บทสรุปสิ่งที่ผมเจอ โดย คุณบอล จาก The Ghost Radio


     ผีสยองหนองกระจายขอส่งต่อความสยอง จากทางกระทู้พันทิปถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio เรื่องราวรวมจักรวาลผีของคุณบอล แห่ง The Ghost Radio ถ่ายทอดเอาไว้เนื้อหาจะมีความเชื่อมโยงจนจบทั้ง8เรื่อง และต่อจากเรื่องแรก "สิ่งที่ผมเจอ" กลับมาครั้งนี้เค้าจะมาเล่าถึง "บทสรุปสิ่งที่ผมเจอ"ขอเสนอเป็นเรื่องที่2กันเลยครับ

     หลังจากเมื่อวานที่ผมได้เล่าไว้ พอเพื่อนผมได้สติก็เป็นเวลาสาย ๆ แล้วครับ ผมกับเพื่อนก็กราบลาหลวงพ่อเพื่อกลับไปที่จังหวัดตราด เพราะเรามีเรื่องที่ต้องไปทำที่จังหวัดตราด ระหว่างทางเราก็พักเติมน้ำมัน ผมก็เข้าปั้มเติมน้ำมันตามปกติ เติมน้ำมันเสร็จผมก็ไปเข้าห้องน้ำ ผมเข้าเสร็จก่อนก็ออกมารอในรถ พอเพื่อนผมออกมาจากห้องน้ำก็ไม่ขึ้นรถ นานมาก ไม่ยอมขึ้นรถ ผมก็ลงไปตามนึกว่าเขาเบลอจากเรื่องเมื่อคืน เพื่อนก็บอกไม่เป็นอะไร ก็ขึ้นรถกันมา

     กลับมาถึงจังหวัดตราดประมาณบ่าย ๆ มันมีเหตุฉุกเฉินกับรีสอร์ทของที่บ้านที่ผมต้องไปดำเนินการ อันนี้ผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะครับ โดยรีสอร์ทของที่บ้านผมเนี่ยจะเป็นรีสอร์ทในตัวเมือง จะเป็นตึกนอน ตรงปากทางจะมีตึกสองชั้นซึ่งเป็นที่พักของผมกับครอบครัว จนกระทั้งเราเสร็จธุระจากสถานีตำรวจ กลับมาบ้านพักที่จังหวัดตราดประมาณค่ำ ๆ พอมาถึงผมก็จอดรถแล้วเอาของขึ้นไปเก็บที่ชั้นสองกับเพื่อนครับ 

     ระหว่างที่ขึ้นไปเก็บของผมก็ได้ยินเสียงดังจากในห้องครัว ผมก็คิดว่าแม่กลับมาจากกันทรลักษ์แล้ว เพราะว่าแม่จะตามมาอีกวันหนึ่ง ผมเลยเดินลงมาดู จังหวะที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้องครัว ประตูหน้าบ้านก็เปิดออกพอดี แม่ก็เดินเข้ามาเห็นว่าผมกำลังจะเปิดประตูห้องครัว ก็ถามว่า หิวเหรอลูก พอผมหันไปมองแม่แล้วหันกลับไปมองห้องครัว ห้องครัวไม่มีคน แล้วระหว่างที่ผมกำลังงงอยู่ เพื่อนคนเมื่อวานเค้าก็วิ่งลงมา ตะโกนถามว่า ใครเป็นอะไร ใครเป็นอะไร ผมก็บอกว่าไม่มีใครเป็นอะไรเลย ผมก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมก็เปลี่ยนบทสนทนาเพื่อให้ตัวเองลืมเพราะผมเป็นคนขี้กลัว บอกว่า โอเค งั้นเดี๋ยวพวกเราไปทานข้าวข้างนอกกัน 

