วิญญาณที่ไม่รู้ว่าตัวเองตาย


      เป็นประสบการณ์ของครอบครัวหนึ่ง จากกระทู้พันทิป เรื่องราวที่ทั้งครอบครัวเจอกับอากงที่ไม่เจอกันด้วยความลี้ลับ เมื่อพบว่าวิญญาณอากงนั้นคาดกันว่า อากงยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว น่าสนใจและน่าติดตามมากครับ ลองไปดูกันคับว่าครอบครัวนี้ดำเนินชีวิตกับเรื่องแบบนี้อย่างไรเมื่อสมาชิกในครอบครัวเป็นวิญญาณ

     สวัสดีค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะค่ะ  หากใครไม่เชื่อหรือไม่เคยเจอก็อย่าหลบลู่นะค่ะ เราไม่รู้หลอกว่าว่าเราจะดวงดีวันไหน เรื่องนี้เราไม่ได้เจอเองหรอกค่ะ เป็นครอบครัวเราที่เจอเองค่ะ เจอกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ คุณตาของเราเป็นคนจีนค่ะมาจากเมืองจีนอพยพมาจากเมืองจีนค่ะ มากันทั้งหมดสามคน มีอากง ป้าหยง และตาของเรา ทั้งสามมาถึงก็หางานทำโดยตาของเราเป็นกุ๊ก ทำมาหลายปีก็มาเจอคุณยาย คุณยายของเรามีลูกทั้งหมดสี่คนโดยแม่ของเราเป็นคนโต แม่เราเล่าให้ฟังว่าตอนสมัยสาวๆ ตาชอบพาไปหาอากง และไปหาป้าหยง อากงไม่มีแฟนหรอก ชอบกินเหล้า ก็อยู่ละแวกแถวบ้านแก วันหนึ่งแม่บอกว่าตารู้ข่าวอากงเสีย ตาก็ต้องพาลูกๆ และยายไปบ้านอากงค่ะ ไปด้วยกันทั้งหมดหกคน ตาพาทุกคนไปที่บ้านอากง ไปวันแรกเค้าเอาศพอากงไว้ที่โรงพยาบาล ทุกคนเลยกลับมารอที่บ้านเพื่อพรุ่งนี้จะไปรับศพ ที่บ้านของอากงก็จะมีแค่สองห้องนอนซึ่งมีห้อง อากง กับ ป้าหยงอยู่ชั้นบน ทุกคนเลยตัดสินใจนอนหน้าที่วีของชั้นล่าง โดยมี คุณตานอนด้านใน คุณยายนอนติดคุณตา มีน้านุ่นนอนข้างยาย น้าน่องตามมาแล้วก็แม่และพ่อของฉัน โดยมีพ่อปิดท้าย ทุกคนก็นอนคุยกันจนไม่รู้เวลาเพราะแม่บอกไม่เคยไปนอนที่ไหนกันเลยนี่น่าจะเป็นสาเหตุทำให้นอนไม่หลับ

       คุยกันกระทั่งทุกคนได้ยินเสียงหมาหอนทุกคนพร้อมใจกันเงียบแม่เล่าให้ฟังว่า หมามันหอนตั้งแต่ต้นซอย จนมาถึงหน้าประตูรั่วน้าน่องที่นอนข้างแม่ใช้เท้าสะกิดแม่ แม่เอาผ้าห่มคุมโปง ทุกคนทยอยเอาผ้าคุมโปง สักพักหมาที่หอนกันอยู่ ๆ เงียบลง แต่แม่บอกว่าได้ยินเสียงหมาที่อากงเลี้ยงเห่าอยู่ที่หน้าประตูรั่ว แม่บอกว่านอนฟังมันเห่าสักพัก หมากลับหยุดเห่าแต่ดันร้องเสียง หงิงๆๆๆ เหมือนกำลังเล่นกับใครอยู่เท่านั้นแม่บอกหันไปกอดพ่อ จนสักพักแม่บอกว่าหมาหยุดเล่น แม่เลยเหงื่อยหูฟังกับได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา เหมือนกำลังเข้ามาในห้องทีวีที่นอนกันอยู่แม่ได้ยินเสียงน้านุ่นร้องไห้บอกหนูกลัว ยายส่งเสียงเบาๆ เงียบๆอย่าเสียงดังเดี๋ยวเค้ารู้ ทุกคนนอนสั่นกันเหมือนเจ้าเข้า จนหน้าน่องเปยออกมาว่าเห้ยเค้าแตะเท้าหนู.......แม่บอกให้เงียบๆ หน้าน่องเริ่มร้องไห้อีกคน จนเสียงเดินนั้นหายไป ทุกคนกลัวจนหลับไป

