ผีถ้วยแก้ว กับ อาม่า
อีกหนึ่งประสบการณ์จริงจากสมาชิกพันทิป ของเล่นสีชมพู ที่เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญที่ไม่เคยลืมในการเล่นผีถ้วยแก้ว แล้วอาม่านั้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไรไปติดตามกันเลย ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิป ของเล่นสีชมพู สำหรับประสบการณ์หลอนๆ
สวัสดีค่ะ ทุกคน ห่างหายไปนานเลย ไม่ค่อยได้เข้ามาเล่าให้ฟังเพราะยุ่งๆอยู่กับงานที่ทำ วันนี้เราจะมาเล่าเรื่อง ประสบการณ์การเล่น ผีถ้วยแก้ว ที่บ้านอาม่าของเพื่อนเราให้ฟังกันค่ะ
เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้น สดๆร้อนๆ เริ่มเลยนะคะ
วันที่ 1 เมษา เป็นวันเกิดของเพื่อนเราชื่อ แจง เป็นเพื่อนที่ทำงานใหม่ของเราค่ะ เราจะสนิทกัน เพราะด้วยความที่เป็นเด็กใหม่ทั้งคู่ ไปไหนก็จะไปกัน แจงมีเพื่อนสนิทคนนึงคือ ใหม่ ส่วนเราก็จะมี ซัน ถ้าใครได้ติดตามเราจะจำได้ว่าซันคือใคร ต่างคนต่างมีเพื่อนของตัวเอง เราเลยรวมตัวกันเป็นแกงค์ ที่ไปไหนไปกัน เฮฮา ตามประสาเรา วันเกิดแจง เราตกลงกันว่า จะไปกินเลี้ยงกันที่ร้านร้านนึง เราก็ไปกันค่ะ ด้วยความที่วันนั้นเป็นวัน เอฟริล ฟูลเดย์ พวกเราก็โกหกกันแบบสนุกสนาน เวลาใครพูดอะไรนี่ต้องคิดก่อนว่าจริงมั้ย
ประมาณเกือบตี 1 อยู่ดีๆแจงก็พูดขึ้นว่า วันเกิดกูปีที่แล้ว อาม่ากูเสีย แล้วแจงก็นั่งก้มหน้าเหมือนจะร้องไห้ เราก็เข้าใจว่าแจงคงจะเมา เพราะดูจากขวดเบียร์ที่นางกินเข้าไป “เป็นไรตายอ่ะ” ซันถามขึ้น เราหันไปหาซัน แล้วกระซิบมันว่า “จะไปถามมันทำไม” แจงพูดต่อว่า “ อาม่ากูก็นั่งกินข้าวปกตินี่แหละ อยู่ดีๆก็หายใจไม่ออก แล้วก็ล้มลง ชักอยู่ใต้โต๊ะ ป๊ากูเข้าไปเจอ ก็เลยรีบพาส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันหมอบอกสำลักข้าว” ใหม่ได้ยิน นางพูดขึ้นว่า “เออ ตายแปลกๆว่ะ “ ซันพูดต่อ “เออกูก็ว่างั้น” เราได้ยินสองคนนั้นพูด เราคิดว่าพวกมันเมาคงไม่มีสติอะไร โชคดีที่เราเป็นคนไม่กินเหล้า เบียร์ อะไรแบบนี้อยู่แล้ว เลยเป้นคนเยวที่น่าจะมีสติที่สุดตอนนี้ เราจึงพูดออกไปว่า “พวก เมาแล้วแหละ กลับกันเถอะ อีซัน ใหม่ จะพูดอะไร ตั้งสติก่อนนะ “
เราสี่คน กำลังจะแยกย้ายกันกลับ อยู่ดีๆแจงก็พูดขึ้นว่า “พวก ไปอยู่เป็นเพื่อนกูที่บ้านหน่อยดิ ไม่มีใครอยู่เลย” เราได้ยินเลยถามไปว่า “อ้าว แล้วคนอื่นๆอ่ะ” แจงทำหน้าเซ็งแล้วพูดว่า “เค้าไปเที่ยวกัน ขนาดวันเกิดกูยังไม่สนใจ เอาเงินวางไว้บนโต๊ะกู แค่นั้น บลาๆๆๆๆๆ” นางบ่นต่อไป เราตกลงกันไปบ้านแจง แล้วสิ่งที่เรากลัวมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
