ตำนานเฮี้ยนสถาบันด้านการบิน


     เรื่องราวสุดเฮี้ยนที่เกิดขึ้นจริงที่สถาบันสอนการบินแห่งหนึ่ง กับตำนานเรื่องลี้ลับ เรื่องสยอง เรื่องเฮี้ยนต่างลองมาติดตามกันเลยครับ

      การเรียนการสอนที่นี่ หลัก ๆ ก็เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ภายในตัวสถาบันก็ไม่ใหญ่โตมากมายอะไร ครับ มีเครื่องบินตั้งโชว์ให้เห็นเป็นระยะ ๆ (ความรู้สึกคล้าย ๆ เดินงานวันเด็กอยู่เหมือนกัน) ที่นี่เค้าจะไม่เรียกเด็กของเค้าว่านักศึกษา นะครับ แต่จะเรียกว่า ศูนย์ฝึกฯ คืนที่ผมไป มีโอกาสได้ทันไปเห็นเค้ารับน้องกันพอดีครับ ที่นี่รับน้องกันน่ารักมาก น้องปี 1 จะเดิน กลับบ้านกันเป็นแถว สองข้างทางก็จะมีรุ่นพี่คอยตะโกนให้กลับบ้านดีๆ นะน้อง กลับบ้านปลอดภัยนะน้อง เรียกได้ว่าประทับใจ ตั้งแต่แรกเห็น สถาบันน่ารัก แต่ผีที่นี่จัดว่าโหดครับ

- ห้องเรียนกระจก
      ใครอยากมาลองของที่นี่เค้าจัดไว้ให้อย่างเป็นระเบียบครับ ผีทุกตัวรวมกันอยู่ที่ตึก CM ไม่ต้องกลัวจะเหนื่อย เดินเปลี่ยนไปตึกนั้น มาตึกนี้ ชั้น 2 ตึก CM จะมีห้องเรียนอยู่ห้องหนึ่งครับ จะเป็นห้องที่กระจกเยอะที่สุด พี่บอลรุ่นพี่ศูนย์ฝึกฯ ของที่นี่เล่าให้ฟังว่า เมื่อวัน งานกีฬา ทางพวกผู้ชายแข่งเสร็จก็สบายครับ เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงไหนก็ได้ แต่ผู้หญิงเค้าก็ต้องหาที่มิดชิดนิดนึง ก็เลยขึ้นมาชั้นสอง กะจะมาเปลี่ยนที่ห้องนี้ พี่บอลเล่าว่าจังหวะที่น้องเค้าเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ออกจากห้องมากําลังจะปิดประตู ประตูเป็นแบบเปิดเข้าข้าง ใน) ประตูก็ถูกดึงกลับครับ เหมือนกับว่ามีคนดึงสวนไปอีกทาง น้องผู้หญิงคนนี้ก็ตกใจครับ เพราะในห้องไม่มีใครนี่นา แต่พอชะโงก หน้าไปดูกลับตกใจยิ่งกว่าครับ เพราะเธอเจอผู้ชายร่างท้วมยืนจังก้ามองเธออยู่ (จําผีผู้ชายร่างท้วมคนนี้ไว้ดี ๆ นะครับ)

- ล็อกเกอร์
     ความเก๋ของตึก CM คือจะมีตู้ล็อกเกอร์ไว้ให้ศูนย์ฝึกฯ แต่ละคนใช้เก็บของครับ อารมณ์นี้ใครเคยเรียนโรงเรียนประจําน่าจะพอนึก ภาพออก แต่ขณะเดียวกันเรื่องผีที่น่ากลัวที่สุด ทุกคนเคารพที่สุด ก็คือเรื่องของล็อกเกอร์ที่ผมกําลังจะเล่านี้ล่ะครับ

