เจอผีหัวขาด!


      เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง จากสถานที่จริงเป็นที่เล่าขานกันมาถึงเรื่องราวลึกลับตึก สศก. เกิดเหตุการที่ไม่สามารถอธิบายได้หลายเรื่องวันนี้เรายกเรื่องของผีหัวขาดมาเล่ากันให้ฟังไปติดตามกันเลยครับ

      อีกหนึ่งเหตุการณ์ชวนสยอง ต้องย้อนกลับไปเดือนกรกฎาคม 2540 หลังจากผู้สื่อข่าวประจำกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) ได้รายงานถึงเรื่องราวลึกลับว่า พนักงานสอบสวน 2 นาย ในคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงเทพ หรือ บีบีซี ซึ่งอยู่ในระหว่างทำการสอบสวนหามรุ่งหามค่ำเพื่อสรุปสำนวนฟ้องผู้ต้องหา

      แต่...ระหว่างที่ทำงานในยามดึกสงัด แต่แล้วกลับมีวิญญาณหญิงสาวมาปรากฏตัวให้เห็นในสภาพหัวขาด ทำเอา 2 ตำรวจที่เห็นเข้าไม่เป็นอันทำงาน ทำให้เรื่องราวดังกล่าวถูกเล่าขานทั่วตึก สศก. แต่เจ้าตัวเองก็ไม่กล้าเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งมากนัก กลัวผู้ใต้บังคับบัญชาจะหวาดกลัวไปด้วย

      ทั้งนี้ ต่อมาตำรวจที่เจอเหตุการณ์สยองขวัญได้เล่าว่า ตอนนั้นหลังจากทำงานจนดึกที่ตึกเก่าในห้อง 302 บนชั้น 3 เพียงคนเดียว จึงได้นำเตียงผ้าใบมานอนภายในห้อง โดยหันศีรษะไปที่ประตูด้านหลัง และในขณะที่กำลังหลับปรากฏว่าร่างกายทุกส่วนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แม้แต่จะดิ้นยังทำไม่ได้ ฉับพลันปรากฏร่างผู้หญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่ด้านข้าง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะขยับศีรษะมองเรือนร่างนั้น

      “ความรู้สึกคือมีขาของผู้หญิงคนนั้นมานอนอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงเด็ก 2-3คน ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวลากเก้าอี้ภายในห้องเล่นกันอย่างสนุกสนาน “ให้นอนกันได้แล้ว...” เสียงผู้หญิงพูดขึ้นได้ยินแว่วๆ จากนั้นเหมือนมีกระเป๋าถือมาวางบนหน้าอก แต่ไม่สามารถหยิบได้ สักพักเสียงต่างๆ ก็เงียบไป ร่างกายเริ่มขยับได้อีกครั้งหนึ่ง”

      นอกจากนี้ตำรวจคนเดิมยังบอกว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน ได้มีพนักงานสอบสวนคนหนึ่งมาเล่าให้ฟัง โดยเขาได้นอนที่ห้องเดียวกันนี้และเจอเหตุการณ์ประหลาด โดยพบวิญญาณผู้หญิงคนหนึ่ง เปลือยกายล่อนจ้อน แต่ไม่มีศีรษะ มายืนอยู่ปลายเตียง และผู้หญิงก็เรียกด้วยเสียงเย็นเยือกว่า “พี่...พี่...พี่” จากนั้นก็หายไป

     อย่างไรก็ตาม สำหรับประวัติตึก สศก. เป็นตึกโบราณรูปตัวยู สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนสาทรฝั่งเหนือ โดยเป็นตึกเก่าแก่อายุกว่า 70 ปี แต่ก่อนเป็นที่ตั้งของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเคยเป็นที่คุมขังคนหลบหนีเข้าเมือง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2492 ได้เปลี่ยนเป็นที่ตั้งกองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากร กรมตำรวจ กระทั่งปี 2535 ได้เปลี่ยนมาเป็นของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ

     สภาพตัวตึกสีเทาเก่าคร่ำคร่า พื้นชั้นล่างปูด้วยไม้และปิดทับด้วยกระเบื้องยาง ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 ปูด้วยหินอ่อนสีขาว ที่ปีกซ้ายและขวาของตึกมีบันไดวน ด้านหน้าของตึกจะมีห้องทำงาน ประตูแต่ละห้องจะมีขนาดใหญ่และสูง เช่น ประตูทรงโบราณ

ไม่มีความคิดเห็น