เราขึ้นแท็กซี่ไปบ้านแจง จากร้านก็ไม่ไกลกันมาก ไม่นานแท็กซี่ก็ไปจอดเทียบบ้านหลังนึง อยู่ในซอยค่อนข้างลึก หน้าบ้านมีไฟดวงเดียวเปิดอยู่ ด้วยความที่เรามีสติสุด เราลงจากรถก่อน แล้วค่อยๆลากคนที่เหลือลงมาทีละคน ระหว่างที่เรากำลังพยุงซัน ตาเราเหลือบขึ้นไปมองบนบ้าน เราเห็นคนแก่ยืนอยู่ แต่แค่แว็บเดียวจริงๆ ก็หายไป เราคิดในใจ เอาอีกแล้ววว ระหว่างที่เราคิดอยู่คนเดียว ได้ยินเสียงใหม่ที่เดินเคียงคู่ไปกับแจง พูดขึ้นว่า “ ไหนบอกไม่มีคนอยู่ไง แล้วใครยืนอยู่ข้างบน” เรารู้สึกสบายใจขึ้นมา สงสัยมีคนอยู่จริงๆ เพราะใหม่ก็เห็น แต่ยังไม่ทันไร แจงก็พูดว่า “ใหม่ อย่ามามั่ว มันเลยเอฟริว ฟูลเดย์ มาแล้วนี่มันตี 2 ล้ว” 55555 ใหม่หัวเราะเสียงดัง “อ้าว นี่มันโกหกเหรอ แล้วที่เราเห็นล่ะ” คือตอนนั้นอยากร้องไห้มากเลยค่ะ จะชวนซันกลับบ้าน มันก็เมาแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แจงเปิดประตูบ้าน เราเข้าบ้านไปแบบไม่สบายใจ แจงพูดขึ้นว่า “ อ้าวพวก สวัสดีอาม่ากูด้วย” แล้วแจงก็ชี้ขึ้นไปที่รูปรูปนึง เราเงยหน้าขึ้นไปดู “อาม่า คนที่เราเห็นเมื่อกี้คืออาม่า” เรายกมือไหว้ แล้วพูดว่า อาม่าขา หนูไม่ได้ตั้งใจมารบกวนอาม่าอย่ามาให้หนูเห็นเลยนะคะ นี่คงเป็นวันแรกที่เราอยากเมาเหมือนพวกมัน ซัน ใหม่ แจง ก็ไหว้แล้วก็พูดอะไรของมันไปเรื่อย แจงพูดขึ้นว่า “หนูคิดถึงอาม่านะ ไม่มีใครสนใจหนูเลย ใหม่พูดต่อว่า “คิดถึงก็ต้องคุยกะอาม่าสิ” แจงหันไปถามใหม่ “คุยยังไงวะ” ใหม่บอกว่า “เล่นผีถ้วยแก้วไง แล้วคุยกับอาม่า ถามได้ทุกอย่างเลยนะ” อย่าๆๆ พวกเมาแล้วไปนอนอย่าเลอะเทอะ กูง่วงแล้ว อีแจง ให้พวกกุนอนตรงไหน เรารีบพูดขึ้น แจงพาพวกเราขึ้นไปที่ห้อง เราจัดแจงที่นอนอย่างดี แล้วเราก็นอนลข้างๆซัน เพราะง่วงมากแล้วตอนนั้น
ตอนเช้า เรารู้สึกตัวเพราะเหมือนมีคนทำอะไรเสียงดัง กุกกักๆ เราลืมตามอง เห็น แจง ใหม่ ซํน นั่งอยู่บนเตียงนอนของแจง (เรานอนข้างล่าง) เราถาม “พวกทำไรกันอ่ะ สร่างเมาแล้วไง” แล้วปิดหน้าต่างปิดไฟทำไมวะ มันมืด “โอ้ย อีทีนี่มันะเย็นอยู่ละ ไหนบอกไม่เมา หลับหรือตายคะ” ซันพูด “ห๊า นี่เรานอนหลับขนาดนี้เลยเหรอ เราคิดในใจ” มาๆที มาช่วยเล่นผีถ้วยแก้วหน่อย มันต้องเล่นสี่คน กูมีแค่สาม ใหม่พูดกับเรา เราหันไปมองพวกมันแล้วพูดขึ้นว่า “ พวกก้มีกันครบแล้วไง ก็ 1 2 3 เฮ้ย!!!!” เราร้องเพราะตกใจ เพราะข้างๆแจง มีรูปอาม่ารูปใหญ่พิงอยู่ จนเหมือนมีอีกคนนั่งอยู่ในวง “จะทำอะไรกันเนี่ย ซันไม่เข็ดเหรอ กะกูเคยเจออะไรมาแล้วจำได้มั้ย” เราถามซัน “เอ้ากูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจริงมั้ย ก็อยากลอง ช่วยอีแจงมันด้วย มันจะถามอาม่าว่า สร้อยทอง 3 บาทของอาม่าอยู่ไหน “ เราพูดต่อ “พวกจะเล่นก็เล่นไป กูไม่เอาอ่ะ” เราหันหลังให้แล้วนอนต่อ (555 ทำไมไม่ตื่นไม่เข้าตัวเองเหมือนกันตอนนั้น ทั้งๆที่เย็นมากแล้ว) แจงลงมาหาเราจับแขนเราแล้วพูดกับเราว่า “ที ช่วยหน่อย แค่จับแก้วเฉยๆ เราเตรียมของกันมาหมดแล้ว เราอยากคุยกับอาม่าจริงๆนะ ช่วยหน่อย อีกอย่างเวลาแกเห็นอะไรไม่ดีจะได้บอกพวกเรา” เออๆ ใช่ๆ ลุกๆกูพาไปล้างหน้า” ซันพูด “ เฮ้อ!!!” เราถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ สุดท้ายก็ต้องเล่นกับพวกมันจนได้