        พอเช้าตรู่ น้าน่องกับน้านุ่นร้องไห้บอกไม่นอนแล้ว ตาบอกไม่ได้ยังไงก็ต้องอยู่ให้ถึงวันเผา (เพราะสมัยนั้นการเดินทางลำบากมาก) น้านุ่นร้องดังกว่าเก่า ยายด่าตาไม่รู้จักดูลูกเต้าเลย มันกลัวหมดเมื่อคืนนอนหลับอยู่ได้ ตาด่ายายกลับหลับบ้าหลับบอไร เมื่อคืนที่ไอ้น่องร้องว่ามีคนแตะขาเลยแอบมองว่าคนหรือผี เท่านั้นแหละช็อกจนพูดอะไรไม่ออก ยายถามว่าเจอไร ตาบอกด้วยน้ำเสียครึมว่า ก็เจออากงกำลังยืนมองพวกเราอะเดะ เท่านั้นและยายก็ขำ ยายบอกสมน้ำหน้า ไม่ยอมส่งเสียงนึกว่าหลับนอนไปและ

      เข้าสู่วันที่สอง ญาติก็เดินทางไปรับศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัด แม่เล่าให้ฟังว่า ทุกคนก็กำลังฟังพระสวดอยู่นั้น หมาทุกตัวมารวมตัวกันหอนอยู่หน้าศาลาที่ตั้งศพอากงอยู่ ทุกคนที่ฟังพระสวดหันมองทางโน้นทีทางนี้ที สักพักหมาก็หยุดหอน แม่เล่าอีกว่าไฟในศาลาดันดับแต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ไฟดับที่ศาลาที่เดียวทุกคนกรี้ดร้องกันดังสนั่น จนกระทั่งเจ้าอาวาสเดินลงมาและสวดพึมพำไฟก็ติด แขกที่มารวมงานพากันกลับบ้านทั้งที่ยังสวดไม่เสร็จเรื่องหลอน อากงไม่รู้ตัวว่าตาย ญาติญาติก็มานั่งฟังพระสวดกันต่อ ป้าหยงเลยลุกไปเคาะข้างโลงตาเดินไปเป็นเพื่อนป้าหยง แล้วก็มานั่งฟังพระสวดเหมือนกัน

      พระสวดเสร็จทุกคนก็พากันกลับที่บ้านอากง แม่บอกว่ากำลังก้าวลงจากรถ หมาอากงที่อากงเลี้ยงอยู่มันทั้งเห่าและกระดิกห่างมองมาที่รถ แม่และทุกคนขนลุกซู่น้านุ่นวิ่งไปเกาะแขนยายอย่างเร็ว ทุกคนต่างพากันเข้าบ้าน และมานั่งคุย ป้าหยงพูดประโยคแรก มันคงยังไม่รู้ว่ามันยังไม่ตาย มันยังห่วงอยู่ทุกคนถามอากงเค้าหวงอะไร ป้าหยงบอกอย่างทันควัน ห่วงป้านี่แหละเมื่อคนมันยังมาบีบนวดอยู่เลย มันทำเป็นประจำทุกคนที่ฟังอยู่เริ่มกระเถิบหากันโดยมิได้นัดหมาย ป้าว่าจะสวดสักสามวันพอ มันจะได้ไปสู่สุขติ ยายถามป้าว่าแล้วเมื่อกี้เดินไปเคาะโลงทำไมป้าเล่าต่อว่าเห็นมันนั่งอยู่บนโลงแล้วร้องไห้ป้าเลยเดินไปบอกมันว่าไม่ต้องห่วงอะไร แกตายแล้วไปสู่สุคติแม่บอกว่าแทบอยากเดินกลับบ้าน......

ไม่มีความคิดเห็น