกันว่าตั้งแต่จําความได้ ก็รู้จักคุณยายสปีดแล้ว เรื่องเล่าเกี่ยวกับวีรกรรมของยายคนนี้แกเยอะมากครับ ทั้งยายเค้าไม่ชอบเสียงท่อเสียงดัง ๆ ยายไม่ชอบ เด็กแว้น เข้าซอยยายห้ามขี้เกิน 40 เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเคยบอกไว้ว่า ก็มีเด็กแว้นมาเทสต์รถกัน ก็หมอบมาเลย 120 หันหลังไป มองเห็นคุณยายไล่ตามมาติด ๆ ล้อเลย แต่ยายไม่ได้วิ่งมาครับยายคลานมาเพราะยายแกมีแต่ตัว ไม่มีช่วงล่าง (เห็นว่า ยายตายเพราะโดนรถมอเตอร์ไซค์ชนจนตัวขาดครั้ง) ด้วยเหตุที่เล่ามานี้ล่ะครับ แกจึงถูกเรียกว่า คุณยายสปีด
ซอยยายสปีดนี้ จะเป็นซอยเล็ก ๆ ครับ และในซอยนี่ถนนเรียบมาก เป็นทางยาวตรง เหมาะแก่การนํารถมาแข่งกันอย่างยิ่ง ในซอยนี่ ก็บอกเลยว่าสยองมาก จากต้นซอยเราจะพบกับวัดถาวรครับ ซึ่งส่วนของป่าช้จะติดกับริมถนนพอดี ทั้งโกศ ทั้งกูโบร์นี่เพียบ เลยมา หน่อยจะเป็นวัดจีน ถัดจากวัดจีนก็จะเป็นจุดที่เค้านําศาลมาทิ้งกัน (ตรงนี้กลางคืนนี้โคตรหลอนครับ ทั้งศาลไทย ศาลจีน ตุ๊กตา กุมาร ของไหว้ โอยยย) ตํานานยายสปีดนี้แม้จะมีมาแต่ดึกดําบรรพ์ แต่ก็ไม่มีใครรู้ที่มาที่ชัดเจนครับว่ายายแกเป็นใคร เห็นรู้แต่ว่าแก ตายขณะจะเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม (ตอนนี้เป็นโลตัสแล้ว) แล้วยายโดนมอเตอร์ไซค์ที่แข่งกันมาชนเอา
Post a Comment