สิ่งที่ผมเจอ คุณบอล จาก The Ghost Radio
ผีสยองหนองกระจายขอส่งต่อความสยอง จากทางกระทู้พันทิปถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio เรื่องราวรวมจักรวาลผีของคุณบอล แห่ง The Ghost Radio ถ่ายทอดเอาไว้เนื้อหาจะมีความเชื่อมโยงจนจบทั้ง8เรื่อง
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ตอนนั้นผมอายุ 20 พอดีเลย ผมได้เดินทางไปที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พอดีที่บ้านผมเนี้ยทำรีสอร์ทอยู่ที่จังหวัดตราด มันมีเหตุที่จะต้องกลับจังหวัดตราดกะทันหัน ผมเลยต้องออกจากอำเภอกันทรลักษณ์ในตอนบ่าย แล้วสมัยนั้นจีพีเอสมันยังไม่มีครับ แต่มันจะมีจีพีเอสรุ่นหนึ่งที่เรียกว่ากามิน เป็นตลับเล็ก ๆ แล้วจีพีเอสสมัยก่อนเนี่ย มันขึ้นชื่อลือชาเลยว่ามันชอบพาเข้าป่า สมัยก่อนถ้าจะเดินทางต้องชินกับแผ่นที่ที่เป็นกระดาษ แต่ผมชินกับการใช้เทคโนโลยี ผมก็ตั้งจีพีเอสไปที่จังหวัดตราดโดยเดินทางจากอำเภอกันทรลักษ์
เส้นทางที่ใกล้ที่สุดเนี่ยมันก็จะเลาะชายแดนประเทศเพื่อนบ้านมาเรื่อย ๆ มันก็ไม่เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรอกครับ แต่ว่าแถว ๆ อำเภอตาพระยา เมื่อสมัยสิบกว่าปีที่แล้วเนี่ยมันค่อนข้างเปลี่ยว มีข่าวมีอะไรที่น่ากลัวแถวอำเภอนี้ แต่เราก็มั่นใจในจีพีเอสเรา ซึ่งผมไม่รู้ทางเลย ยึดจีพีเอสเป็นหลัก
ผมก็ขับตามจีพีเอสไปเรื่อย ๆ ครับ พอมาถึงกลางทางปรากฏว่าตรงนั้นมันมืดแล้วเครื่องมันน็อค มันก็ขึ้นว่า กำลังคำนวณเส้นทางใหม่ แล้วมันก็จะให้เรายูเทิร์น ผมก็ยูเทิร์นตามเค้า ขับไปสักพักมันก็ขึ้นกำลังคำนวณเส้นทางใหม่ แล้วให้ยูเทิร์นอีก มันน็อคไปน็อคมาไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นผมไม่มีที่พึ่ง คือแผนที่ผมก็ไม่มี เส้นทางผมก็ไม่รู้ แล้วตอนนั้นมันเที่ยงคืนกว่า ๆ แล้ว จะไปถามใครก็ไม่ได้
ผมก็ขับตามไปเรื่อย ๆ แล้วตามตะเข็บชายแดนมันจะมีด่านทหาร แต่มันเป็นด่านเปล่าไม่มีทหาร บนถนนเหมือนมีเราคนเดียวแล้วเราต้องขับช้า ๆ เพราะด่านมันมีเครื่องกีดขวาง จนกระทั้งมาเจอด่านที่สาม เราก็ขับไปปกติ แต่ด้านนี้มีพี่ทหารวิ่งออกมาแล้วมาตบรถเรา ถามว่าไปไหน ๆ ๆ ผมก็บอกว่าไปบ้านครับ ที่จังหวัดตราด เขาก็บอกว่า ไปไม่ได้ ๆ ๆ ถ้าขับต่อไปเนี่ย เข้าเขมรแล้ว ผมก็มาดูจีพีเอสเพราะจีพีเอสมันนำทาง แต่พี่ทหารก็บอกว่าทางนี้มันไปเขมรจริง ๆ เขาไม่ให้เราไป คือจีพีเอสเนี่ย มันหาทางที่ใกล้ที่สุดให้เราโดยที่มันไม่สนใจประเทศ