อาบน้ำเสร็จ เรามานั่งในวงกับพวกมัน ตรงหน้าเรามี กระดาษแผ่นใหญ่ที่เขียน ก-ฮ แล้วก็สระ มีทางเข้า ออก มีกระถางธูป มีธูป 1 ดอก มีแก้วเล็ก 1 ใบ มีกระดาษที่เขียนบทสวดไว้ เราสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วได้แต่ถอนถอนหายใจ
ใหม่เป็นคนเริ่มพิธี เราเริ่มด้วยการจุดธูป 1 ดอก เพื่อเชิญวิญญาณ เอาแก้วมาครอบควันธูปแล้วคว่ำลงบนกระดาษ แล้วเริ่มท่อง นะ โม พุธ ธา ยะ ท่องคนละคำ จนครบ 3 รอบ ตอนแรกเราก็คิดว่าใหม่รู้ขั้นตอนทุกอย่าง แต่เปล่าเลย นางเปิดกูเกิ้ลอยู่ข้างๆ เราคิดในใจ เอาแล้วไง วิธีเล่นยังไม่รู้แล้วมาชวนแบบนี้จะดีมั้ยเนี่ย
เราทั้งสี่คนจ้องไปที่แก้ว แก้วยังไม่ขยับ ใหม่พูดขึ้นว่า “ แจงเมื่อกี้เชิญใครเข้ามาวะ อาม่าไม่อยู่บ้านรึเปล่าเนี่ย” (ตอนเชิญแจงเป็นคนเชิญ) แจงตอบทันทีว่า “ กูก็เชิญอาม่านะ แล้วก็...” เรารีบหันไปหาแจงแล้วถามว่า “ใคร เชิญใครอีก” แจงบอกว่า “ก็สัมภเวสีทั่วไปอ่ะ” ห๊า!! ซันร้องขึ้นมาทันที ไม่เอาไม่เล่นแล้ว กลัว” ซันพูดจบ เราเริ่มรู้สึกว่าแก้วเริ่มขยับ ตอนนั้นเรากลัวมาก ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหงื่อไหล ทุกคนดูท่าทางกลัวหมด แก้วหมุนค่ะ หมุนไปรอบๆไม่หยุดเลย สักพักแก้วหยุดอยู่ที่ทางออก
เรามองหน้ากัน ซันพูดขึ้นว่า “ ขอเชิญท่านออก” ใหม่พูดต่อ “ยังไม่ได้ถามอะไรเลย ให้ออกแล้วเหรอ” ซันหันไปหาใหม่แล้วพูดว่า “ จะถามอะไรอีก กูไม่เอาแล้ว” ระหว่างที่สองคนเถียงกันอยู่ เรามองไปที่แก้ว แก้วค่อยๆเลื่อนมาตรงคำว่า “ไม่” เราบอกทั้งสองคนว่า “หยุดถียงกัน ตั้งสติ แล้วรีบๆถามเพราะเขาไม่ออก” ตอนนั้นเราอยากเอามือออกมากแต่ก็ทำไม่ได้ เราตั้งสติแล้วถามว่า “ถ้าใช่อาม่า ให้ไปที่คำว่า ใช่ ถ้าไม่ใช่ ให้อยู่ที่เดิม” พักนึงแก้วขยับไปที่คำว่า ใช่ พวกเราถอนหายใจ เพราะอย่างน้อยก็เป็นอาม่าของแจงคงไม่ทำอะไรเรา ใหม่ให้แจงถาม แจงถามต่อว่า “อาม่ายังอยู่ที่บ้านอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ให้อยู่ที่เดิม ถ้าไม่ใช่ให้ไปที่คำว่า ไม่ “ แก้วขยับไปที่คำว่า ไม่ ทีนี้เราเริ่มงงแล้ว เรารู้สึกทันทีว่ามันแปลกๆ แต่ไม่มีใครทักอะไร แจงถามต่อว่า “ก่อนเสียอาม่ามีสร้อยทองเส้นนึง อาม่าเก็บไว้ ใช่หรือไม่” แก้วไม่ขยับ เหมือนตอบว่า ไม่ เรานั่งเงียบ ระหว่างที่กำลังปรึกษาหาคำถามอยู่ เรามองไปที่แก้ว เราเห็นนิ้วมีทั้งหมด 5 นิ้ว เรารีบหันหน้าหนี เพราะเรารู้ว่าถ้าจ้องไปอีกต้องเจอแน่ๆ