     หลังกลับมาจากทานข้าว คืนนั้นเราก็นอนกันที่บ้านพักที่รีสอร์ท ห้องผมจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ปกติผมจะนอนกับน้องชาย แต่วันนี้น้องไม่อยู่ เพื่อนผมก็นอนกับผม เพื่อนอยู่เตียงซ้าย ผมอยู่เตียงขวา ระหว่างที่จะนอนผมก็จัดการตารางงานของตัวเองว่าวันต่อไปผมต้องทำอะไรบ้าง อยู่ดี ๆ เพื่อนผมก็ลุกจากเตียงแล้วมาชะโงกหน้ามองผม แล้วก็เดินไปที่หน้าต่าง แล้วมันก็สะดุ้ง แล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ผมพยายามไม่สนใจ โฟกัสที่ตารางงาน อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าเราอยู่ในบ้านของเรา มีพ่อ มีแม่ มีพระ ไม่เหมือนเมื่อคืน

     เพื่อนผมนอนไปได้สักพัก มันก็ลุกขึ้นมาชะโงกหน้ามองผมอีก แล้วก็เดินไปที่หน้าต่างอีก เป็นแบบนี้สามสี่รอบจนผมไม่เอาแล้ว ไม่ทำงานแล้ว ผมก็ปิดไฟแล้วนอนสวดมนต์ไปเรื่อย ๆ จนหลับไป พออีกวันผมก็กลับมาคอนโดที่กรุงเทพกับเพื่อนคนนี้ครับ ผมอยู่ที่ชั้น 5 ซื้อไว้สองห้องคือ 501 กับ 502 เจาะทะลุกัน เพื่อเอาไว้เป็นห้องรับแขกกับห้องนอนผม พอถึงคอนโดก็กดชั้น 5 แต่ลิฟต์เปิดที่ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 เปิดทุกชั้นเลยครับ พอถึงชั้น 5 ผมก็เดินออกมา พอจะเข้าห้อง ผมก็หันไปเห็นเพื่อนผมยืนอยู่หน้าลิฟต์ ไม่ยอมเข้าห้อง อาการเหมือนเดิม ยืนกำมือ แต่คราวนี้ตาไม่เขม็งนะครับ แต่กัดฟัน แล้ววิ่งมาจับมือผมดึงเข้าลิฟต์แล้วกดชั้น 1 แล้วบอกว่า ไปที่ไหนก็ได้

     ผมบอกว่างั้นเดี๋ยวพรุ่งเราไปทำบุญกัน เพื่อนผมบอกวาไม่ต้องรอพรุ่งนี้ คืนนี้เลย ผมก็นึกถึงวัดวัดหนึ่งที่สามารถทำบุญตอนกลางคืนได้ ก็ไปทำบุญกัน พอกลับมาถึง ตอนจอดรถเพื่อนผมชะโงกหน้าขึ้นไปมอง มันก็กลับเข้าไปในรถแล้วบอกว่าไม่นอน แต่ให้ผมไปนอนบ้านเขาที่ดาวคะนอง ผมก็ไปนอนที่บ้านเขา โดยที่ระหว่างผมกับเพื่อน ความสัมพันธ์คือต่างฝ่ายต่างมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ก็สนิทกันมาก จนหลัง ๆ แฟนเขาเริ่มไม่สบายใจที่จะให้เพื่อนผมมาสนิทกับผม พอดีกับที่ผมมีโปรแกรมจะไปทำงานที่เยอรมัน ก็เลยห่าง ๆ กันไป

     จนกระทั้งเมื่อสามปีที่แล้วเราได้เจอกันในเฟสบุ๊ค พอปีก่อนที่ผมกลับมาอยู่ไทยก็นัดเจอกัน โดยเพื่อนผมเค้าอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีอยู่แล้ว เพื่อนมีโรงแรมที่จันทบุรีแล้วก็มีรีสอร์ทอยู่ที่ตราด ใกล้ ๆ รีสอร์ทผม ก็คุยกันเรื่องเมื่อก่อนว่าไม่น่าปากเสียเลยนะ เราถึงต้องไปเจออะไรแบบนั้น เพื่อนผมก็บอกว่า คิดว่ากรูปากเสียเหรอสิ่งที่กูเจออ่ะ ไม่ใช่เลย เดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟัง

     หลังจากที่ผมไปทำงานต่างประเทศ หลังจากนั้นเขาก็คบ ๆ เลิก ๆ กับผู้หญิงมาตลอด เพราะผู้หญิงทนไม่ได้กับเรื่องแปลก ๆ แบบที่ผมเคยเจอ แต่ตลอดเวลาที่ผมอยู่ต่างประเทศ ผมไม่เจออะไรเลยนะครับ แต่เพื่อนผมเจอมาตลอด เพื่อนผมไปดูดวงหลายที่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ จนเพื่อนผมนึกขึ้นได้ว่า เขาดีขึ้นเพราะหลวงพ่อที่วัดแถวทุ่งขนาน เขาเลยกลับไปหาหลวงพ่อ

     พอเจอหลวงพ่อท่านก็เทศนาสั่งสอนให้ฟัง จนมาถึงเรื่องสุดท้าย หลวงพ่อพูดว่า แรงกรรม แรงอาฆาต มันหนักนะ ทำอะไรทีหลังต้องคิดดี ๆ พอได้ยินคำนี้ เพื่อนผมนึกถึงสมัยที่เขาอายุ 17 – 18 สมัยเป็นวัยรุ่นกำลังห่าม เขาคบกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผู้หญิงขี้ระแวง เขาก็ชอบสัญญาสาบานอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ที่สำคัญเลยคือ เขาไปที่ศาลหลักเมืองที่หนึ่งที่อยู่ใกล้กรุงเทพ แล้วศักดิ์สิทธิ์มากๆ แล้วผู้หญิงคนนี้จุดธูปสาบานว่าจะรักกับเขาคนเดียวใจเดียวตลอดไป จะดูแลกันตลอดชีวิต

     หลังจากนั้นไม่นานก็เลิกกัน พอเลิกกันผู้หญิงรับไม่ได้ ก็เลยกินยาฆ่าตัวตายที่จังหวัดจันทบุรี แต่ผู้หญิงไม่ตาย ไปล้างท้องทัน พ่อแม่กับพี่เขาที่จังหวัดสระแก้วเลยขับรถมารับผู้หญิงกลับบ้าน แล้วก็โกรธเพื่อนผมมากว่าเป็นสาเหตุให้ลูกเขาทำแบบนี้ ทีนี้ตอนขับรถกลับ พี่ชายของผู้หญิงเป็นคนขับ พ่อเขาสุขภาพไม่ดีก็นั่งข้างคนขับ รถไม่มีแคป แม่กับผู้หญิงนั่งอยู่ท้ายรถ ระหว่างทางจากจันทบุรีไปสระแก้วก็กลับทางเดิมกับที่ผมไปตราด คือผ่านทุ่งขนาน แล้วรถไปประสานงาชนกับรถอีกคันหนึ่ง แล้วผู้หญิงกระเด็นไปอีกฝั่ง แม่เขากระเด็นไปอีกฝั่ง ผู้หญิงที่เป็นแฟนเพื่อนผมรอด แต่แม่ของเขากระเด็นเข้าป่าครับ เสียชีวิต

     จุดพบศพแม่ที่เสียชีวิต คือจุดเดียวกับที่เพื่อนผมเห็นว่าผมถอยรถชนผู้หญิงครับ นี่คือจุดเริ่มต้นเลย ตอนนั้นเพื่อนผมนึกว่าผมถอยรถชนผู้หญิงเขมร สรุปว่าไม่ใช่ผู้หญิงเขมรครับ แต่คือแม่ของแฟนเก่าเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อนผมก็เห็นคุณแม่คนนี้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่กระจกที่เขาทำหน้าโกรธ ยืนชี้หน้าบนกระโปรงรถ ในปั้มน้ำมันวันนั้น เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ข้างหลังคนขับแล้วเอียงตัวออกมาชี้หน้าเขา เขาเลยไม่กล้าขึ้นรถ