ทีนี้พี่ทหารเขาก็บอกให้ผมยึดทางสายหลักสายหนึ่ง ผมจำไม่ได้ว่าตัวเลขอะไร เป็นเลขสามหลัก พอขับมาได้สักพักจีพีเอสก็บอกว่า เลี้ยวซ้าย ผมก็เลี้ยวซ้าย แต่พอเลี้ยวไปแล้วเนี่ย จากทางลาดยาง มันเป็นทางดิน เวลานั้นเป็นเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ เป็นแบบถนนเลนเดียว รถสวนกันไม่ได้ แต่ผมมองจีพีเอสแล้วว่ามันไม่ไกลครับ มันแค่ประมาณร้อยห้าสิบเมตร เพื่อจะไปทะลุอีกฝั่งหนึ่ง
ผมลืมบอกนะครับว่าผมเดินทางมากับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วเพื่อนผมเนี่ยมันปากไม่ค่อยดี มันชอบโวยวาย เป็นคนปากไว ผมก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ซ้ายขวาเป็นป่า เป็นต้นไม้ต้นหญ้าสูง ๆ ผมก็เคว้ง เพื่อนผมก็บ่นไปเรื่อย จนจีพีเอสบอกว่าจะออกอีกฝั่งหนึ่งแล้ว แต่เส้นทางที่เราเจอกลายเป็นว่ามันตัน มันไปต่อไม่ได้ คือมันเป็นป่าอยู่ข้างหน้าเราเลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องถอยหลัง ที่กลับรถก็ไม่มี ผมเลยให้เพื่อนลดกระจกลง แล้วชะโงกหน้าออกไปดูเพราะไฟท้ายมันมองไม่เห็นเพราะรถติดฟิล์ม เพื่อนผมก็ด่าก็บ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย
พอผมถอยไปเรื่อย ๆ เพื่อนผมก็ตะโกนขึ้นมาว่า ไอ้บอล หยุด ๆ ๆ ผมก็เบรกถามว่าให้หยุดทำไม เพื่อนผมก็บอกว่า กรูบอกให้หยุดแล้วไง ชนคนแล้วเนี่ย แล้วเขาวิ่งเข้าไปในป่า คือเพื่อนเห็นว่าผมไปชนคน แล้วคนนั้นเขาตกใจ เขาวิ่งเข้าไปในป่า แต่ผมเป็นคนขับรถนะพี่ ปกติคนขับเนี่ย แม้แต่เฉี่ยวอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ มันยังรู้สึกเลย นี่ชนคนจะไม่รู้สึกเลยมันเป็นไปไม่ได้ แต่เพื่อนผมก็ยืนยันว่าชนแล้ววิ่งเข้าป่าไปจริง ๆ เพื่อนผมก็เลยลงไปเดินดูตรงทางที่เขาวิ่งไปแต่ก็ไม่เจอ
ผมก็ถอยรถออกมาจนเจอทางหลัก คิดว่าคงไม่ไปแล้วทางลัด ก็ขับตามทางหลักไปเรื่อย ๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ จนถึงแถวที่เขาเรียกว่า ทุ่งขนาน เป็นทางที่ขนานกับชายแดนประเทศเขมร ระหว่างขับรถเพื่อนผมก็บ่นด่าอะไรไปเรื่อย ผมเลยเปิดเพลงเพื่อให้บรรยากาศมันผ่อนคลาย แต่พอขับไปได้สักพัก เพื่อนผมมันก็ค่อย ๆ เอียงเบาะนอน แล้วมือก็กำแน่น ซึ่งผมเนี่ยเป็นคนที่กลัวผีมาก ๆ พอเห็นอาการเพื่อนแบบนี้ผมก็กังวลแล้วครับ ว่าเพื่อนเป็นอะไร ปรากฏว่าพอขับต่อไปสักพัก เพื่อนผมนอนกำมือแล้วหันหน้ามาทางผม จ้องหน้าผมเขม็งเลย มันหลอนนะครับ ผมก็บอกว่าอย่าเล่นแบบนี้
แล้วตามทางหลวงมันจะมีไฟริมถนนเป็นไฟเหลือง ๆ เป็นระยะ ทีแรกผ่านไฟแต่ละดวงไปผมก็เห็นหน้าเพื่อนผมปกติ แต่พอช่วงสุดท้ายผมเห็นเลือดไหลออกจากปากเพื่อนผม เท่านั้นแหละผมสติแตกเลย แต่โชคดีที่ผมเจอวัดอยู่วัดหนึ่ง ทุกวันนี้วัดนั้นก็ยังอยู่ พอเจอวัดผมเลี้ยวรถเข้าวัดเลยครับ พอเข้าไปถึงวัด หน้ากุฏิพระที่เป็นสองชั้น ผมบีบแตรลั่นวัดเลย ผมบีบแตรไปร้องไห้น้ำตาไหลไป ผมไม่กล้าวิ่งลงไปจากรถด้วยเพราะผมกลัว ผมรู้สึกว่าผมอยู่บนรถปลอดภัยกว่า