เรารีบบอกให้พวกมันถามแล้วเชิญออก แจงถามต่อว่า “ตอนที่เผากงเต็กไปให้ อาม่าได้รับมั้ย อยู่สบายดีมั้ย” แก้ววนอยู่ที่คำว่าไม่ ซันรีบพูด “ขอเชิญท่านออก” แก้วยังวนอยู่ที่คำว่าไม่ ทีนี้เริ่มหมุนเร็วกว่าเดิม หน้าต่างที่ปิดอยู่ เปิดแล้วตีกลับมาดีง ปัง!!! แจงกรี๊ด หน้าต่างเปิดได้ยังไงทั้งๆที่ ล็อคกันหมดแล้ว มือเรายังอยู่บนแก้วที่หมุนอยู่ ประตูห้องแจงค่อยๆเปิด พวกเราหันไป ใจเราแทบจะหลุดออกจากอก “พี่ส้ม!! แจงตะโกนขึ้น โถ่ ใจหายหมด มานี่ๆ“แจงพูดเสร็จหันหน้ามาหาพวกเรา นี่พี่ส้ม แม่บ้านกูเอง พวกเราถอนหายใจกันเฮือกใหญ่ แจงให้พี่ส้มมานั่งข้างๆ พี่ส้มไม่ได้พูดอะไร เพราะแกเป็นคนพม่า แกมานั่งตรงกลางระหว่างแจงกับใหม่
แก้วหยุดแต่พอพวกเราหันไปมองที่แก้ว แก้วมันไปหยุดตรงที่อักษร ป. ซันถามว่า “แจง อาม่าชื่ออะไร” เมี่ยง แจงตอบ ซันถามต่อ แล้ว ป. คือ ระหว่างที่ทุกคนนั่งงอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราหันไปมองหน้าใหม่ สิ่งที่ทำให้เราช็อคคือ อาม่านั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ข้างหลังใหม่ ก้มหน้า ตัวนี่ซีดมากกกเราจำได้ว่าอาม่าแน่ๆ เพราะลักษณะเหมือนในรูป เราหันหน้าหนี เริ่มงงกับตัวเองว่า ใช่อาม่าจริงมั้ย แล้วถ้าอาม่าอยู่ตรงนั้น แล้วแก้วที่บอกว่าเป็นอาม่าที่นิ้วเราแตะอยู่นี่คือใคร เราตัดสินใจมองดูอีกรอบ ช็อคเลยค่ะ อาม่ามองหน้าเราแล้วพยักหน้าหนึ่งทีแล้วหายไป เหมือนจะบอกเราว่าสิ่งที่เราคิดหน่ะใช่แล้ว ไม่ใช่อาม่าแจงแน่ๆที่อยู่ในแก้ว ซัน ใหม่ แจง นั่งคุยอะไรกันเราไม่ได้ยิน แต่รู้ว่าแก้วขยับ แต่พวกมันถามอะไรไปบ้างเราไม่รู้ เห็นแจงร้องไห้ พูดแค่ว่าอยากให้ออกแล้ว ไม่อยากเล่นแล้ว เราตัดสินใจถามไปว่า “คุณไม่ใช่อาม่าแจงใช่มั้ย” ทุกคนตกใจกับคำถามเรา มือเราเย็นเฉียบ ใจสั่นกลัวคำตอบที่จะได้เห็น และใช่จริงๆ แก้วไปหยุดที่คำว่าใช่!!! กรี๊ด!!!เสียงใหม่กรี๊ดขึ้นแล้วเอามือออกพวกเราร้อง ห้ามแต่ไม่ทัน แค่นั้นแหละ ซันจับมือเราวิ่งลงบันไดจนเกือบจะตกบันไดตายแล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน ใหม่และแจงตามมา พวกเรายืนอยู่หน้าบ้าน ต่างคนต่างหอบกับหารวิ่งมาอย่างรวดเร็ว พวกเราทำแบบนี้ไม่ถูกนะ เคยได้ยินมาว่าถ้าเค้ายังไม่ออกเค้าจะตามเรานะเว้ย เราพูดกับพวกมัน ระหว่างที่พวกเราเครียดกันอยู่ บ้านข้างๆแจง เปิดประตูเดินออกมากันหลายคน มีป้าคนนึงทักแจงว่า “แจง ป๊ากะม๊ากลับวันนี้มั้ย” แจงหันไปตอบ ใช่ค่ะ ป้าพูดต่อ “ ฝากบอกป๊ากะม๊าด้วยนะ ว่าอาม่าปี๊ เสียแล้วกำลังไปรับศพที่โรงพยาบาล” เรานี่ตัวเย็นเหมือนอยู่ในขั้วโลกเหนือเลยค่ะ เรายังไม่ทันพูดอะไร ซันพูดว่า “อย่าบอกนะว่าในแก้วคือ..”