     ตู้ล็อกเกอร์อันปัจจุบันนี้จะเป็นต์ใหม่ครับ เป็นสีเหลือง เหตุผลที่นํามาใช้แทนตู้เก่าไม่มีใครทราบแน่ชัด และตู้เก่าก็ไม่ได้ย้ายไป ไหนไกลเลยครับ อยู่ข้างหลังตู้ใหม่นี้เอง ตู้ล็อกเกอร์อันใหม่นี้ เป็นตู้ที่ศูนย์ฝึกฯ ทุกคนใช้กันเป็นเรื่องปกตินะครับ ใครมัน จะมีจุด ที่ไม่ปกติก็คือ บนตู้มีน้ําแดงสําหรับไหว้เพียบเลยครับ!มีเยอะขนาดเต็มตั้งแต่หัวไปยันท้ายๆ แถมด้วยสายสิญจน์พัน กันระโยงระยางเลยครับ เห็นครั้งแรกผมสงสัยมากว่าเค้าไหว้อะไรกัน เจ้าที่ที่ไหนมาประจําการอยู่ตู้ล็อกเกอร์ ? จนมารู้ต่านานว่า เคยมีรุ่นพี่ศูนย์ฝึกฯ คนหนึ่ง มอเตอร์ไซค์คว่าเสียชีวิตระหว่างกําลังมาเรียน แต่จากนั้นเช้า ๆ ก็ยังมีคนเห็นพี่คนนี้เอาเสื้อผ้า เอาของ มาเก็บที่ล็อกเกอร์ ยิ่งช่วงตายใหม่ ๆ แม่บ้านเห็นกันจนไม่เป็นอันทํางาน ก็สันนิษฐานว่าน้ําแดงเหล่านี้อาจจะมีไว้เพื่อรุ่นพี่คนนี้นี่เอง (คาดว่านะครับ ที่มาแท้จริงของการไหว้น้ําแดงอาจจะเดือดกว่าเรื่องนี้ก็ได้)

     กลับมาที่เรื่องเล่าของพี่บอลครับ พี่บอลบอกว่าเคยมีเพื่อนเค้าคนนึง ก็เมา ๆ มาล่ะครับ ขึ้นมาก็ท้าทายตามประสาคนเมาเต็มที่ เดิน ไปหยิบเอาน้ําแดงบนตู้มาดื่ม เพื่อนก็ถามรสชาติเป็นไง ไอ้คนดื่มก็บอก "จิดว่ะ" พอสิ้นเสียงจืดวะเท่านั้นแหละ พี่บอลบอกมันลงไป นอนดิ้นเลย

     เรื่องของตู้ล็อกเกอร์ยังไม่จบครับ แต่อันนี้เป็นเรื่องของตู้เก่าที่อยู่ด้านหลัง ตู้เก่านี่สภาพน่ากลัวมากครับ ตู้สีเทาดั้งเดิม สนิมเกรอะ กรัง คือเอาไปเข้าฉากในหนังผีได้เลยอะ พี่บอลเล่าว่าเคยมีผู้หญิงคนนึง ก็ขึ้นมาเก็บของที่ล็อกเกอร์ของเขา ก็เปิดล็อกเกอร์ (นึก ภาพตามนะครับ เปิดฝาตู้ล็อกเกอร์ บานฝาตู้ก็เปิดออกทางขวา ทีนี้เราจะไม่เห็นอะไรทางขวาของเราละ เพราะฝาล็อกเกอร์มันบัง) ก็เก็บของไปตามเรื่องครับ ไอ้จังหวะปิดล็อกเกอร์นี่แหละ ที่ปิดบหันขวาไปเจอผู้หญิงยืนอยู่ ยืนเฉย ๆ ก้มหน้า ไว้เล็บยาวสีแดง... (จําผู้หญิงเล็บแดงคนนี้ไว้นะครับ)

     เรื่องต่อมานี้เกิดต่อเนื่องมาจากวีรกรรมของพวกเราครับ เราไปลองของที่ตู้ล็อกเกอร์นี้มา (ขอไม่เล่านะครับว่าทําอะไรไปบ้าง เดี๋ยว จะโดนเด็กศูนย์ฝึกฯ ที่นี่ไม่พอใจเอา) ลองเสร็จก็ลงจากตึกครับ พอลงมาก็มีรุ่นน้องของพี่บอลทัก ว่ามีผู้หญิงตามพวกเราจากบนตึก ลงมา ผมก็ถามว่าผู้หญิงคนไหน ขึ้นไปกันแต่ผู้ชาย น้องมันบอกเค้าเป็นผู้หญิงคนที่พี่พูดถึงบนตึก ซึ่งบนตึก ผู้หญิงที่พวกผมพูด ถึงมีแค่คนเดียวเลยครับ คือผู้หญิงเล็บแดงในเรื่องเล่า !!! ผมก็ถามต่อเลยครับ ว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ว่าเค้ายังอยู่รึเปล่า น้องก็ บอก เค้าขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้ว มาถึงขนาดนี้จากที่กําลังจะกลับพวกผมก็เลยจะขึ้นตึก CM ไปอีกรอบครับ ขึ้นไปดาดฟ้า ขาขึ้นรอบ สองนี่กลัวเหมือนกันนะครับ เพราะจําได้ว่าเวลาดูหนังจะโดนผีหลอกส่วนใหญ่ก็รอบสองแบบที่กําลังทํานี่แหละ

     ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับดาดฟ้านิดนึงครับ ก็เป็นเรื่องผีโดดตึกทั่วไปครับ แต่ที่ต่างไปจากมหาวิทยาลัยอื่นคือผีที่นี่มันโดดทุกจุดครับ จะระเบียง จะหน้าต่าง ดาดฟ้าเคยมีคนเห็นมาหมดแล้ว แต่จุดที่เห็นบ่อยสุดจะเป็นดาดฟ้าที่เรากําลังขึ้นไป และรูปร่างของผีโดดตึก ตัวที่ว่านี้ เค้าว่าเป็นผู้หญิงผมยาวยืนก้มหน้าก่อนโดดครับ

     ตอนที่ขึ้นไปถึงชั้น 2 กลุ่มน้อง ๆ พี่บอลก็ขออ้อมไปอีกทางครับ ไม่กล้าเดินผ่านตู้ล็อกเกอร์ ก็อ้อมไปเจอพวกผมอีกฝั่ง พอขึ้นมา เจอกันปับ ผมก็ถามเดินอ้อมทําไม กลัวขนาดนั้นเลยหรอ น้องมันบอกไม่กล้าเดินผ่านตู้เค้ายืนจ้องอยู่ ผมก็ตกใจครับ อะไรจะเสี้ยน ขนาดนั้น ก็ถามเค้ายืนตรงไหนนะ? น้องบอกตรงที่ผมเดินผ่านตู้มาเมื่อกี้ แถมผมยังเดินทะลุตัวเค้ามาด้วย ก็ถามว่ารูปร่างเป็นยังไง ชายหรือหญิง น้องมันบอกเป็นผู้ชายร่างท้วม (ยังจ่าผู้ชายร่างท้วมตอนต้นเรื่องได้ไหมครับ) พอถึงตรงนี้ผมก็เลยเล่าครับว่าไปทํา อะไรตรงล็อกเกอร์ไว้บ้าง ทีนี้พวกน้องกลุ่มนี้ยิ่งกลัวหนัก น้องคนนึงที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็บิวท์ใหญ่เลยทีนี้ ทั้งเตือน ทั้งห้าม ว่าอย่าขึ้นไปดาดฟ้าเลย บิวท์จนพวกผมเองหลายคนก็ชักเริ่มกลัว


     นี่คือคําพูดของน้องคนนี้ที่เตือนพวกผมครับ (ถ้าถามว่าทําไมจําได้เป๊ะขนาดนี้ คือพวกผมถ่ายวิดีโอกันไว้ด้วยนะครับ) “ที่ตรงนี้ ไม่มี ใครกล้าท้า ไม่มีใครกล้ายุ่ง คนที่ตายเค้ามีตัวตนจริง ๆ คนที่เล่าก็เป็นอาจารย์ที่เป็นที่เคารพนับถือ พวกคุณไปดื่มน้ําของเค้า ผมไม่รู้ หรอกนะว่าคิดอะไรอยู่ พวกผมอยู่ที่นี่กันทุกวัน มีโอกาสทํามากกว่าพวกคุณอีก ผมยังไม่กล้าทําเลย คือมันเกินลิมิตอ่ะ มันไม่ใช่เรื่อง ที่สมควรจะเล่นกันแล้ว" แต่สุดท้าย พวกผมก็ตัดสินใจขึ้นไปดาดฟ้าต่อครับ โดยเหลือกันแค่พวกตัวเอง 4 คนเท่านั้น น้องที่เหลือ ถอยลงตึกไปหมดแล้ว

     จากตรงนี้ผมไม่สามารถเล่าต่อได้แล้วครับ ขอโทษจากใจจริง ๆ เลย เพราะด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง คําสัญญาหลาย ๆ อัน ที่ให้ไว้ กับเด็กศูนย์ฝึกฯ ของสถาบันนี้ คําสัญญาว่าจะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ว่าข้างบนดาดฟ้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาเป็นว่าจากเรื่อง เล่าทั้งหมด ก็สรุปได้ว่าเรื่องผีของที่นี่น่าจะเกิดมาจากผีแค่ 2 ตัวเท่านั้นครับ คือผีร่างท้วมกับผีสาวเล็บแดง ที่คงสามารถแยกตัวไป จุดนั้นจุดนี้ได้ จนเรื่องผีมันเพิ่มขึ้นมานั่นเอง


ไม่มีความคิดเห็น