สักพักมีหลวงพ่อรูปหนึ่งเดินลงมา ท่านมาเอ็ดผมใหญ่ว่าผมรบกวนพระ พอผมเห็นพระผมวิ่งลงจากรถเลยครับ วิ่งไปกอดขา บอกว่าหลวงพ่อช่วยด้วย ๆ ๆ ผมพูดไม่ได้ศัพท์เลยครับ พระบอก ใจเย็น ๆ แล้วผมก็พาพระไปหาเพื่อนผมที่รถ พระท่านก็ส่องไฟฉายไปที่หน้าเพื่อนผม ซึ่งเพื่อนผมนอนตัวแข็ง ลืมตา แล้วเลือดไหลออกจากมุมปากเรื่อย ๆ แล้วบอกว่า เพื่อนโยมน่ะ ไม่ได้ถูกผีสิงหรือผีเข้า แต่ว่าขวัญกระเจิง เดี๋ยวพาไปพักที่กุฏิอาตมา แล้วพรุ่งนี้อาตมาจะช่วย
ผมกับเพื่อนนอนอยู่หน้าลานบนกุฏิ จนเช้าหลวงพ่อท่านก็ออกไปบิณฑบาต แล้วท่านก็เอาข้าวก้นบาตรมาให้เพื่อนผมอม สักพักเพื่อนผมก็ได้สติ เหมือนคนป่วยแล้วได้ยา ตาเริ่มมีโฟกัส แล้วพอมันเห็นผมมันก็มากอดผมแล้วร้องไห้ ผมก็ถามว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า บอลจำได้มั้ย ตอนที่บอลถอยรถไปชนคนน่ะ ชนจริง ๆ นะ แล้วคน ๆ นั้นก็วิ่งเข้าป่าไปจริง ๆ ผมก็บอก โอเค ๆ ผมเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ในใจผมตอนนั้นไม่เชื่อหรอกครับ แต่ผมก็พูดไปแบบนั้นเหมือนปลอบประโลมเขา
เพื่อนผมก็ถามอีกว่า แล้วจำได้มั้ย ตอนที่ขับรถมาถึงทุ่งขนาน มันจะมีโค้งซ้ายขวา ซึ่งเพื่อนผมเห็นผู้หญิงคนนั้นที่วิ่งเข้าป่า ยืนอยู่ตรงหัวโค้งทุกโค้งที่เราเลี้ยวเลยครับ มันถึงเอียงเบาะลงมานอน แล้วมันก็เห็นผู้หญิงคนนั้น ยืนอยู่ข้างกระจกฝั่งขวาตลอดเวลา จ้องหน้ามันเขม็ง ซึ่งเป็นฝั่งของผม มันถึงหันมามองผมครับ แต่ผมไม่เห็นนะ มันบอกว่ามันอยากจะบอกผม แต่รู้ว่าถ้าบอกไปผมสติแตกแน่ มันเลยมองผมตาแข็ง ๆ แล้วสุดท้ายเลือดที่ผมเห็นคือเลือดที่เพื่อนผมกลัวจนกัดปากตัวเอง
แล้วตอนที่นอนอยู่หน้ากุฏิพระ ที่เพื่อนผมมันไม่ยอมหันไปมองรถ เพราะพอมันหันไปมองที่รถเนี่ย มันจะเห็นผู้หญิงคนนี้ ยืนอยู่บนฝากระโปรงรถแล้วชี้หน้ามัน พระท่านก็บอกว่า ผู้หญิงคนนี้เขามีเวรมีกรรมกับโยมอยู่ อาตมาเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พิจารณาเห็นแล้วว่ามีเวรมีกรรมต่อกัน ตอนแรกผมก็คิดว่าหรือจะเป็นเพราะมันชอบบ่นด่าใช้คำหยาบคายไปตลอดทาง แต่จริง ๆ แล้วมันมีพาร์ทสองครับ ว่าทำไมเพื่อนผมถึงเจออะไรแบบนั้น แต่ผมขออนุญาตกลับไปเรียบเรียงก่อนครับ เพราะผมเพิ่งทราบปมตรงนี้เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เดี๋ยวผมจะไปสรุปมาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้เล่าได้สมูทขึ้นด้วยครับ.
Post a Comment