ชื่ออาม่าปี๊ แก้วไปหยุดที่ ป. อี ยิ้ม!!!!” พวกเราค่อยๆเดินมานั่งตรงโต๊ะตรงข้ามบ้านแจง จะเอาไงต่อดีแจง ยังไม่ทันคิด เหมือนฟ้าส่งมา พ่อกับแม่แจงขับรถมาจอดหน้าบ้านพอดี แจงวิ่งไปจูงมือแม่มา พวกเรารีบเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง โชคดีที่แม่ไม่ได้ว่าอะไรมาก แต่หูก็ชาไป555 แม่บอกพวกเราว่า “งานศพอาม่า ก็ไปขอขมาเค้าซะ ม๊าจะไปบอกอาอี๊ให้(ลูกอาม่าปี๊)” ไปๆเข้าบ้านก่อน ม๊ามีธุระอีกเยอะ จะไปจัดการเรื่องอาส้มอีก “ พวกเรามองหน้ากันก่อนที่หม่จะพูดออกมาว่า “เออ!! แจงเราลืมพี่ส้ม วิ่งออกมาลืมเอาพี่ส้มออกมาด้วย” เออๆใช่ๆ ไปดูแกก่อนนะ “แจงกำลังเดินไป เห็นแม่ที่กำลังยืนคิ้วชนกันอยู่ “พูดอะไรแจง พี่ส้มที่ไหน” ก็พี่ส้มอ่ะม๊า ตอนที่พวกหนูเล่นกันอยู่พี่ส้มเปิดประตูเข้ามาแล้วนั่งข้างๆหนู พอเอามือออก วิ่งกันลงมา ลืมพี่ส้มไว้อ่ะดิ ไปดูก่อนเดี๋ยวแกช็อค” แจงพูดเสร็จกำลังจะเดินไป “ ไม่ต้องแจง” ระหว่างที่แม่ลูกกำลังคุยกัน เราเหลือบมองไปบนบ้านเห็นพี่ส้มยืนเกาะหน้าต่างอยู่ กำลังจะหันไปบอกแจงว่าพี่ส้มอยู่ตรงนั้นไม่เป็นไรหรอก ยังไม่ทันอ้าปาก เสียงแม่พูดและเป็นคำพูดที่เราโคตรไม่อยากได้ยินว่า “ ไอ้ส้มมันลากลับบ้านมันเมื่อเช้า แต่ยังไม่ได้ไปไหนเลย รถชนตรงจัตุจักร ตายคาที่ ม๊าต้องรีบมาเอาเอกสารมันที่บ้านเราไปให้ตำรวจนี่ไง” สิ้นเสียงแม่ เราไม่กล้าแม้แต่จะหันขึ้นไปดูข้างบนอีก
บทสรุปเรื่องนี้นะคะ พวกเราสี่คนได้ไปขอขมาอาม่าปี๊เรียบร้อย และไม่มีอะไรเกิดขึ้นคิดว่าอาม่าคงให้อภัย และพวกเราจุดธูปบอกดวงวิญญาณพี่ส้มเรียบร้อยเพราะคิดว่าแกน่าจะมาลา เหตุการณ์ทุกอย่างปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน สวัสดีค่ะ
Post a Comment