วิญญาณที่ตามติด
"วิญญาณที่ตามติด" นั้นต้องการอะไรกันแน่ด้วยสาเหตุอะไรที่ทำให้วิญญาณต้มติด เรื่องจริงจากประสบการณ์จริงโดยสมาชิกพันนามว่า ของเล่นสีชมพู ขอขอบคุณ เรื่องราวหลอนๆไว ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องนี้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ต้องเกริ่นก่อนนะว่า หลังจากที่เราลาออกจากที่ทำงานเก่าเพราะเหตุผลบางอย่าง เราได้ที่ทำงานใหม่ที่อยู่ใกล้หอพักเรา ที่ทำงานใหม่สวัสดิการทุกอย่างดีมาก เราเข้ามาพร้อมๆกันกับเพื่อนคนนึง นางชื่อ ซัน อีซันเป็นเกย์ที่หน้าหล่อมาก เป็นที่จับตามองของบรรดาสาวๆและเก้งกวางทั้งหลาย เราเข้ามาสมัครตำแหน่งเดียวกัน เริ่มงานพร้อมกัน
วันแรกที่มาทำงานก็เป็นปกติค่ะ พี่ๆที่ทำงานก็ช่วยกันสอนงาน เราก็ตั้งใจฟังตามประสาน้องใหม่ หันไปเจออีซัน นั่งหาวแล้วหาวอีก ตานี่แฉะหมดเลยค่ะ วันแรกก็เจอแจ๊คพอตเลยค่ะ เพราะมีงานด่วนต้องอยู่ช่วยพี่ๆ (เราทำงานเป็นบริษัทออแกไนซ์ รับจัดงานค่ะ) เมื่อถึงเวลา ประมานทุ่มเศษ เรากับซันก็นั่งทำใบปลิวเพื่อที่จะไปแจกให้คนเข้ามาชมงานอีเว้นท์ที่บริษัทจัดทำขึ้น ในห้องที่เราทำงานมีเรากับซันนั่งอยู่สองคน พวกพี่ๆอยู่ที่ห้องอื่นกำลังเตรียมงานหลายๆอย่างๆทุกคนกำลังวุ่นวายกับงานที่ทำ คือออฟฟิสเรา จะแบ่งเป็นห้องๆแต่ละห้องก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ในขณะที่เราทำงานกันอยู่ เราชวนซัน ไปเข้าห้องน้ำ ซันๆพาไปเข้าห้องน้ำหน่อย อีซันก็เป็นเพื่อนที่ดีมากค่ะ ตอบทันที่ ไม่ กูคุยกะผู้อยู่(ผู้ชายของมันค่ะ) เราก็เลยเดินไปคนเดียว คือ มีแผนผังแสดงลักษณะออฟฟิสค่ะ
จากที่ดูในผังออฟฟิส เราต้องเดินอ้อมไปเข้าห้องน้ำ เราก็เดินไปคนเดียวค่ะ เราก็เข้าห้องน้ำทำธุระปกติ เราเดินออกจากห้องน้ำ แต่ต้องชะงักเพราะมีผู้ชายคนนึงเดินผ่านหน้าเราไปแล้วเข้าไปในห้องน้ำชาย เราก็เลยเดินออกมา พอมาถึงมุมห้องบัญชี ก็มีผู้ชายคนนึงเดินสวนเราไปทางห้องน้ำแล้วยิ้มให้เรา เราก็ยิ้มให้เพราะคิดว่าเป็นพี่ที่ทำงานที่เราอาจจะไม่เคยเห็น เราเดินมาถึงห้อง เรานั่งลงทำงานต่อ แต่อยู่ดีๆภาพมันก็ชัดเจนขึ้นมาในหัวค่ะ ว่า เราเดินผ่านผู้ชายคนนั้นสองรอบ รอบแรกเขาเดินเข้าห้องน้ำ รอบที่สองห้องบัญชี จะเป็นไปได้ไง!! ใจนึงก็คิดว่าใช่แน่ๆ ใจนึงก็ภาวนาว่าเราคิดไปเอง เพี๊ยะ!!! โอ้ย อีซัน ซันตีแขนเราดังสนั่นเลย เป็นไรที นั่งเหม่ออยู่ได้ พากูไปห้องน้ำหน่อย เอ้าอีนี่ เมื่อกี้กูก็ชวนไม่ไป เออน่าไปเป็นเพื่อนกูหน่อย เราจำยอมต้องพามันไปค่ะ เราก็ยืนรอมันหน้าห้องน้ำพร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ระหว่างที่รอเรารู้สึกเหมือนมีคนเดินผ่านหน้าเราไป เราก็เงยหน้ามอง แต่ไม่มีใครค่ะ เราก็ก้มหน้าเล่นต่อไป ทีนี้ คนเดินผ่านอีกรอบแต่มาหยุดตรงหน้าเราค่ะ เราเห็นเป็นผู้ชายใส่ เสื้อสีฟ้าๆ เราค่อยๆมองขึ้นไป เจออีซันยืนยิ้มอยู่ เราถอนหายใจดึงเฮือกก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้อง เราเดินตามหลังซัน เรามองไปที่ซัน และเห็นว่า ซันใส่เสื้อสีแดงค่ะ แต่ที่เราเห็นสีฟ้าล่ะ เมื่อมาถึงห้องทำงาน พวกพี่ๆก็อยู่กันเต็มห้องเลยค่ะ กำลังยืนสรุปงานและดูความพร้อมของงานอยู่ค่ะ เรามองไปในกลุ่มที่พี่ๆยืนอยู่ เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีฟ้าคนนั้นยืนอยู่ในกลุ่ม เรานี่โล่งใจมากค่ะ คิดเลยว่า เมื่อกี้ที่เจออาจเป็นเพราะเราเบลอๆเลยมองอะไรผิดเพี้ยนไปหมด เมื่อพวกเราเสร็จงาน ก็มีการถ่ายรูปกัน แล้วเราก็กลับบ้านค่ะ
หลังจากที่เราแยกย้ายกะซัน เรากลับมาถึงห้อง อีซันโทรมาค่ะ เราก็รับสาย ว่าไง อีซันสวนทันควันว่า แหมๆๆๆๆชะนี เข้างานวันแรกก็มีคนไปส่งเลยนะ อิจเบาๆค่า เราเงียบเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่มันพูด เลยถามมันต่อว่า อะไรของเนี่ย ใครมาส่งอะไร ซันตอบว่า เอ้าอีที ก็ตอนที่เราแยกกัน กูเห็นพี่ผู้ชายคนนึงเดินมาหา แล้วก็เดินตามหลังไปอ่ะ มีอะไรไม่แบ่งเพื่อนนะชะนี กูล่ะเบื่อ เรานี่ขนลุกไปทั้งตัวเลยค่ะ มองซ้ายมองขวา มองไปรอบๆตัว เพราะคิดว่าถ้าเดินตามมาขนาดนั้น ตอนนี้คงอยู่ในห้องแล้วล่ะ เราบอกซันว่า ซันมากูหน่อย กูไม่ค่อยสบายว่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย แล้วเราถามซันต่อว่า เห็นคนเดินตามก็มาใช่มั้ย ใส่เสื้อสีอะไรวะ ซันตอบว่า อีนี่ ก็พี่คนใส่เสื้อสีฟ้าอ่ะ กูเห็นเค้ายืนมองตั้งแต่อยู่ที่ทำงานแล้วค่ะ ช็อคค่ะ บอกกะซันแค่ว่า อืมๆรีบมาหากูนะ โอเคชะนี ซันตอบตกลง
เดี๋ยวมาต่อน้า เข้าใจนิดนึงที่ เขียนทีละนิด เพราะถ้าจะให้จบเรื่องเลยมันยาว ค่อยๆมาทีละตอนดีกว่า แล้วเราไม่ค่อยว่างด้วย ใจเย็นๆนะคะ
หลังจากที่วางสาย เรานั่งลงบนโซฟา ตัวสั่นไปหมดเลยค่ะ ไม่กล้ามองไปรอบๆห้อง ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหันไปมองข้างๆ แต่เรารู้สึกเหมือน มีคนมานั่งข้างๆ เพราะโซฟามันยุบลง ด้วยความที่เป็นโรคจิตส่วนตัว ทั้งๆที่ไม่อยากเห็น แต่ก็ห้ามสายตาไม่อยู่ เราค่อยๆเหลือบมองไปข้างๆ สิ่งที่เราเห็นคือ ผู้ชายใส้เสื้อสีฟ้าคนนั้นนั่งอยู่ข้างๆเรา เราพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์แผ่เมตตา ท่องทุกบทที่นึกออก สักพักเค้าก็หายไป หลังจากนั้นประมานไม่ถึง 