     ตอนอยู่ที่บ้านผมที่ผมได้ยินเสียงดังในครัว แล้วผมเดินลงมาดู เขาได้ยินเสียงกรี๊ด ๆ ๆ อยู่ข้างล่าง เขาเลยนึกว่าแม่ผมล้ม เขาถึงได้วิ่งลงมาถามว่าใครเป็นอะไร สุดท้ายคือตอนที่นอนอยู่ที่บ้านผม เขาบอกว่าระหว่างที่ผมจัดการตารางงานหางตาเขาเห็นว่าผมเนี่ย เหมือนคนผมยาว แต่ที่จริงผมเป็นคนผมสั้นนะครับ เขาเลยชะโงกหน้ามาดูว่าใช่ผมมั้ย พอเห็นว่าเป็นผมก็ถอนหายใจแล้วเดินไปที่หน้าต่างเพื่อคลายเครียด แล้วที่เขาสะดุ้ง ก็เพราะเขาเห็นผู้หญิงคนนั้น ยืนชี้หน้าเขาอยู่ที่กระโปรงรถครับ

     ผมถามเขาว่าทุกวันนี้ยังเจออยู่มั้ย เพื่อนผมบอกว่าไม่มีประมาณปีสองปีแล้ว เพราะตอนเขากลับไปที่วัด หลวงพ่อท่านบอกว่า เวรกรรมนี้ไม่ได้เป็นกรรมตรงกับโยม ไม่ได้เกิดจากแรงอาฆาตของโยม แต่เกิดจากแรงอาฆาตของฝั่งนั้น โยมไปห้ามเขาไม่ได้ ให้โยมนึกถึงว่าเกลือหนึ่งกำมือ ใส่ลงไปในแก้วน้ำหนึ่งแก้ว เหมือนเราแผ่เมตตาน้อย ความเค็มมันก็ยังอยู่ แต่ว่าเกลือหนึ่งกำมือใส่ลงไปในตุ่ม ถามว่าเกลือมันหายมั้ย เกลือมันไม่หายไปไหน แต่ความเค็มมันไม่ส่งผล

     ท่านให้เพื่อนผม แผ่เมตตาไปเรื่อย ๆ ให้เหมือนเป็นน้ำบริสุทธิ์หนึ่งตุ่มที่คอยเจือจางความเค็มของเกลือ แบบนั้นครับ แล้วที่ผมต้องไปเจอด้วย ก็เพราะระหว่างที่เขาคบกัน ผมก็ไปสร้างกรรมร่วมกับเขาครับ เลยทำให้ผมต้องไปเจอ ต้องคอยกลัวคอยอะไรไปด้วยครับ แต่ทุกวันนี้แฟนเก่าของเพื่อนผมก็ใช้ชีวิตปกตินะครับ ส่วนเพื่อนผมที่เป็นตัวเดินเรื่อง ถ้าพี่แจ๊คเคยได้ยินเรื่องของดีเจชื่อดังคนหนึ่งที่เคยไปเจอผีที่เชียงใหม่ แฟนของดีเจคนนั้นที่เจอผี คือเพื่อนผมคนนี้แหละครับ

     แล้วถ้าจำได้ ที่ผมเคยเล่าว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่รีสอร์ทของผม เดี๋ยวผมจะมาขยายเรื่องตรงนั้น เพราะมันมีเหตุทำร้ายกันแล้วเพื่อนผมคนนี้ก็อยู่ด้วย ซึ่งเรื่องจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเพื่อนผมไม่อยู่ตรงนั้น.. //จบเรื่องที่ 2

ไม่มีความคิดเห็น