5 นาที เราได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงซันตะโกนเรียก โอ้ย เสียงจากสวรรค์ เรารีบลุกขึ้นไปเปิดประตู อีซันเดินเข้ามา (ห้องซันกะห้องเราอยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ อยู่คนละตึก แต่ตึกเราติดกัน) อีซันพูดกับเราว่า นี่ชะนี ไปพูดอะไรกับพี่เค้าวะ เดินสวนกันเมื่อกี้ หน้าเค้าดูเศร้าๆ เราได้ยินกลับดีใจ เราถามซันว่า เค้าไปแล้วเหรอ จริงป่าว ซันทำหน้างงๆแล้วพูดว่า เอ้าอีนี่ แลมีความสุขมากเลยนะ อีสวย เราหัวเราะ แล้วชวนมันมานั่งดูหนัง
เราตัดสินใจถามซันว่า ซัน พี่เค้าอยู่ที่ทำงานเราเหรอ อยู่แผนกไหนวะ ซันตอบว่า เออดิ กูไม่รู้ว่ะว่าอยู่แผนกไหน แต่ก็เห็นถ่ายรูปกับเรานะ อยู่แผนกเรามั้ง เอ้อใช่!! ถ่ายรูป เราพูดขึ้น ซันทำหน้างงๆแล้วพูดต่อว่าเออดิถ่ายรูป เค้ายืนข้างหลังอ่ะ อุ้ย กูเบื่อ แล้วนางก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เรานี่ขนลุกไปหมดเลย เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย หลังจากนั้นเรากับซันก็เข้านอนกันปกติ ซันนอนข้างล่าง เรานอนบนเตียง ตกดึก เรารู้สึกเหมือนมีคนมานอนใกล้เรา ซันคงปวดหลัง เราบอกมันว่า อย่านอนดิ้นนะ สักพักมีคนหายใจรดคอเรา เสียง ฟืด ฟืด ประมานสี่หารอบ เราเลยหันไปจะด่าซัน เพราะนอนไม่หลับ แต่ภาพที่เราเห็นคือ ซันนอนกอดหมอนข้างอยู่ข้างล่าง เราลุกขึ้นวิ่งไปเปิดไฟ ซันตื่นขึ้นมาโวยวายนิดหน่อย ทีเปิดไฟทำไมวะ กูจะนอน เราตั้งสติได้ เลยปิดไฟแล้ว ไปนอนบนเตียงเราสวดมนต์และแผ่เมตตา สักพักเราหลับไปโดยที่ไม่ฝันอะไรเลย ทุกอย่างเป็นปกติ
เสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้า เราตื่นขึ้นมาไม่เจอซัน เราเลยโทรหา
ฮัลโหลซัน อยู่ไหนเนี่ย กะกูอยู่ห้อง เจอกันที่ทำงานนะ แค่นี้นะ แล้วมันก็วางสายไป เราก็งงสิ ทำไมมันดูรีบๆยังไงไม่รู้ ก็ยังไม่สายนี่นา เราก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานปกติ เมื่อถึงที่ทำงาน เราเจอซัน ซันมองหน้าเราแล้วมองไปรอบๆตัวเราเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง เราถามว่า หาใครเนี่ย แล้วเป็นอะไรเมื่อเช้ากลับห้องตอนไหนทำไมไม่บอกกู ซันลากเราไปที่มุมห้องที่ทำงานแล้วบอกว่า ที เมื่อคืนกูตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนประมานตีสามตีสี่ พอกูออกมาจากห้องน้ำ กูเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีฟ้า ยืนมองอยู่ข้างเตียง ตอนแรกก็นึกว่านัดผู้ชายมา แต่กูว่าไม่ใช่แน่ๆ กูเลยรีบออกมาจากห้องอ่ะ เราถามมันว่า คนเดียวกันกับที่เห็นที่นี่มั้ย แล้วเป็นคนเดียวกับที่เห็นเดินตามกูมั้ย มันบอกว่า ใช่ ระหว่างที่เราสองคนกำลัง ตะลึงที่ได้ยิน รุ่นพี่คนนึงเดินมาแล้วพูดว่า พวกน้องๆทำอะไรกันจ๊ะ เมื่อวานขอบใจมากนะ พวกเราหันไปตอบ ค่ะพี่ เออนี่มาดูรูปที่เราถ่ายกัน พี่เค้าพูดพร้อมยื่นรูปให้เราดู อีซันนี่สั่นไปทั้งตัวเลยค่ะ เพราะตอนถ่ายรูป ซันยืนข้างหลังเรา และมันบอกว่าผู้ชายคนนั้นก็ยืนข้างหลังเราและยืนข้างๆมัน แต่ในรูป มีมันคนเดียวที่ยืนข้างหลังเรา มันจับแขนเราแน่น เราพยายามปลอบใจมันว่า เดี๋ยวเราไปทำบุญกันเนาะ เค้าคงอยากได้ส่วนบุญแหละ
หลังจากนั้นเราก็นั่งทำงานกัน เราก็พลางคิดเรื่องนี้ไปด้วย หันหน้าไปหาซัน นางก็ทำหน้าเครียดตลอ
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง พี่ในแผนกเราคุยกับพี่อีกคนนึงว่า นี่ยุ้ย(ชื่อพี่คนนั้นค่ะ) ตกลงทำบุญร้อยวันผู้จัดการทำที่ไหนวะ เรากะอีซันมองหน้ากันทันที ซันตาโตมาก พี่ยุ้ยบอกว่า น่าจะป็นที่บ้านเค้าแหละเดี๋ยวถามอีก เอ้อ พรุ่งนี้แล้วนี่หว่า เดี๋ยวไปถามเลย พี่ยุ้ยพูดพลางเก็บของไปด้วย พี่ยุ้ยครับ อีซันเรียกพี่ยุ้ยแล้วถามว่า ทำบุญร้อยวันใครเหรอครับ ผู้จัดการเป็นอะไรตายครับ แล้วใส่ดเสื้อสีฟ้ามั้ย เราตีแขนซันแล้วพูดว่า ใจเย็นๆดิ ถามไรเยอะแยะวะ เรามองไปรอบๆห้อง พวกพี่ๆเค้ามองหน้ากัน สีหน้าท่าทางแปลกๆ แล้วหันมาพูดกับพวกเราว่า ผู้จัดการฝ่ายขาย เสียเมื่อสามเดือนที่แล้ว เป็นโรคหอบ เสียที่นี่แหละ พวกแกเห็นเหรอ เราไม่พูดอะไรแต่อีซันค่ะ เห็น เห็นสิพี่ บลาๆๆๆๆ นางเล่าระเอียดยิบ ระหว่างที่นางเล่าเรานั่งนิ่งเลยค่ะ จะไม่ให้นิ่งได้ยังไง ก็พี่คนนั้น ยืนอยู่มุมห้อง หลังจากที่ซันเล่าจบ พี่คนนึงในกลุ่มก็พูดขึ้นมาว่า ก่อนตายแกเป็นคนขึ้เล่น เวลามีน้องใหม่เข้ามาไม่ว่าจะแผนกไหนโดนแกล้งทุกคน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทำบุญให้แกกัน หลังจากเราทำบุญเสร็จ เราก็ไม่เคยเห็นหรือสัมผัสพี่แกอีกเลย แต่มีเมสเซ็นเจอร์เข้ามาใหม่ อยู่ดีๆก็เดินเข้ามาถามแผนกเราว่า เอาขนมมาให้พี่คนนึงครับเค้าบอกอยากกินให้ไปซื้อมาให้ เค้าอยู่แผนกไหนครับ พี่ยุ้ยเลยถามว่า ใครคะ คนไหน เมสเซ็นเจอร์บอกว่า อ๋อ ผู้ชายขใส่เสื้อสีฟ้าๆครับ พวกเรามองหน้ากันแล้วเงียบกันทั้งห้องค่ะ พี่ยุ้ยเลยเดินไปหยิบขนมแล้วบอกว่า เดี๋ยวพี่เอาไปให้เค้าเอง
จบแล้วค่า เดี๋ยวเรื่องต่อไปจะมาเขียนให้อ่านกันนะคะ เป็นประสบการณ์ทำงานการจัดงานแต่งงาน และปริศนา เมื่องานแต่งนี้มีเจ้าสาว 2 คน เอาไว้ว่างๆจะมาเล่านะคะ สวัสดีค่ะ
จากพันทิป วิญญาณที่ตามติด
เรื่องโดย ของเล่นสีชมพู
Post a Comment